12 มิ.ย. 2021 เวลา 10:01 • หนังสือ
📚Book review Ep.4 ATOMIC HABITS เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น [ Part 1/2 ]
หนังสือขายดีของ NEW YORK TIMES....
เคยอยากที่จะเปลี่ยนนิสัยของตัวเองแล้วทำไม่ได้ไหม ?
บอกเลยเล่มนี้ตอบโจทย์มากกกกกก ถ้าใครไม่อ่านโพสนี้พลาดแล้ว
เพราะเรายกหนังสือเล่มนี้ให้เป็นอันดับที่ 2 จากหนังสือที่อ่านมาในปี 2021 นี้เลยค่ะ
ใครหลายๆ คนอาจจะรู้จักทฤษฎีทางจิตวิทยาต่างๆ เช่น Pavlov, Thorndike, Skinner ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเสริมแรง การวางเงื่อนไข การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการให้รางวัล การลงโทษ อยากจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้มีหมดค่ะ แถมสรุปออกมาอย่างเข้าใจง่าย อ่านปุ๊ปก็สามารถนำไปใช้ได้เลย และเราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่นำไปใช้ แล้วได้ผลจริงๆ
หนังสือเล่มนี้แต่งโดย JAMES CLEAR ซึ่งเป็นทั้งนักเขียน นักพูดผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างนิสัย มีประสบการณ์การอบรม และโค้ชบริษัทต่างๆ อย่างยาวนานค่ะ
ผู้เขียนหนังสือเขียนหนังสือได้ดี ยกตัวอย่างได้เห็นชัด หลังแต่ละบทจะมีการสรุปความรู้ให้เราด้วย อ่านง่าย เพลินๆ เป็น How to ที่สนุกมากๆ ค่ะ
 
โดยภาพรวมของ ATOMIC HABITS นี้จะบอกเล่าถึงวิธีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วยเทคนิคต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าการที่เราอยากจะสร้างพฤติกรรมอะไรซักอย่างหนึ่งนั้นมันสามารถทำได้ แต่ว่ามันอยู่ภายในสภาพแวดล้อม และเงื่อนไขที่ถูกต้อง เหมาะสม หากเรามีทั้งสองอย่างนี้ ก็จะช่วยให้เราค่อยๆ ปรับ และเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่เราต้องการได้ในที่สุด ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมการออกกำลังกาย พฤติกรรมการทำงาน หรือ พฤติกรรมการทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็ตาม
เรื่องราวใน ATOMIC HABITS จะมีกฎในการเปลี่ยนนิสัยทั้งหมด 4 ข้อ โดยกฎทั้ง 4 ข้อมีอะไรบ้างไปอ่านกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
เกริ่นนำ : แนวคิดพื้นฐาน
- ผู้เขียนเชื่อว่านิสัยคือดอกเบี้ย หากเราสร้างขึ้นทุกวันแม้จะเป็นแค่ 1% จะเป็นการสะสมผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตระยะยาว ตัวอย่างเช่น หากเราอยากออกกำลังกายครั้งละ 1 ชม. การเริ่มต้นออกกำลังกายทีเดียว 1 ชม. จะเป็นการยากเกินไป ให้เราเริ่มจาก 5 นาทีก่อน แต่ต้องออกทุกๆ วัน แล้วค่อยขยับไปเรื่อยๆ
- ในบางครั้งเราอาจจำเป็นต้องลืมเป้าหมาย แต่ต้องไปโฟกัสที่กระบวนการมากกว่า บางครั้งเราอยากรวย อยากได้คะแนนดี ซึ่งเป็นการที่เราโฟกัสกับปลายทางของเรามากเกินไปโดยการไม่สนใจสิ่งอื่น การหันกลับมามองวิธีการ หรือกระบวนการ [เช่น หาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อจะให้ไปถึงเป้าหมาย อาจจะเป็น วิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง วิธีการพัฒนาตัวเอง ] จะช่วยให้เราไปถึ งเป้าหมายได้เร็วกว่าเดิม
- เราสามารถเปลี่ยนนิสัยของเราได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงความเชื่อของตัวเอง และสร้างมันให้เป็นส่วนหนึ่งของตัวตน เช่น เป้าหมายไม่ใช่การอ่านหนังสือ แต่คือการกลายเป็นนักอ่าน เป้าหมายไม่ใช่การวิ่งมาราทอน แต่คือการกลายเป็นนักวิ่ง เป้าหมายไม่ใช่การเรียนดนตรี แต่เป็นการกลายเป็นนักดนตรี หลังจากนั้นลองจินตนาการว่าคนเหล่านั้นต้องทำอะไรบ้าง เช่น คนที่เป็นนักอ่านจะอ่านหนังสือทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 หน้า หรือนักวิ่ง จะเป็นคนรักสุขภาพ ต้องวอร์มก่อนออกไปวิ่ง เป็นต้น
