🌸{ หงส์เหนือมังกร }🌸
.. 🍃🌸🌿 ..
นับจากวันนี้...
ย้อนกลับไปวันนั้น...
เมื่อหลายสิบกว่าปี...
ในยุคที่คาราโอเกะครองเมือง
ในยุคที่การแข่งขันร้องเพลง
กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่
มีเด็กคนหนึ่ง...
เฝ้าคิดว่าตัวเองคือคนที่
ร้องเพลงเพราะกว่าทุกคน
น่าขัน...
เด็กคนนั้นหลง...คิดแบบนั้น
แม่เด็กน้อยหัวเราะหยัน
เฝ้าบอกอย่าทะนงตัว
อย่าคิดว่าตัวเองเก่งที่สุด
เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า...จำไว้
สักวันจะเข้าใจ...
.. 🍃🌸🌿 ..
บางคำ...
ใช้เวลาหลายปีกว่าจะเข้าใจ
บางอย่าง...
ไม่ได้เผชิญไม่มีวันเข้าใจ
.. 🍃🌸🌿 ..
ความทะนงตัว
ความหลงตัวเอง
ความเหลิงมากขึ้นทุกวัน
จนได้เจอเจ้าของค่ายเพลงเล็กๆ ที่หานักร้องใกล้เปิดตัวด้วยการจัดแข่งขันร้องเพลงตามจังหวัดต่างๆ
เหมือนถูกถือหาง ด้วยได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่
วันเข้ารอบรอชิง ดีใจ
วันไปชมผู้เข้าแข่งขันคนอื่น
ถูกเชิญให้โชว์เพลง
เหลิง... ร้องหงส์เหนือมังกร
ร้องด้วยความเหิมเกริม
คิดว่าชัยชนะอยู่ในมือแล้ว
แต่แล้ว...
ตกตุ๊บลงมา...
หลายคนมองว่าคงเจ็บสิ
เปล่า... ไม่ได้เจ็บเลย
ถึงจะคิดอะไรใหญ่เกินกำลัง
แต่ไม่เคยมีความฝันว่าจะเป็นนักร้อง
แค่เด็กที่ชอบตะโกนร้องเพลงคนหนึ่ง
หลายคนเข้ามาปลอบว่าไม่เป็นไรนะ แต่หลายคนไม่เคยมองหน้าเด็กน้อยเลย ว่าไม่ได้รู้สึกอะไร
เพียงแต่...
วันที่ตกตุ๊บลงมา พลาดชัยชนะ ทำให้เข้าใจคำว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" ที่แม่เคยบอกไว้เท่านั้น...
.. จากนั้น
.. ความคิดเปลี่ยน
.. หลายคนบอกคิดกลับด้านหนักยิ่งกว่าเก่า
.. คิดว่าตัวเองเป็นคนร้องเพลงงั้นๆ
.. คิดว่าเสียงก็งั้นๆ
.. ไม่ได้รัองเพลงดีจัดอะไรเบอร์นั้น
หลายคนบอก "คิดบั่นทอนตัวเองทำไม ต้องคิดในแง่ดี ว่าสู้คนอื่นได้"
เด็กน้อยแอบมองบน...
การคิดว่าตัวเองงั้นๆ เหมือนกันกับถอดหัวโขนออก เหมือนกับการโยนก้อนหินอันหนักอึ้งไปไกลตัว เพื่อให้เกิดความสุขกาย สบายใจ แล้วก็เปล่งเสียงออกมาตามที่อยากร้องในแต่ละวินาทีนั้นๆ
หลายคนเข้าใจความคิด
อาจารย์ที่สอนมา คนอื่นๆ เข้าใจความคิดนี้
แต่มีคนเดียว... ที่เข้าใจแต่ยังไม่ยอมรับ
คนที่บอกว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" หลายเรื่องเข้าใจกัน
เว้นแต่เรื่องของเสียง... ที่ยังหาจุดที่สรุปไม่ได้
แต่... หยวนๆ ให้
จนนน... วันหนึ่ง... ทำให้คนที่บอก "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" เข้าใจความคิดนั้นแบบไม่รู้ตัว
คือการแข่งร้องเพลงครั้งสุดท้าย ที่คนรอบข้างพากันถกเถียงกัน และต้องยุติด้วยการลงแข่ง
รอบคัดเลือก... ทุกคนยังถกเถียงเรื่องเพลง
เด็กน้อยเฝ้ามองเฝ้าฟัง แล้วเลือกเพลงที่น้าต้องการให้ร้องเป็นเพลงหลัก และเพลงที่แม่ต้องการเป็นเพลงรอง (ให้ส่งสองเพลง)
เมื่อเข้ารอบสู่รอบชิง คนรอบข้างยังคงถกเถียงกัน เด็กน้อยนิ่งและฟัง
เพราะน้าและแม่ไม่รู้ว่าเด็กน้อยเจอแรงกดดันจากดีเจ พิธีกร และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นอย่างไรมาบ้าง เรียกว่าสับเกือบเละ
แต่ก็นิ่งและฟัง... ฟัง... และฟัง
แล้วยุติการเลือกด้วยการเสียงแข็งจะร้องเพลงที่ตนเองเลือก ถ้าพลาดจากตอนเริ่มเพลงคือพลาดทั้งเพลง เลยต้องซ้อมอย่างหนัก ตรงช่วงต้นเพลงเยอะที่สุด เพื่อรับมือกับการพลาดที่คาดไม่ถึงทุกรูปแบบ
ในวันแข่งจริง เพื่อนแม่ให้ mp3 บทสวดมา แข่งคนสุดท้าย ตลอดเวลาหลายชั่วโมงที่นั่งดูผู้เข้าแข่งขันอื่นคือ ตาดู หูฟังบทสวด ปากวอร์มเสียงเบาๆ ทวนเนื้อเพลงเป็นระยะๆ
คำที่ได้ยินจากแม่และญาติๆ คือ "ทุกคนเสียงเพราะ ร้องเพราะ สู้ไม่ได้แล้วแหละ"
ในใจเด็กน้อยคิด... โอเค สู้ไม่ได้งั้นปลง โยนการแข่งขันทิ้งไป ไม่ต้องสู้กับใครแล้ว ร้องเพื่อความสุขตัวเองพอ แค่นั้นพอ...
คือความคิดที่ปลดล็อกอะไรหลายอย่าง...
การร้องเพลงบนเวทีครั้งนั้น เลยได้สัมผัสความสุขจริงๆ กับการร้องเพลงค่ะ
เล่าเหมือนอลังการ...
แต่... ในวันนั้น... ถ้าความคิดนี้ไม่แล่นเข้ามา... ก็อาจไม่ได้สัมผัสความสุขจริงๆ จากการร้องเพลงก็ได้ค่ะ
ส่วนแม่ก็เข้าใจลูกสาวมากขึ้น 😁
.. 🍃🌸🌿 ..
ปล. เล่าไปเรื่อยจริงๆ เรื่องเล่าอาจไม่เข้ากับเพลงนะคะ 🤭🤭
สวัสดีค่ะทุกคน สุขสันต์วันศุกร์ มีความสุขทุกคนนะค้าาาา ❤️
#เพลงในวันฝนตก
#เนื้อจีนร้องมั่วค่ะ🤭
ปล. เรื่องเสียง เมื่อก่อน...ด้วยความ copy ให้ใกล้เคียงนักร้องต้นฉบับจนเกินไป จนลืมความจริงว่าทุกคนมีเสียงที่เป็นของตัวเองค่ะ อิอิ 🤭🤭