11 มิ.ย. 2021 เวลา 03:21 • ปรัชญา
อยากประสบความสำเร็จ เริ่มต้นอย่างไร
ทัศนคติสู่ความสำเร็จ Successful Mindset
คำว่าความสำเร็จคืออะไร จบการศึกษาจากสถาบันต่างประเทศ ทำงานองค์กรที่มั่นคง ฐานะร่ำรวย หรือการเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคม หรือบางคน ความสำเร็จคือการมีเงินที่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวไม่ให้ลำบากก็เพียงพอแล้ว นิยามความสำเร็จของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเรามีความต้องการและพอใจในระดับใด
แต่ถ้ามองลึกลงไปในก้นบึ้งของคนๆนั้น จะพบว่า สิ่งที่คนประสบความสำเร็จมีเหมือนกันคือการมีทัศนคติที่นำไปสู่ความสำเร็จ ทัศนคติเหล่านั้นคืออะไร
ความต้องการของมนุษย์
1 การชื่นชมตัวเอง
สมัยเรียนชั้นประถม รู้สึกอายเพื่อน ๆ เวลาเข้าแถว เนื่องจากตัวสูง ต้องอยู่หัวแถว แต่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ตัวเล็ก เคยคิดอิจฉาเพื่อน ๆ อยากตัวเล็ก ๆ หุ่นดี ๆ แต่มามองตัวเรา ทำไมสูงและอวบ พยายามทานยาลดน้ำหนัก ลดไปลดมา จนผอม แต่ก็ยังไม่สวย เพราะผอมไป ทานยา แต่ไม่ได้ออกกำลังกาย ผอมแต่ไม่มีกล้ามเนื้อ ดูยังไงก็ไม่สวย จนคนในครอบครัวบอกว่ารูปร่างเดิมก็ดีอยู่แล้ว เพราะอวบกำลังดี จะลดไปทำไม เลยหยุดทานยา และหันกลับมาทานเยอะ ๆ เพื่อจะให้น้ำหนักเพิ่ม แต่ทำอย่างไรน้ำหนักก็ไม่กลับไปเท่าเดิม แต่บางครั้งก็มีคนชมว่ารูปร่างดีแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้และดีที่สุดคือออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ผอมไปหรืออ้วนไป ตัวเราเท่านั้นที่จะบอกตัวเองได้ เราไม่สามารถเป็นทุกสิ่งที่คนอยากให้เราเป็นได้ ดังนั้นจงเป็นตัวเอง และชื่มชมในสิ่งที่ตัวเราเป็นดีที่สุด
ชื่นชมตัวเอง
2 เชื่อมั่นในตัวเอง
สมัยมัธยมเคยเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ทั้งที่เรียนเก่งและอยู่ห้องที่รวมเด็กเก่งไว้ด้วยกัน คิดว่าตัวเองมาจากโรงเรียนวัด จะสู้เพื่อน ๆ ที่มาจากโรงเรียนระดับจังหวัดได้อย่างไร พฤติกรรมที่แสดงออกในเวลานั้นคือ ไม่มั่นใจเวลาจะคุยกับเพื่อน ไม่กล้าคุยกับเพื่อน ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน เมื่อเราเป็นคนปิดกั้นตัวเอง เพื่อน ๆ ก็ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วย ยิ่งไม่มีเพื่อนเข้ามาคุยด้วย ก็คิดไปเองว่า ตัวเราต่ำต้อย จนถึงขั้นไม่อยากไปโรงเรียน และหนีโรงเรียนในที่สุด เพื่อคิดย้อนกลับไป ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าเสียดายโอกาสดี ๆ จริง ๆ เพราะปัจจุบันกลับมาเจอเพื่อนเหล่านั้น แต่ละคนมีหน้าที่การงานที่ดี เป็นหมอ วิศวกร พยาบาล และเมื่อได้กลับมาคุยกัน ทุกคนน่ารักและเป็นเพื่อนที่ดี และไม่มีใครติดใจถามถึงอดีตที่ผ่านมาของเราเลย