ตัวเลข91 สำหรับช่วงอายุไขของคนๆหนึ่งแล้ว ถือได้ว่าเดินทางมาจนถึงใกล้หลักไมล์สุดท้ายแล้ว ที่ควรจะได้พักผ่อนอยู่กับลูกกับหลาน หรืออยู่บ้านเฉยดีกว่า
แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ชายคนนี่ คลินต์อีสต์วูด อายุขัยมิได้ทำให้พลังแห่งการทำงานของเขาลดน้อยลงไปแม้แตน้อย
ตรงกันข้าม นิยามของคลินต์. อีสวูดที่เป็นนักแสดง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง นักแต่งเพลง แม้กระทั้งเคยเป็นนายกเทศมนตรีมาแล้ว
ยังคงที่ทำงานอยู่ต่อเนื่องตามที่ยังมีลมหายใจ ซึ่งล่าสุดในวัยเลข9 นี่ คุณปู่เตรียมกลับมาทำหนังใหม่ ในฐานะผู้กำกับและร่วมแสดง. โดยการหยิบเอานิยาย เรื่อง Cry Macho ของเอ็น. ริชาร์ด แนชมาสร้างเป็นหนัง
ว่าด้วยเรื่องราวของ นักขี่ม้า ที่ผันตัวเองมาเป็นคนผสมพันธ์ม้า ที่ได้รับการว่าจ้างจากนายเก่า ให้เดินทางมาแม็กซิโก ลักพาตัวลูกชายจากเมียเก่า ให้ข้ามแดนมาเท็กซัส มาอยู่กับพ่อที่เป็นนายเก่า
โดยหนังของคุณปู่เรื่องนี่ยังผลิตออกมาในสังกัดสตูดิโอวอร์เนอร์ ที่ปู่คลินต์เล่นหนังให้ กำกับหนังของปู่ภายใต้ชายคาวอร์เนอร์ มาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่70 เกือบ50 ปีที่ปู่คลินต์ไม่เคยย้ายสตูดิโอเลย อยู่กับวอร์เนอร์มาตลอดเวลา
ตลอดระยะ้วลาที่คลินต์ อีสต์วูดโลดแล่นในวงการเรียกได้ว่าทุกรสชาติ ของมายา ทั้งล้มเหลว ประสบความสำเร็จการได้รางวัลล้วนแล้วผ่านมาหมดในชีวิต
โดยชื่อจริงของปู่คือ คลินตัน อีสต์วูด จูเนียร์ เกิดวันที่ 31 พ.ค. 1930 แถวซานฟรานซิโก. ก่อนกน้าที่เป็นดาราหนัง ปู่คลินต์เองก็ทำงานมาสารพัดอาชีพ ทั้งคนส่งของช่างฝืมือต่างๆ จนกระทั้งมาเล่นซีรีย์หนังคาวบอยRawhide ในช่วงทศวรรษที่60 ถือได้ว่าเอาเท้าข้างหนึ่งได้เข้ามาแล้ว
แต่ก็ยังไม่สุดteen เท่าไหร่ ในการทำให้คนทั่วโลกรู้จักคลินต์อีสต์วูด จนกระทั่ง เขาแหกกฏของฮอลลีวูดในสมัยนั้น ที่หากปู่ยังหากืนในอเมริกาคงเป็นดารากระจอกๆต่อไป
กระนั้นเลยขีวิตต้องเสี่ยง เมื่อปู่คลินต์ตัดสินใจข้ามน้ำข้ามน้ำข้ามทะเลมาดินแดนมักกะโรนีอิตาลี แสดงหนังคาวบอยอเมริกันเมดอินอิตาลี ที่หนังคาวบอยอืตาลียุคนั้นแหกทุกกฏในการสร้างหนังสไตล์คาวบอยฮอลีวูด อาทิเข่น พระเอกมักจะมีภาพพจน์ขบถสังคม ฉากแอ็คขั่นดวลปืนทำออกมาทีดีกรี ความรุนแรง และสวยงาม
ผลลัพธ์ในการเสี่ยงครั้งนี่ทำมให้คลินต์. อีสต์วูด แจ้งเกิด และทีภาพจำถึงมาดการเป็นคาวบอยแบบแอนตี้ฮีโร่ของเขา ยิ่งไปกว่านั้นหนังคาวบอยเมดอินอืตาลีที่ปู่คลินต์เล่น ได้กลายมาเป็นงานขึ้นหิ้ง ยืนหนึ่งไปเสียแล้วเช่น A Fistful of Dollars (1964) For a Few Dollars More(1965) The Good The Bad and The Ugly(1966) ผลงานกำกับของเซอร์จิโอ ลีโอเน
และมาดนิ่งๆพูดลอดฟันออกมา รักความเที่ยงธรรม ยังคงเป็นอิมเมจที่แฟนหนังจองยังคงรักและติดตาทำให้แม้ว่ากระแสหนังคาวบอนอิตาลีจะเบาบางไปในยุคทศวรรษื่70 แต่ทว่าปู่คลินต์ของเรา
