13 มิ.ย. 2021 เวลา 11:57 • ไลฟ์สไตล์
หลายคนคงคุ้นเคยกับกับว่า Chef's table หรือรูปแบบการรับประทานอาหารที่เสิร์ฟเมนูตามใจเชฟ แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ Chef's table coffee bar แต่ทางเราขอเรียกว่า Guests' table coffee bar การดื่มกาแฟที่เสิร์ฟตามใจผู้ดื่มมากกว่าบาริสต้า ที่ Solos coffee กันค่ะ
ประสบการณ์ Guests' table coffee bar ครั้งนี้เริ่มต้นจากการติดตาม Instagram solos.coffee ร้านกาแฟของบาริสต้าคนดังคุณ Nicholas Haw อดีตบาริสต้าของ Red Diamond เราก็มีความสงสัยใคร่รู้ว่า คำโปรย Chef's table coffee bar. Your unique coffee experience คืออะไร ทำให้เราตัดสินใจจองโดยติดต่อทาง Line Official ของทางร้าน โดยดูวันและเวลาที่รับจองทาง Instagram
ตอนนี้ทางร้านจะมีรอบสำหรับ Chef's table 3 รอบต่อวัน คือรอบ 10.30 น. 13.00 น. และ 15.00 น. เพื่อเว้นระยะในการเตรียมบาร์ โดย 1 รอบจำกัดลูกค้าที่ 4 คน สำหรับการมาดื่มกาแฟที่นี่ ไม่ต้องเผื่อเวลานะคะ ประตูร้านจะเปิดก่อนแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น มาตรงเวลาที่จองไว้ได้เลยค่ะ
รักที่จับของร้านมากค่ะ เก๋เชียว
"Happy Sunday" คำทักทายจากบาริสต้ามาดเท่ ต้อนรับเราในเช้าวันอาทิตย์ การสื่อสารกับคุณนิคเจ้าของร้านจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่คุณนิคพูดและฟังไทยได้ค่ะ พอเรานั่งที่บาร์คุณนิคจะเสิร์ฟน้ำดื่มและเริ่มสอบถามว่าปกติแล้วเราชอบกาแฟแบบไหน Taste Note ประมาณไหน แต่ละคอร์สจะเสิร์ฟกาแฟ 2 แก้วนะคะ ทางเราเลยรีเควสขอเป็น Hot Drip และ อีกแก้วขอเป็น Cold coffee with milk ซึ่งคุณนิคแนะนำเราเป็น เมนู Dirty
สำหรับเมนู Hot Drip คุณนิคหยิบเมล็ดกาแฟมาให้เราเลือกอยู่ห้าหกตัว เราแจ้ง Taste Note ไปว่าชอบแบบ Fruity เราก็จัดการดมกลิ่นและเลือกเมล็ดที่ชอบได้เลย
ขวดเมล็ดกาแฟหลากหลายชนิด
หลักจากเลือกเมล็ดแล้วก็ถึงเวลาการเตรียมกาแฟ คุณนิคจะบดเมล็ดกาแฟและให้เราได้ดมกลิ่นก่อนที่จะทำการดริป และหลังจากนั้นเราก็เพลินเพลินกับการชมการเตรียมกาแฟ ที่มีเทคนิคและวิธีการที่เราไม่เคยได้เห็นตามร้านกาแฟทั่วไป เราสัมผัสได้ว่าการทำกาแฟของคุณนิคมันคือเทคนิคที่ผ่านการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เขารู้ปริมาณและอุณหภูมิของน้ำเป็นอย่างดี โดยไม่ต้องอาศัยการชั่ง ตวง วัด ใด ๆ
Hot Drip แก้วแรกของเรามาในอุณหภูมิที่สุดแสนจะพอดี รสและกลิ่นเหมือนตอนดมเมล็ดที่บดแล้วเป๊ะ ๆ
แก้วที่ 1
สำหรับแก้วที่ 2 คุณนิคแนะนำเมนู Dirty ให้เรา เราสามารถเลือกขนาดแก้วได้ด้วยนะคะ ระหว่างที่เราละเลียดกาแฟแก้วแรก คุณนิคก็จัดการเตรียมนมแช่เย็นไว้ให้ และถามว่าต้องการรสกาแฟแบบ Strong หรือ Light แล้วจัดให้ตามต้องการเลย
สำหรับ Dirty กาแฟนมนัว ๆ ที่มี Aftertaste จาก Orange Chocolate ที่ขูดลงไป ถือว่าเป็น Dirty อีกแก้วในชีวิตที่ประทับใจ
แก้วที่ 2
คุณนิคจะคอยถามเราตลอดว่ากาแฟเป็นอย่างไรโอเคหรือไม่ ทำให้เราเรียกการดื่มกาแฟครั้งนี้ว่า Guests' table แทนที่จะเป็น Chef's table เพราะบาริสต้าตามใจเรามากเหลือเกิน แต่ในความตามใจนั้นเขาได้ใส่ตัวตนและเทคนิคที่ช่ำชองลงมาในแก้วของเราด้วย
นอกจากที่เราจะได้ดูวิธีการเตรียมกาแฟแก้วของตัวเอง เรายังได้ดูการเตรียมกาแฟของผู้ร่วมคอร์สอีก 3 คนด้วย ต้องยอมรับว่าเป็นการนั่งชมการเตรียมกาแฟที่แสนจะเพลิดเพลิน ด้วยเทคนิคการชงกาแฟที่หลากหลาย ทำให้เรารู้สึกว่ามาชมโชว์จากศิลปินคนหนึ่ง มากกว่าบาริสต้าที่แค่ชงกาแฟ มันคือประสบการณ์และแพชชั่นที่ผ่านการสั่งสมมาเป็นเวลานานหลายปี
สำหรับราคาต่อคอร์สจะอยู่ที่คนละ 1000 บาท ได้กาแฟ 2 แก้ว ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าถามว่าราคาสูงไหม ขึ้นอยู่กับว่าคุณจ่ายให้อะไร ถ้าเป็นกาแฟ 2 แก้ว ก็คงจะเกินเรื่องไปสักหน่อย แต่ถ้าจ่ายให้กับประสบการณ์ที่คุณจะหาไม่ได้จากร้านกาแฟทั่วไป สำหรับเราก็สมเหตุสมผลนะคะ เอาเป็นว่าประสบการณ์วันนี้คุ้มค่ากับราคาที่เสียไปค่ะ
Whoever said money can’t buy happiness simply didn’t know where to go sipping a cup of coffee :)
สวัสดีค่ะ
โฆษณา