Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คนค้นอดีต
•
ติดตาม
11 มิ.ย. 2021 เวลา 06:16 • ประวัติศาสตร์
วัดเขาตะกร้าทอง ตำนานแห่งท้องทะเล - ลพบุรี
จุดชมวิวทิวทัศน์ ที่ไม่ควรพลาด
Ep.18 วัดเขาตะกร้าทอง ( สุวรรณคีรีปิฎก)
วัดเขาตะกร้าทอง ตั้งอยู่บริเวณ อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
ตำนานท้องถิ่น
1
ณ สถานที่แห่งนี้ เมืองลพบุรีเคยเมืองท่า (ชายฝั่งทะเล) ชาวจีนมักจะเดินเรือมาทำการค้าขายเป็นประจำ พ่อค้าจีนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง มีชื่อว่า "พระเจ้ากงจีน" เป็นผู้ควบคุมการเดินเรือและหัวหน้าสำเภาจีนสมัยนั้น
เมื่อพระเจ้ากงจีนมาทำการค้าขาย ก็จะมักมาสู่ขอหญิงสาวท้องถิ่นไปเป็นภรรยาของตนเอง ด้วยเหตุทางการค้า และการเมือง
หญิงสาวรายนั้นที่ชื่อว่า “นงประจันทร์” แต่ทว่าหญิงสาวรายนี้ นางมีคนรักอยู่แล้ว
และคนรักของนาง กลับเป็นผู้เรืองฤทธิ์ ด้วยวิชาอาคม เขาได้แปลงร่างเป็นจระเข้ใหญ่ยักษ์ แล้วมาขวางเรือสำเภาลำหนึ่งเอาไว้ ซึ่งเป็นเรือขันหมากมาสู่ขอนางนงประจันทร์ และได้ล่มเรือสำเภาลำดังกล่าว ให้จมบริเวณชายฝั่งทะเลแห่งนี้
เมื่อครั้งเรือสำเภาที่ขนสินสอดล่มลง จึงทำให้ข้าวของ(สินสอด) ที่อยู่บนเรือ ลอยน้ำไปตามที่ต่างๆ ของเกาะแก่ง
หนึ่งในนั้น คือตะกร้าที่ใส่ทอง สำหรับเป็นของหมั้นหมาย มันได้ลอยน้ำมาเกยตื้น ติดบริเวณภูเขาที่เป็นเกาะกลางน้ำ อันเป็นที่ตั้งของวัดสุวรรณคีรีปิฏกในปัจจุบัน
วัดเขาตะกร้าทอง ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ของภูเขาตะกร้าทอง ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คืออ่างเก็บน้ำซับเหล็ก อยู่ห่างจากตัวเมืองลพบุรีประมาณ 10 กิโลเมตร
อ่างซับเหล็ก ถือว่าเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถูกขุดขึ้นครั้งแรกในสมัยพระนารายณ์มหาราช
ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อเอาน้ำจากที่นี่ไปใช้ในพระราชวังนารายณ์ โดยมีการต่อท่อส่งน้ำเข้าสู่ตัวเมืองสมัยนั้น ถือเป็นต้นกำเนิดของการประปาของประวัติศาสตร์ไทยก็ว่าได้
จุดมุ่งหมายของเรา คือวัดเขาตะกร้าทอง อยู่ห่างจากอ่างซับเหล็ก ประมาณ 800 เมตร เป็นภูเขาลูกเดียวโดด ที่สามารถมองเห็นได้เด่นชัดเจน จากสิ่งปลูกสร้างสีขาวบนภูเขา
วัดแห่งนี้ ถูกสร้างให้ผนวกเป็นส่วนเดียวกันกับภูเขาทั้งลูก โดยใช้ปูนโบกทับส่วนที่เป็นของหินผา และเชิงเขา จนเป็นอาคารทั้งหลัง
มีการสร้างถนนเลาะเลียบเชิงเขาขึ้นไปจนถึงเจดีย์ของวัด ซึ่งมีความชันไม่มากนัก รถยนต์สามารถขึ้นไปจอดได้อย่างสะดวก
ตรงช่องทางเข้า (ชั้น1) ถูกสร้างในลักษณะเป็นประตูขึ้นไปได้ทางเดียว ซึ่งมีความกว้างไม่มาก ให้ความรู้สึก ลึกลับ พิศวง เสมือนเป็นปากทางของถ้ำ
ถ้ำแห่งนี้ อันเป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การปลีกวิเวก และปฏิบัติธรรม ตามวัตถุประสงค์ของพระอาจารย์ผู้คิดริเริ่ม
เมื่อขึ้นมาจะพบกับโถงใหญ่ (ชั้น2) อันเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของสงฆ์ และเป็นสถานที่ประดิษฐาน สังขาร หลวงปู่บุญเหลือ ประภาโส ผู้ร่วมสร้างสถานปฏิบัติแห่งนี้ขึ้นมา ท่านได้มรณภาพไปตั้งแต่ปี 2516
โดยพระสุปฏิปัณโณผู้ก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมา คือ หลวงปู่บุญเหลือ และหลวงปู่ขาว
ตามบันทึกได้กล่าวว่า เมื่อท่านได้เดินธุดงค์ผ่านมายังสถานที่แห่งนี้ กล่าวกันว่าบริเวณยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดนี้ มีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายกับตะกร้า เมื่อยามต้องแสงแดด บริเวณแอ่งนี้จะมีแสงระยิบระยับคล้ายกับทอง จึงเป็นที่มาของชื่อวัดเขาตะกร้าทอง (ไม่อ้างอิงตำนานท้องถิ่น)