ปัจจุบันความมั่นใจเรามีมากขึ้น อาจจะมั่นใจ มั่นหน้า มากมาย สิ่งที่ในอดีตไม่เคยจะกล้าทำ เช่นการเต้นรำ การพูดหน้าชั้นเรียน การพูดคุยกับคนแปลกหน้า การทำกิจกรรมที่มีคนเยอะ ๆ ปัจจุบันทำหมด และพบว่าตัวเองทำได้ดี มีความสามารถและพรสวรรค์ในการแสดง และได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดงในกิจกรรมของบริษัท ฯ เป็นประจำ อดีตไม่สามารถย้อนกลับไปได้ แต่อยากบอกว่า จงมั่นใจในตัวเอง มั่นใจว่าเราเองก็มีดี และหาส่วนดีของตัวเองให้เจอเร็วที่สุด เพื่อจะได้พัฒนาและต่อยอดไปสู่ความสำเร็จได้เร็วกว่าคนอื่น
เชื่อมั่นในตัวเอง
3 สิ่งที่เกิดขึ้นเราเลือกไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะตอบสนองได้ ถ้ามี 10% ที่เราไม่ happy เราเลือกที่จะตอบสนองอีก 90% อย่างไร
ถ้ามีคนด่าเรา นินทาเรา เกลียดเรา เราจะโต้ตอบเขาอย่างไร ด่ากลับ ท้าต่อยตี หรือทำไม่ดีกับคนนั้นไปเลยไหม ในช่วงชีวิตของคนเราย่อมเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย เรื่องดีเก็บไว้เป็นกำลังใจ สำหรับเรื่องไม่ดี เราจะตั้งรับอย่างไร มีคนด่า นินทา แสดงว่าเราเป็นคนน่าสนใจ เป็นบุคคลมีชื่อเสียง หรือเป็นบุคคลสาธารณะใช่ไหม สิ่งที่เขาด่า ใช่เรื่องจริงหรือข้อเสียที่เราควรจะต้องปรับปรุงไหม ถ้าใช่ก็ปรับปรุง ถ้าไม่ใช่ ควรเลือกที่จะไม่รับฟัง และไม่นำมาคิดให้รกสมอง
อย่านำคำนินทามาทำให้ชีวิตเป็นทุกข์
4 รู้จักให้ตัวเองก่อนที่จะให้ผู้อื่น ก่อนจะว่าผู้อื่นให้หันมาดูตัวเองก่อนว่าเราทำสิ่งนั้นหรือไม่ ฝึกการเติมเต็มให้ตัวเอง เช่น ฝึกการชื่นชมตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองอยากทำ
ถ้าตัวเรายังขาด ยังต้องการการเติมเต็ม เราจะให้สิ่งใดกับผู้อื่นได้อย่างไร ถ้าให้ก็ยังเป็นการให้ที่หวังผลตอบแทน การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ควรช่วยเหลือหรือพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด พยามหัดทำให้ได้ทุกอย่าง เพราะตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และใช้ชีวิตที่เป็นตัวเองอย่างเต็มที่เท่าที่เราอยากทำและอยากเป็น เมื่อเราพึ่งตัวเองได้ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามที่ต้องการแล้ว หากเราจะแบ่งปัน ก็ทำได้อย่างเต็มที่และเต็มใจ
รักตัวเองก่อน
5 ความทุกข์ในชีวิตคนเรา ส่วนใหญ่เกิดจากการที่เราต้องมีความสัมพันธ์กับคนอื่น เรารับความทุกข์หรือเรื่องของคนอื่น เข้ามาในชีวิตเรา เช่น บางครั้งเราช่วยใครสักคน และช่วยโดยการทำแทนเขาไปเลย ไม่ได้สอนให้เขาช่วยเหลือหรือทำด้วยตัวเอง เมื่อเขามีปัญหาเดิมเข้ามา ก็ต้องมาขอความช่วยเหลืออีก ดังนั้น จงกล้าที่จะปฎิเสธ ถ้าจะถูกต่อว่า ว่าไม่มีน้ำใจ หรือใจดำ ก็ต้องยอมรับ คือกล้าที่จะถูกเกลียด ให้คิดก่อนว่าเป็นธุระของใคร ธุระของใครเขาต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง เราไม่ต้องสนใจว่าใครจะชอบเรา ใครจะรู้สึกอย่างไรกับเรา แต่ให้สนใจว่าสิ่งที่เราทำ ตัวเราชอบหรือไม่
