18 มิ.ย. 2021 เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์
326 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชทรงยาตราทัพบุกอินเดีย ซึ่งเชื่อว่าคือสุดโลกทางตะวันออก แต่ไม่สำเร็จ จำต้องยกทัพกลับ
4
โครงการครองโลกของกษัตริย์หนุ่มองค์นี้คือเมื่อยึดเมืองใดได้ ก็ทรงให้นายทหารคนสนิทปกครอง
2
หลังจากอเล็กซานเดอร์มหาราชสิ้นพระชนม์ ทหารกรีกเหล่านั้นก็ตั้งตนเป็นอาณาจักรอิสระ นายทหารและรัชทายาทที่ปกครองตามดินแดนต่าง ๆ ก็สู้รบกัน อาณาจักรกรีกแตกสลาย
4
หนึ่งในรัฐอิสระก็คือบักเตรีย (Bactria) ในเอเชียกลาง แถบอัฟกานิสถานในปัจจุบัน ปกครองโดยกษัตริย์เชื้อสายกรีกเรื่อยมาจนถึงราวพุทธศตวรรษที่ 6 ปกครองโดยพระเจ้ามินันเดอร์ (Menander I Soter) ที่อินเดียเรียกว่าพระเจ้ามิลินท์
3
รัชสมัยพระเจ้ามิลินท์ครอบครองแคว้นคันธารราฐ แผ่อำนาจลงมาถึงตอนเหนือของลุ่มนํ้าคงคา ตีแคว้นปัญจาบ ก่อร่างสร้างอาณาจักรที่ครอบครองแผ่นดินกว้างใหญ่ถึงอินเดีย ไปถึงลุ่มแม่น้ำคงคาตอนเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ มีสาคละนครเป็นเมืองหลวง เป็นยุครุ่งเรืองทางการค้า
1
พระเจ้ามิลินท์ทรงปราดเปรื่องและแตกฉานทั้งหลักพิชัยสงครามและปรัชญาศาสนาสายต่าง ๆ ทรงนิยมเชิญผู้ที่มีปัญญามาสนทนาธรรมกัน ปรากฏว่าไม่มีใครโต้คารมชนะพระองค์ได้
ในที่สุดทรงมีโอกาสสนทนาธรรมกับพระรูปหนึ่งนามพระนาคเสน ทั้งสองสนทนาธรรมและปรัชญานานหลายวัน
หลังการสนทนาธรรม พระเจ้ามิลินท์ทรงซาบซึ้งหลักการและแนวทางของศาสนาพุทธ เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา
1
บทสนทนาธรรมระหว่างพระเจ้ามิลินท์กับพระนาคเสนจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร เรียกว่า มิลินทปัญหา (The Questions of Milinda)
3
เมื่อเป็นผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนา พระเจ้ามิลินท์ก็ทรงให้ช่างชาวบักเตรียสร้างพระพุทธรูปองค์แรกขึ้น โดยใช้ศิลปะการสร้างประติมากรรมแบบกรีก พระพักตร์อย่างเทพกรีก ลักษณะริ้วจีวรก็เหมือนเครื่องนุ่งห่มของรูปปั้นตะวันตก นี่เป็นต้นกำเนิดของพระพุทธรูปในโลก ประมาณห้าร้อยปีหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เรียกว่าพระพุทธรูปแบบคันธารราฐ
6
พุทธศาสนาไม่เคยมีรูปเคารพมาก่อน ในสมัยพระพุทธองค์ ยังไม่มีพระพุทธรูปหรือปฏิมากรรม (ประติมากรรมทางศาสนาเรียกว่าปฏิมากรรม) ทั้งที่การปั้นรูปบุคคลสำคัญตอนที่ผู้นั้นยังมีชีวิตเป็นเรื่องปกติ แสดงว่าพระพุทธองค์ทรงปฏิเสธเรื่องนี้ ตรัสสอนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในพระรัตนตรัยคือพระธรรม ไม่ใช่พระศาสดา
19
ในกาลถัดมา สัญลักษณ์อย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับพระพุทธองค์และศาสนามีฉัตร ธรรมจักร ต้นโพธิ์ ฯลฯ แต่ก็ไม่มีพระพุทธรูป
2
ในยุคแรกพระพุทธรูปเป็นอนุสาวรีย์ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธองค์ เหมือนมีพระองค์ยังทรงอยู่เพื่อให้เราทำความดี ปฏิบัติธรรม เหมือนกับที่เราติดรูปถ่ายพ่อแม่ผู้ล่วงลับในบ้าน
3
เมื่อรวมศิลปะเข้ากับศาสนา เราก็ได้พระพุทธรูปที่งดงาม รวมใจคน ทำให้คนเลื่อมใส เหมือนกับที่เข้าวิหารคริสต์ รู้สึกว่าอลังการและเชื่อมกับความเชื่อเรื่องผู้สร้างได้ง่ายขึ้น
4
เจตนาแรกของการสร้างพระพุทธรูปรัชสมัยพระเจ้ามิลินท์ไม่ใช่เพื่อไสยศาสตร์ แต่ต่อมาก็ผิดเพี้ยนไปเรื่อย ๆ จนเลอะเทอะอย่างทุกวันนี้ เป็นความเชื่อว่าบูชาพระพุทธปฏิมาแล้วชีวิตจะเจริญ
9
ทว่าเมื่อบิดเบือนหน้าที่ของพระพุทธรูป แทนที่จะระลึกถึงคุณพระพุทธองค์และพระธรรมคำสอน กลายเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพร มันก็หวนกลับไปสู่หนทางแห่งศาสนาผี
5
มีผู้ใช้ประโยชน์จากความเชื่อนี้จนกลายเป็นการพาณิชย์ เช่นให้คนเชื่อว่าหากบูชาพระพุทธรูปด้วยไม้หอม ชาติหน้าจะเกิดมาดี หากพกพาพระเครื่องรุ่นนี้รุ่นนั้น จะแคล้วคลาดอันตราย ฯลฯ
และนี่เองที่ทำให้ชาวพุทธไม่น้อยถอยห่างจากแก่นพุทธธรรม
พระพุทธรูปและพระเครื่องทำหน้าที่เพียงให้เราระลึกถึงพุทธคุณ พระธรรม มิใช่ใช้เป็นยันต์ศักดิ์สิทธิ์หรือให้บูชาขอพรและชาติหน้าที่ดีกว่า
7
เมื่อเรารู้ที่มาและเจตนาแรกเริ่ม เราก็จะรู้ว่าเราควรทำอย่างไรต่อไป
(ภาพประกอบ: พระเจ้ามิลินท์สนทนาธรรม)
จากหนังสือ #หลับถึงชาติหน้า / https://bit.ly/3fe98hj
โฆษณา