11 มิ.ย. 2021 เวลา 06:09 • ประวัติศาสตร์
" ผู้พนมมือไหว้แก่ชนทุกชั้น " เล่าปี่ผู้ครองใจลูกน้องดั่งพี่น้อง
จะมีสักกี่คนในสมัยสามก๊กที่เป็นที่รักของผู้คน ของลูกน้อง คนรอบข้างได้เท่า "เล่าปี่ "ผู้นี้ หามีไม่ ถึงขนาดที่ลูกน้องสามารถตาย เพื่อปกป้อง รักษา ดูแลสืบต่อเจตนารมณ์ของบุคคลผู้นี้
หากย้อนกลับไปถึงชาติกำเนิดของบุคคลผู้นี้ ถ้าเปรียบเทียบกับผู้นำของแคว้นวุย(โจโฉ)และแคว้นง้อ (ซุนกวน) แล้วช่างต่างกันยังกับฟ้ากับดิน จากคนสานรองเท้าขาย กลายมาเป็นมังกร ผู้อยู่เหนือคนนับหมื่นแสน ครองแผ่นดินจีนถึง 1 ใน 3 ในสมัยนั้น
บุคคลผู้นี้รบเก่ง? วางแผนกลยุทธ์เก่ง ? ไม่เลยสักนิดเดียว แต่บุคคลผู้นี้ใช้คนเป็น ครองใจคนได้ต่างหาก ดูได้จากฝ่ายบู้ คือ 5 เสือ แห่งแคว้นจัก ฝ่ายบุ๋น คือ " ผู้หยังรู้ดินฟ้ามหาสมุทร " ขงเบ้ง
เหตุการที่เห็นความสามารถของเล่าปี่ได้ชัดที่สุดก็คงเป็นคราว หนีทัพโจโฉที่คราวนั้นมีราษฎรติดตามไปด้วยเป็นจำนวนมาก ได้เกิดเหตุการณ์ที่ "เตี๋ยจูล่ง แห่งเสียงสาน" ได้ควบม้าช่วยเหลือทารกน้อย "อาเต้า" ลูกชายเล่าปี่ให้กลับมาอย่างปลอดภัยได้ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่แสดงถึงความสามารถในตัวเล่าปี่ โดยที่เล่าปี่จะโยนลูกทิ้งลงพื้น แล้วกล่าวว่า "ลูกเมียเปรียบเสมือนเสื้อผ้า แต่พี่น้องเปรียบเสมือนแขนขา" ไอ้ลูกคนนี้มันจะทำให้พี่น้องข้าเกือบจะต้องตาย จบประโยคนี้ทำให้ จู่ล่งแห่งเสียงสานได้มอบกายใจ ให้แก่เล่าปี่ผู้เป็นนาย กับอาเต้าลูกชายจนหมดหัวใจตราบสิ้นชีวิต
อีกอย่างที่มองข้ามไปไม่ได้ในความสามรถของเล่าปี่ คือความอดทนและสู้ไม่ถอยแม้จะล้มกี่ครั้ง แพ้กี่ครั้ง ก็ยังลุกขึ้นสู้จนประสบความสำเร็จในที่สุด
และนี่คือข้อดีของเล่าปี่ ที่ชนคนรุ่นหลังสมควรศึกษานำมาเป็นแบบอย่าง ในการพัฒนาตนเอง ให้กำลังใจตนเอง อย่าย่อท้อต่อโชคชะตา แม้จะล้มกี่ครั้ง แพ้สักกี่ครั้ง จง อดทน นำความผิดพลาดต่างๆมาเป็นบทเรียน แล้วจงทำใหม่ ให้ประสบความสำเร็จให้จงได้
สิรินาม
โฆษณา