- กฎการเปลี่ยนแปลงนิสัยที่สำคัญมีทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่ 1) ทำให้เห็นชัดเจน 2)ทำให้น่าดึงดูดใจ 3) ทำให้เป็นเรื่องง่าย 4) ทำให้น่าพึงพอใจ
กฎข้อที่ 1 : ทำให้เห็นชัดเจน
- เราต้องประเมินนิสัยประจำวันของตัวเอง โดยเขียนกิจวัตรประจำวันออกมาทั้งหมดแล้วให้เขียนว่าพฤติกรรมไหนดี (ใส่+) ไม่ดี (ใส่-) กลางๆ (ใส่=)
- เฝ้าสังเกตดูพฤติกรรมตัวเอง ถ้ารู้สึกถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของตนเองให้ใช้ระบบ “การชี้และส่งเสียง” [เหมือนเวลาพนักงานรถไฟที่ญี่ปุ่นชี้ และตะโกนว่า ทุกอย่างเรียบร้อยเพื่อลดความผิดพลาด] เช่น หากจะเลิกนิสัยทาน Junk food ในตู้เย็น และเห็นตัวเองกำลังจะหยิบคุกกี้ในนั้น ให้พูดดังๆ ออกมาว่า “ฉันกำลังจะกินคุกกี้ชิ้นนี้ แต่ชั้นไม่จำเป็นต้องกินนะ เพราะมันทำให้ฉันอ้วน” สติก็จะกลับมา (55555)
- วางแผนอย่างชัดเจนว่าจะทำนิสัยใหม่ๆ ว่าเมื่อไหร่ และที่ไหน โดยใช้ประโยคที่ว่า “ฉันจะทำ………เวลา……ณ…….” เช่น ฉันจะอ่านหนังสือเวลา สองทุ่มสิบห้าที่โต๊ะทำงานในห้องนอน
- ใช้หลักการต่อยอดนิสัย โดยจับคู่นิสัยใหม่เข้ากับนิสัยที่เราทำประจำอยู่แล้วคือ “หลังจากฉันทำนิสัย……นี้แล้ว ฉันจะสร้างนิสัยใหม่คือ…….” เช่น หลังจากฉันรินกาแฟนในตอนเช้า ฉันจะทำสมาธิเป็นเวลา 1 นาที , หลังจากถอดรองเท้าทำงานแล้ว ฉันจะเปลี่ยนใส่ชุดออกกำลังกายทันที
- ออกแบบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นปัจจัยกระตุ้นนิสัยดี โดยทำให้มีความชัดเจน และมองเห็นได้ง่าย เช่น ถ้าอยากฝึกเล่นกีตาร์ให้บ่อย ให้วางไว้ที่กลางห้องนั่งเล่น ถ้าอยากดื่มน้ำให้มาก ให้เติมน้ำใส่ขวด แล้ววางที่คุณเห็นได้ง่าย ถ้าอยากตื่นเช้าออกกำลังกายให้เตรียมชุดและรองเท้าไว้ใกล้ตัวที่สุด
กฎข้อที่ 2 : ทำให้น่าดึงดูงใจ
- ใช้สิ่งล่อใจเพื่อช่วยให้เราอยากทำนิสัยใหม่มากขึ้น [ โดยจะอยู่ก่อน หรือ หลังสิ่งที่อยากทำก็ได้ ] เช่น ออกกำลังกายไปด้วยขณะที่ดูหนังที่อยากดูใน Netflix , หลังจากพักเที่ยงโทรหาลูกค้าคนสำคัญ 3 คน , หลังจากดึงโทรศัพท์ออกมาเล่น ฉันจะออกกำลังกายทั้งหมด 10 ครั้ง
- เรามีแนวโน้มที่จะเลียนแบบนิสัย และพฤติกรรมจากคน 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มคนที่อยู่ใกล้ชิดรอบตัวเรา (ครอบครัว และเพื่อนฝูง ) , กลุ่มคนส่วนใหญ่ ( ชุมชน สังคม ) , และกลุ่มคนที่มีอำนาจ ( ผู้ที่มีสถานภาพสูง และมีอภิสิทธิ์ เช่น คนที่ประสบความสำเร็จ คนที่คุณชอบ หรือ เจ้านายของคุณ ) เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีนิสัยเหมือนใคร คนกลุ่มไหน ให้พาตัวเองเข้าไปอยู่กับคนกลุ่มนั้นๆ ค่ะ [ อย่างตัวอิชั้นเอง เราก็จะพยายาม Follow กลุ่มใน FB ที่เราสนใจ หรือพาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มนั้นๆ ]
- เปลี่ยนทัศนคติในการทำการทำนิสัยเหล่านั้นให้เป็นไปในเชิงบวก เช่น การเปลี่ยนจากคำว่า ต้อง เป็นคำว่า “มีโอกาส” ต้องตื่นเช้า เป็นมีโอกาสได้ตื่นเช้าแล้ว ต้องทำอาหารทานเอง มีโอกาสได้ทำอาหารทานเองแล้ว หรือ เปลี่ยนความรู้สึกลบให้เป็นความรู้สึกบวก เช่น ฉันกลัวที่จะทำสิ่งนั้น เป็น ฉันตื่นเต้นที่จะได้ทำสิ่งนั้น
To be continue Part 2 ค่ะ
โฆษณา