ILO เผยรายงาน แรงงานเด็กเพิ่มขึ้นเป็น 160 ล้านคน ทั่วโลก ครั้งแรกในรอบ 20 ปี #วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก #12มิถุนา
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือไอแอลโอ (International Labour Organization : ILO) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เผยแพร่รายงานเรื่องการใช้แรงงานเด็กทั่วโลกในปี 63 แนวโน้มและแนวทางในอนาคต" ก่อน “วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก” ซึ่งตรงกับวันนี้ (12 มิ.ย.) ของทุกปี
ไอแอลโอและยูนิเซฟเผยแพร่รายงานฉบับนี้เพื่อเป็นการเตือนว่า ขณะนี้กระบวนการในการยุติปัญหาการใช้แรงงานเด็กได้หยุดชะงักลงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี และเกิดการลดลงของแนวโน้มก่อนหน้านี้ ที่จำนวนแรงงานเด็กลดลงไปถึง 94 ล้านคน ระหว่างปี 43-59
รายงานดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นถึงจำนวนแรงงานเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนกว่าครึ่งของตัวเลขแรงงานเด็กทั่วโลก โดยมีเด็กอายุระหว่าง 5–17 ปี ที่ทำงานซึ่งเสี่ยงอันตราย ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ความปลอดภัย หรือศีลธรรม เพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคน เป็น 79 ล้านคน นับตั้งแต่ปี 59
“ตัวเลขประมาณการใหม่นี้เป็นการย้ำเตือนเราว่าไม่อาจนิ่งเฉย ขณะที่เด็กรุ่นใหม่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง” กาย ไรเดอร์ ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศกล่าว และชี้ว่า
“ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องมีการคุ้มครองทางสังคมแบบครอบคลุม เพื่อช่วยให้ครอบครัวสามารถดูแลเด็ก ๆ ให้ได้ไปโรงเรียนได้ แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ การลงทุนในการพัฒนาชนบทและงานในภาคการเกษตรเป็นสิ่งสำคัญ” และย้ำว่าขณะนี้ คือช่วงเวลาสำคัญในการต่อความมุ่งมั่นและพลัง เพื่อจะผ่านจุดวิกฤตและทำลายวงจรของความยากจนและการใช้แรงงานเด็กลง
ในรายงานฉบับนี้ยังเผยอีกว่า ประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา ที่มีการเติบโตของจำนวนประชากร วิกฤตซ้ำซาก ความยากจนข้นแค้น และการขาดแคลนมาตรการคุ้มครองทางสังคม ส่งผลให้มีการใช้แรงงานเด็กเพิ่มขึ้นอีก 16.6 ล้านคน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีความคืบหน้าเรื่องการใช้แรงงานเด็กตั้งแต่ปี 59 เช่น เอเชียและแปซิฟิก รวมถึงละตินอเมริกาและแคริบเบียน สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก็ยังเป็นอันตรายต่อความก้าวหน้านั้น
รายงานของ ILO ยังระบุว่า ทั่วโลกมีเด็ก 9 ล้านคน ที่มีความเสี่ยงที่จะถูกผลักให้กลายเป็นแรงงานเด็กภายในสิ้นปี 65 ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยแบบจำลองสถานการณ์แสดงให้เห็นว่าตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 46 ล้านคน หากเด็ก ๆ ไม่สามารถเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคมที่จำเป็นได้
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำซ้ำเติมและการปิดโรงเรียนเพราะสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เด็กที่ใช้แรงงานเด็กอยู่แล้ว อาจต้องทำงานนานขึ้นหรืออยู่ในสภาวะที่เลวร้าย ในขณะที่เด็กจำนวนมากอาจถูกบังคับให้ใช้แรงงานเด็กในแบบที่เลวร้ายที่สุด เนื่องมาจากการสูญเสียงานและรายได้ของครอบครัวที่เป็นกลุ่มเปราะบาง