กล้าที่จะปฎิเสธ
6 ความทุกข์หนัก ๆ เกิดจากการกังวลกับอดีตและอนาคต ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นอารมณ์ เพราะความจริงคือสิ่งที่จับต้องได้ แต่ความคิดไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ จงจดจ่อกับปัจจุบันขณะ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และจงผ่านความทุกข์หนัก ๆ ไปให้ได้ เพราะหลังจากนั้นสิ่งที่ดี ๆ จะตามมาเสมอ
ปล่อยวาง
7 ถ้าอยากสมหวังในความรัก ต้องมี Mindset ว่าความรักคือการให้ไม่ใช่การครอบครอง ต้องอย่าคาดหวังและเรียกร้องจากอีกฝ่ายหนึ่ง เราต้องเติมเต็มในตัวเอง เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และพร้อมจะที่แบ่งปันให้ผู้อื่น ก่อนที่จะคบใครเป็นแฟน ให้คิดว่าจะสามารถคบคนนั้นเป็นเพื่อนในระยะยาวได้หรือไม่
ความรัก
8 การไม่กล้าเริ่มต้นเพราะกลัวล้มเหลว เราต้องมี Mindset ว่าถ้าอยากเริ่มต้นทำอะไร ให้ทำท้นที ไม่ต้องกลัวหากจะไม่สำเร็จ เพราะความล้มเหลวไม่มี มีแต่การเรียนรู้ จงฝึกถามตัวเองว่าที่เราไม่สำเร็จครั้งนี้เกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร อย่าทำผิดพลาดในสิ่งเดิม ๆ
ความล้มเหลวไม่มี มีแต่การเรียนรู้
9 ปัญหาที่เกิดซ้ำ ๆ เดิมๆ ในชีวิตเรา ทำให้เราไม่ค่อยพอใจหรือมีความทุกข์ กับชีวิต เกิดจากเราไม่สามารถก้าวข้ามปัญหานั้นได้ ดังนั้นจงทบทวนว่าปัญหาเกิดจากอะไร เกิดจาก Mindset ที่ยังไม่ถูกต้องในเรื่องใดหรือไม่ และจะแก้ไขได้อย่างไร หากเราสามารถหัวเราะให้กับปัญหาได้ มองว่าปัญหาเป็นมิตร สามารถให้อภัยผู้อื่นที่ทำให้เรามีปัญหาได้ เมื่อนั้นถือว่าเราก้าวข้ามพ้น และเมื่อเกิดปัญหาเดิมขึ้นอีก เราจะไม่ทุกข์เท่าเดิม มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และพร้อมที่รับปัญหาใหญ่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ยิ้มให้กับปัญหา
10 คนที่ประสบความสำเร็จ ให้มองชีวิตเหมือนคนเช่าห้อง ที่เราจะได้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว เปรียบเสมือนวิญญาณหรือพลังชีวิต ที่อาศัยในร่างมนุษย์เป็นการชั่วคราวและเมื่อร่างดับสลาย วิญญาณหรือพลังงานก็ต้องไปอาศัยในร่างใหม่ต่อไป ดังนั้นให้ตั้งเป้าหมายว่าในช่วงที่เรามีชีวิตอยู่ จะสามารถช่วยเหลือหรือทำประโยชน์ให้โลกหรือเพื่อนมนุษย์ ได้อย่างไร
สุขที่แท้จริง
เครดิตโดย CEO เรือรบ ทัศนคติสู่ความสำเร็จ Successful Mindset
นักเขียน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการสื่อสารและการฟัง
CEO ผู้ก่อตั้ง Learning Hub Thailand
โฆษณา