10 มิ.ย. 2021 เวลา 09:00 • ปรัชญา
“ KINTSUGI “
ศิลปะแห่งการซ่อมแซมตัวเอง
2
✔ Part 2 - เริ่มต้นเยียวยาบาดแผลของชีวิต
หลังจากที่เนิร์ดได้อธิบายเกี่ยวกับความเจ็บปวดที่ทุกคนต้องเจอในชีวิตไปแล้วใน Part แรก มาต่อกันใน Part ที่ 2 เราจะมาเรียนรู้การเยียวยาตัวเองจากความเจ็บปวดแบบ “คินสึงิ” กันครับ
แต่การจะเยียวยานั้นหลายคนมักคิดว่าต้องรอจนถึงจุดต่ำสุดหรือแทบทนไม่ไหวเสียก่อนค่อยลงมือทำอะไรบางอย่างจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน แต่หารู้ไม่ว่าบางครั้งการถึงจุดต่ำสุดคุณอาจไม่มีพลังเพียงพอที่จะเยียวยาตัวเองได้แล้ว
ยกตัวอย่าง หากคุณโดนยุงกัดเพียง 1 ตัว คุณจะลงมือจุดยากันยุง หรือ รอให้ยุงกัดจนทนไม่ไหวเสียก่อนค่อยจุด หากรอจนทนไม่ไหวไม่แน่ว่าตัวคุณอาจจะเป็นไข้เลือดออกเสียก่อน
ขั้นตอนแรกของการเยียวยาคือต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะเยียวยาตัวเองไปเพื่ออะไร นั่นคือค้นหาเป้าหมายชีวิตคุณตามแนวคิดแบบอิคิไกนั่นเอง และเริ่มเก็บเศษซากมาวางเรียงให้สวยงามเพื่อให้เข้าใจก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น(อย่าปนสิ่งอื่นมาในเศษซากของคุณ เช่น การโทษตัวเอง หรือแต่งเติมเรื่องราว) รู้สึกอย่างไรกับปัญหานี้ นี่คือก้าวแรกในการเริ่มเข้าใจเรื่องเลวร้าย
1
หลังจากนั้นวิเคราะห์เรื่องต่างๆ ด้วยคำถามต่อไปนี้ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจึงเกิดขึ้น? โต้ตอบไปอย่างไร? ผลที่ตามมาคืออะไร? เรียนรู้อะไรได้บ้าง? และที่สำคัญ ชีวิตที่หากไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นจะดีขึ้นอย่างไร?
คำถามสุดท้ายนี้เป็นแหล่งของความเจ็บปวดหลายคน บางเหตุการณ์เราไม่ได้เจ็บปวดเอง แต่เจ็บปวดเพราะคิดว่าทำให้คนที่เรารักพบเรื่องเลวร้าย เช่น การสอบตกที่จริงๆแล้วไม่ได้ทำให้เราเจ็บปวดจริงๆหรอกแต่เจ็บเพราะกลัวว่าพ่อแม่จะผิดหวังในตัวเรามากกว่า ใครที่กำลังเจอกับปัญหานี้อย่ารวมความเจ็บปวดไว้ที่ตัวเราเลยนะครับ
หลังจากทบทวนปัญหามาสักพักเราจะได้ข้อสรุปมากมายจงเก็บข้อมูลไว้ให้ครบถ้วนแล้วไปกันต่อเลยครับ!!
อย่าทำร้ายตัวเองจงอ่อนโยนทั้งต่อจิตใจตัวเองและคนอื่น เชื่อได้ว่าหลายคนที่มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองเมื่อเกิดเรื่องเลวร้าย เช่น กักตัวอยู่ในห้องและอดอาหารจนผอมโซราวกับว่าเพื่อไถ่บาป ราวกับเป็นพิธีลุยไฟพิสูจน์ตนเองในสมัยก่อนไปซะอย่างนั้น สิ่งที่ควรทำคือ เมตตาต่อตนเอง ให้อภัยผู้อื่น นำอดีตที่เลวร้ายมาเป็นบทเรียนที่ดี รักตัวเองให้มากๆ และลืมสิ่งที่แย่ไปทั้งหมด
2
เหมือนกับการเรียนประวัติศาสตร์ที่คนเราควรเรียนรู้จากอดีตเพื่อปรับปรุงตัวเองในอนาคต แต่อดีตที่ว่าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ดีเสมอไปเพียงแค่เราเลือกเก็บข้อคิดดีๆไว้เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตเท่านั้น
หลังจากเยียวยาตัวเองได้ในขั้นต้น บางคนจะเกิดกิจวัตรประจำชีวิตใหม่ๆจากเรื่องเลวร้ายนั้น เช่น หากเคยมีเงินไม่พอใช้ ก็จะเกิดนิสัยรอบคอบในการใช้เงินมากขึ้นนี่ก็เป็นธรรมชาติของการเยียวยาตัวเองเช่นกัน
สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เกิดความเข้มแข็งทางอารมณ์ กลายเป็นว่ายิ่งเยียวยาตัวเองมากเท่าไรยิ่งพัฒนาตัวเองได้มากเท่านั้น คุณจะรู้ได้ง่ายว่าคนไหนนิสัยดีหรือไม่ดี ความสัมพันธ์แบบไหนที่มีคุณภาพ เพราะบาดแผลของคุณคือสัญลักษณ์ของประสบการณ์ที่เพิ่มพูนมากขึ้นในทุกวัน
สุดท้ายของการเยียวยาตัวเองคือการแต่งแต้มตำหนิให้งดงาม คุณสามารถนำรอยบาดแผลของคุณสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้กับตัวเองด้วยลวดลายที่ไม่เหมือนใคร เติบโตด้วยวิถีชีวิตแบบที่คุณเป็นและไม่สนใจสายตาของผู้อื่น เพราะอดีตไม่ใช่สิ่งที่ควรปกปิดแต่ควรนำมาเป็นบทเรียนเพื่อเติบโตต่อไปในอนาคต เนิร์ดว่าเราทุกควรล้วนโตได้จากอดีตนะครับ
หวังว่าหลังจากที่ทุกคนมีทุกอย่างพร้อมสำหรับการเยียวยาตัวเองแล้ว หากมีเรื่องเลวร้ายหรือบาดแผลในอดีตคงจะสามารถเงยหน้าสู้ด้วยทัศนคติที่ดีได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มีจิตใจที่ทั้งเติบโต สวยงามและแข็งแกร่งขึ้นตามแบบฉบับ “คินสึงิ”
หากอยากอ่านแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้งผสมกับความรู้ด้านจิตวิทยาแบบเข้มข้น เนิร์ดขอแนะนำหนังสือที่ใช้อ้างอิงบทความนี้คือ Kintsugi by Tomas Navarro
*** อย่าลืมกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจให้เนิร์ดเขียนบทความดีๆแบบนี้กันด้วยนะครับบ!! 🙏🏻👋
ท่านใดที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เนิร์ดอยากจะบอกว่า ทุกปัญหา ทุกบาดแผล ยังมีทางแก้ แล้วนำมาพัฒนาใหม่ได้ เนิร์ดขอเป็นกำลังใจดวงเล็กๆให้ทุกๆท่านนะครับ
1
โฆษณา