เฮนเรียตตา เอช. ฟอร์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟระบุว่า “เรากำลังพ่ายแพ้ในการต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก และปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้การศึกนั้นง่ายขึ้นเลย” เธอกล่าวว่า “ขณะนี้ เข้าสู่ปีที่ 2 ของการปิดเมืองในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีการปิดโรงเรียน การหยุดชะงักทางเศรษฐกิจ และงบประมาณของประเทศที่หดตัวครอบครัวต่าง ๆ ถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจเลือกทางที่พวกเขาไม่ต้องการ
เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศทั้งหลาย จัดลำดับความสำคัญของการลงทุนในโครงการที่จะช่วยนำเด็กเหล่านั้นออกจากการใช้แรงงานและกลับไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ รวมทั้งลงทุนในโครงการคุ้มครองทางสังคมเพื่อช่วยให้ครอบครัวต่าง ๆ สามารถเลี่ยงทางเลือกที่จะปล่อยให้เด็กมาทำงานตั้งแต่แรกได้”
รายงานฉบับนี้ยังระบุประเด็นการใช้แรงงานเด็กที่ค้นพบประการอื่น ๆ ดังนี้
• ภาคการเกษตรมีสัดส่วนการใช้แรงงานเด็กคิดเป็น 70% (112 ล้านคน) ตามด้วย 20% ในภาคบริการ (31.4 ล้านคน) และ 10% ในภาคอุตสาหกรรม (16.5 ล้านคน)
• เกือบ 28% ของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5-11 ปี และ 35% ของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12-14 ปี เป็นแรงงานเด็กที่ไม่ได้ไปโรงเรียน
• การใช้แรงงานในเด็กชายมีมากกว่าเด็กหญิงในทุกช่วงอายุ แต่พิจารณาถึงงานบ้านที่ต้องทำอย่างน้อย 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่องว่างระหว่างเพศในการใช้แรงงานเด็กจะแคบลง
• ความชุกของการใช้แรงงานเด็กในพื้นที่ชนบท (14%) สูงกว่าในพื้นที่เมือง (5%) เกือบสามเท่า
รายงานฉบับนี้ยังชี้ว่า แรงงานเด็กมีความเสี่ยงต่ออันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ กระทบต่อการศึกษาของเด็ก การจำกัดสิทธิและโอกาสในอนาคตของพวกเขา และนำไปสู่วงจรความยากจนและการใช้แรงงานในแต่ละช่วยวัย
เพื่อทำแนวโน้มการใช้แรงงานเด็กลดลง ไอแอลโอ และยูนิเซฟ จึงเรียกร้องถึงประเทศสมาชิก ภาคธุรกิจ สหภาพแรงงาน ภาคประชาสังคม และองค์กรระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ เพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าตัว เพื่อต่อสู้กับการใช้แรงงานเด็กทั่วโลก ด้วยการให้คำมั่นว่าจะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ตามข้อเรียกร้องดังนี้
• ให้การคุ้มครองทางสังคมที่เหมาะสมสำหรับเด็กทุกคน รวมถึงสิทธิประโยชน์ของเด็กที่เป็นสากล
• เพิ่มงบฯ เพื่อการศึกษาฟรีและดีมีคุณภาพ ให้เด็กทุกคนกลับไปเรียนได้ รวมถึงเด็กที่ออกจากโรงเรียนก่อนเกิดโควิด-19 ด้วย
• ส่งเสริมงานที่มีคุณค่าสำหรับผู้ใหญ่ ครอบครัวจะได้ไม่ต้องพึ่งเด็กในการสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
• ยุติบรรทัดฐานทางเพศที่เป็นอันตรายและการเลือกปฏิบัติที่มีอิทธิพลต่อการใช้แรงงานเด็ก
• ลงทุนในระบบคุ้มครองเด็ก การพัฒนาการเกษตร บริการสาธารณะในชนบท โครงสร้างพื้นฐาน และการดำรงชีพ
Source: https://thaip.bs/GHB9aZo
#วันสำคัญ #WorldDayAgainstChildLabour #ThaiPBS
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