กลับต่อยอดความสำเร็จต่อเนื่องจากการที่หวนกลับมาเล่นหนังในฮอลีวูด กับสตูดิโอวอร์เนอร์ ด้วยการสวมบทบาทเป็นมือปราบปืนโหดที่อาวุธคู่กายเป็นจุด44 แม็กนั่ม แฮร์รี่ คัลลาแฮน ในDirty Harry (1971) พูดน้อยแต่ออกอาวุธจนทำให้หนังต้องมีการสร้างภาคต่อออกมาอีกถึง4ภาคคือ
Magnum Force, The Enforcer Sudden lmpact. The Dead Pool ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จมนเรื่องของรายได้. ข้อสำคัญในรอยต่อ ของหนังชุดของแฮร์รี่ คัลลาแฮน นั้นปู่คลินต์เริ่มที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มาสวมหมวกอีกใบหนึ่ง นั่นคือการทำหน้าผู้กำกัยการแสดง
ทำให้ระยะหลังมาตั้งแต่ปลายยุคทศวรรษที่80 หนังส่วนใหญ่ที่เข้ารับเล่น ต่อมาทักจะลงมือกำกับเองด้วย
โดยเฉพาะฝีมิอการกำกับการแสดงของเขานั้นเสมือนค่อยๆฝึกฝืมือไปเรื่อยๆ จากธรรมดาๆจนเหล่านักวิจารณ์ยอมรับในฝืมือ ว่าคมในฝัก
อีกทั้งปู่คลินต์. อีสต์วูด ยังเป็นผู้กำกับที่สตูดิโออย่างวอร์เนอร์ มักจะไฟเขียวให้งบประมาณมาทำหนังอยู่เสมอ
เนื่องจากคลินต์. อีสต์วูดใช้งบในการสร้างหนังระดับอินดี้ ที่ทางสตูดิโอรับได้และโอกาสเสี่ยงที่ไม่ทำกำไรมีน้อย จากต้นทุนต่ำ
ซึ่งน่าจะมาจากสไตล์การทำงานของคุณปู่ ที่ไม่นิยมใช้ดาราระดับบล็อคบาสเตอร์ที่มีข้อเรียกร้องมากมายเช่นต้องมีรถเทเลอร์ส่วนตัวมีลีมูลซีนรับส่งมากองถ่ายเป็นต้น หรือมักนิยมถ่ายหนังแบบเทคเดียวจบเพราเขาคิดว่าการถ่ายเทคแรกมักได้อารมณ์ที่สดของนักแสดงดีกว่าถ่ายทำหลายๆเทค
อีกทั้งในหนังหลายเรื่องปู่คลินต์ มักแต่งเพลงประกอบเองในหนังเข่นMystic River. Million Dollar Baby Flags of our Fathers. American sniper. Sully
การเป็นกระบี่มือหนึ่งคมในฝักที่เหล่านักวิจารณ์คนในวงการเริ่มที่จะคารวะฝืมือของเขามากขึ้น น่าจะมาการที่เขากำกับหนังคาวบอยที่เสมือนเป็นจิตวิญญาณที่ปู่คลินต์ทำเพื่อเทิดทูนหนังแนวนี่นั่นคือ Unforgiven
ผลที่ได้คือรางวัลออสการ์ผู้กำกับยอดเยี่ยม ตกมาดป็นของคลินต์ อีสต์วูด และได้อีกครั้งหนึ่งจากหนังเรื่องMillion Dollar. Baby
ย้อนกลับมาในUnforgiven นอกเหนือเหนือจากหนังจะได้กล่องแล้ว ยังเป็นการปลุกกระแสให้หนังคาวบอยกลับมาแจ้งเกิดอีก
พร้อมกับสปอร์ทไลท์ ต่างสาดไฟมาที่คลินต์ อีสต์วูดอีกรอบในฐานะดารารุ่นใหญ่ ทีเป็นตำนานของโลกภาพพยนตร์
คลินต์ อีสต์วูด เองก็มิได้หลงกับความสำเร็จที่ได้มาเสียเท่าไหร่ ยังคงเดินหน้าทำงานต่อไปและพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าถึงแก่แค่ไหนก็มีไฟอยู่ ว่าเขาเป็นเป็นนักแสดงและผู้กำกับที่เล่นหนังและกำกับได้หลากหลายแนว
ทำให้ในระยะหลังหนังจองเขาค่อนข้างมีรสชาติหลากหลายมากมาย ไม่ยึคติดกับแนวทางใดแนวทางหนึ่ง
เช่นThe Bridges of Madison County ที่แรกเริ่มปู่คลินต์ คิดจะแสดงอย่างเดียวแต่เมื่อทางสตูดิโอหาผู้กำกับไม่ได้ เขาจึงสวมหมวกอีกใบมากำกับหนังโรแมนติก ที่เรียกได้ว่าหักปากกาเซียน ส่ารัษาอรรถร