อีกฝั่งหนึ่งของโถงใหญ่ (ชั้น2) ถูกแยกออกจากโซนประกอบพิธีกรรมของสงฆ์ เป็นที่ตั้งของแม่ย่านางเรือ (เรือโบราณ) เล่ากันว่า นางมักให้โชคลาภ แก่ผู้มาขออยู่เสมอ และมีเรื่องราวเกี่ยวกับอาถรรพ์ของแม่ย่านางอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะภาพถ่ายที่มีรูปหญิงสาวติดมาบริเวณนั้น
เมื่อออกจากโถงใหญ่ (ชั้น2) ลึกเข้าไปจะเป็นส่วนของถ้ำทางธรรมชาติ มีอยู่หลายแห่ง มีถ้ำสำคัญแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า "ถ้ำมหาโชค" อันเป็นสถานที่สำหรับเจริญภาวนา ของผู้ปฏิบัติธรรม
ด้านในจะมีพระพุทธรูป เป็นองค์ประธาน มีรูปปั้นฤษี และรูปปั้นพญานาคที่สวยงามมาก ให้ความรู้สึกสงบ และรู้สึกหวั่นๆ อยู่ในเวลาเดียวกัน ท่ามกลางเสียงค้างคาว ออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ และบรรยากาศเย็นยะเยือก ราวกับเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำๆ
เมื่อขึ้นบันไดมาอีกชั้น ซึ่งเป็นชั้นลอย หรือชั้นดาดฟ้า (ชั้น3) มีลักษณะเป็นลานกว้าง มีอาคารซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระประธานชื่อว่า พระพุทธสิรินิมิตมงคล
ถัดออกไปตรงมุมซ้ายสุดของชั้น เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าจีน เป็นผู้ออกทุนสร้างวัดยุคแรกๆ ได้สร้างเอาไว้ให้แก่ลูกหลาน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งบุญกุศลครั้งนี้ (มุมนี้มีอาถรรพ์มาก จากความรู้สึก)
อีกมุมหนึ่ง บนชั้นลอยนี้เอง จะเป็นปากถ้ำหลายแห่ง ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาว นับล้านตัว และในช่วงเวลาเย็นของทุกวัน เราจะเห็นฝูงค้างคาว บินออกมาเป็นสายยาว ๆ ราวกับใคร เอาปากกาหมึกสีดำไปขีดไว้บนท้องฟ้า
แต่เราสามารถรับชม ฝูงค้างคาว จากมุมของอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก จะเห็นได้สวยเป็นอย่างมาก ยิ่งเวลาพวกมันบินข้ามอ่างเก็บน้ำ ในเวลาพลบค่ำ เหมือนดั่งภาพเขียนของจิตรกร
หากที่นี่ ถูกทำเป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวของลพบุรี คงจะดีไม่น้อย มันทำให้นึกถึง ถ้ำเจ้าราม จ.สุโขทัย ซึ่งถูกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ชมฝูงค้างคาวที่สำคัญ เพื่อชื่นชมความอัศจรรย์ของธรรมชาติ
และไฮไลท์สำคัญ ของวัดเขาตะกร้าทองแห่งนี้ ที่นอกเหนือจาก การมาปฏิบัติธรรม มาไหว้พระ หรือมาทำบุญ
ก็คือการได้ชมวิว จากมุมสูง ของชั้นลอย วัดเขาตะกร้าทองแห่งนี้ ( โดยเฉพาะ ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น) นับว่าสวยงามที่สุดในจังหวัดลพบุรี (ลับสุดยอด)
ลักษณะของภูเขา ลูกโดดๆ คล้ายไม้ซุงผ่าซีกเช่นนี้ ทำให้นึกถึงภูมิประเทศ จังหวัดกระบี่ และจังหวัดอื่นๆตามชายฝั่งอันดามัน เกิดจากการกัดกร่อนของลมทะเล นับหลายล้านปี จนเกิดเป็นภูเขาลักษณะดังกล่าว
ทำให้เราย้อนมาถึง ตำนานแห่งท้องทะเล ที่เคยได้อ่านมากมาย มาเปรียบเทียบกับความเป็นไปได้ต่างๆ และหลักฐานทางธรณีวิทยาก็เคยกล่าวว่า พื้นที่บริเวณนี้ (สระบุรี - ลพบุรี) เคยเป็นเมืองปากอ่าวทางทะเลมาก่อน
ทำให้ข้าพเจ้าจินตนาการถึงเรื่องราวในอดีต ว่าพื้นที่บริเวณนี้ สมัยก่อนประวัติศาสตร์.. จะเป็นเช่นไร...หรือจะเคยเป็นทะเลมาก่อนจริงๆ ?
เรื่องราวแห่งตำนาน ท้องทะเล-ลพบุรี
ความงดงามของทิวทัศน์ และความอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ของขุนเขาตะกร้าแห่งนี้ จะยังคงเป็นความลับต่อไป....
จนกว่า...จะได้มาพิสูจน์..ด้วยสายตาตนเอง.....
ขอทุกท่านปลอดภัยจากโควิด19
...ไซตามะ....
2 บันทึก
9
5
8
2
9
5
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย