Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Farang VS Thai
•
ติดตาม
16 มิ.ย. 2021 เวลา 08:25 • การเมือง
“ชุดนักเรียน” ฝรั่ง VS ไทย (ตอนที่ 2)
ในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ “ชุดนักเรียน” มีความหมายอย่างไรต่อเขา เพราะอะไรถึงเป็นอย่างนั้น และในขณะที่มีผู้คนส่วนหนึ่งเชื่อว่าชุดนักเรียนจะช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบและส่งเสริมวินัย แต่ทำไมในประเทศที่มีระเบียบวินัยสูงถึงไม่มีชุดนักเรียนใช้ มาจับเข่าคุยกันจ้า 😊
2
ก่อนที่จะเริ่มเรื่อง เราขอให้ทุกท่านทำความเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่ท่านจะได้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าเพื่อให้ได้รู้จักและได้เห็นว่าบ้านเมืองคนอื่นเขาทำอะไร อย่างไร และโดยเปรียบเทียบกับบ้านเรา
หลายท่านเข้าใจสิ่งเหล่านี้ดีอยู่แล้ว แต่หลายท่านอาจจะต้องทำใจก่อนรับฟังเพื่อที่จะสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด และ วิเคราะห์ทุกอย่างอีกครั้ง ด้วยตัวของท่านเองด้วยความเป็นกลาง
ก่อนที่เราจะตอบเล่าเรื่องตามหัวข้อที่ได้เกริ่นไว้ เราขอเล่าความเป็นมาสั้นๆ ของประเทศสองประเทศ โดยจะเน้นเล่าที่เรื่องของ “ภาษี” ซึ่งก็คือ “เงิน” และซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์กลุ่มหนึ่งเกิดความโลภหรือความอยากได้ที่ไม่รู้จักพอ และ ขาดหิริโอตตัปปะ หรือ ความละอายใจต่อบาป
การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ของประชาชนที่มีมาเนินนานตั้งแต่ในอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน และ มีอยู่ในทุก ๆ ประเทศ เงินภาษีที่จัดเก็บมา ถูกนำมาใช้ต่างกันในแต่ละประเทศ และเราจะพูดถึงการนำเงินภาษีมาใช้ของสองประเทศ
อนุสาวรีย์มันซูเด (Mansudae Grand Monument) รูปนั้นยักษ์ของผู้นำประเทศ
ระบบการปกครองในโลกปัจจุบันนี้มีอยู่ 2 ระบบคือ ระบบประชาธิปไตยและระบบเผด็จการ
ในโลกปัจจุบันนี้ มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นที่ยอมรับว่ายังคงปกครองประเทศด้วยระบบเผด็จการ หนึ่งในนั้นคือประเทศเกาหลีเหนือ
ประชาชนของประเทศเกาหลีเหนือ พวกเขาถูกสอน และ ปลูกฝังให้เชื่อว่า พวกเขาเป็นมนุษย์มีชีวิตที่ประเสริฐที่สุด และชีวิตอันประเสริฐที่พวกเขามีอยู่นั้น ทำให้ไม่มีอะไรในโลกนี้อีกแล้วที่พวกเขาจะต้องอิจฉา
1
คำสอนและการปลูกฝังความเชื่อของพวกเขา ถูกกกระทำผ่านระบบการศึกษา ไม่ว่าจะผ่านบทเรียน ผ่านกิจกรรมการเรียนการสอนตั้งแต่เด็กๆ รวมถึงผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะภาพยนต์ รายการทีวี หรือ รายการข่าว และ ผ่านวัฒนธรรมคำสอนต่าง ๆ ฯลฯ
กระบวนการทั้งหมดถูกควบคุมโดยที่ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว เพื่อสอดแทรกให้พวกเขาทุกคนจงรักภักดีต่อประเทศชาติ รวมถึงรัก เคารพ และศรัทธาในตัวผู้นำสูงสุดของพวกเขา
ประวัติศาสตร์ที่พวกเขาได้เรียนเป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นโดยปรับแต่งและบิดเบือน เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงบุญคุณของผู้นำสูงสุดของประเทศ เพลงชาติ กฎระเบียบ ทรงผม 🔺การแต่งกาย 🔺 ฯลฯ ทุกอย่างถูกกำหนดขึ้นโดยอ้างว่า เพื่อความเป็นระเบียบวินัยและความเท่าเทียม
1
พวกเขาแทบจะถูกกำหนดแม้กระทั้ง จะคิดอะไร ทำอะไร กินอะไร แต่งตัวอย่างไร ฯลฯ ทั้งระบบการศึกษา และการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านวัฒนธรรมคำสอน ปลูกฝังให้ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่เชื่อว่าชีวิตที่พวกเขามี คือชีวิตที่มีคุณภาพแล้ว แม้จะยากจนข้นแค้น แต่นั้นก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตมนุษย์จะมีได้
การปิดหูปิดตาของประชาชนคือหนทางรอดของเผด็จการเบ็ดเสร็จอย่างเกาหลีเหนือ
ชาวเกาหลีเหนือไม่เคยได้เรียนรู้จักโลกภายนอก ไม่เคยรู้ว่าคำว่าอิสระ ความเท่าเทียม ฯ ที่แท้จริงเป็นอย่างไร แม้แต่ภาพยนตร์ ข่าว สื่อจากต่างประเทศก็ถูกห้ามนำเข้า โทษของการนำเข้าสื่อจากต่างประเทศคือ “การประหารชีวิต” (ดูรายละเอียดเพิ่มตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่าง)
ทุกวันนี้ ทั่วโลกต่างรู้ดีว่าผู้นำของเกาหลีเหนือนั้น มีชีวิตอยู่อย่างหรู่หรา บนคราบเหงื่อแรงงานของผู้คนในประเทศในรูปของ “ภาษี”
ในขณะที่ประชาชนชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่อย่างโหดร้ายและไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของผู้นำและพวกพ้องที่ไม่รู้จักละอายต่อการกระทำของตน
🔺ชีวิตของชาวเกาหลีเหนือหลายต่อหลายรุ่น ที่เกิดมาและตายไปโดยไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร พวกเขาส่วนใหญ่มีหน้าที่เพียงแค่เกิดมา ทำงาน และ มีชีวิตอยู่อย่างแร้งแค้นเพื่อจ่าย “ภาษี” 🔺
1
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาหลีเหนือจากลิ้งค์ด้านล่าง
ถ้าจัดให้เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่อยู่ฝั่งขวาสุด ประเทศสวีเดนก็จัดว่าเป็นหนึ่งในประเทศอยู่ฝั่งซ้ายสุด จากการจัดอันดับ ‘ดัชนีประชาธิปไตย’ ล่าสุดในปี 2563 ประเทศสวีเดนถูกยอมรับว่ามีความเป็นประชาธิปไตยเป็นอันดับที่สามของโลก
และเป็น 1 ใน 23 ประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ (ดูรายละเอียดการจัดอันดับได้จากลิ้งค์ด้านล่าง)
ในอดีต ประเทศสวีเดนก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ประชาชนของพวกเขามีหน้าที่ต้องทำงานและต้องจ่ายภาษี และภาษีส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ในมือของผู้มีอำนาจ ชนชั้นนำ และพวกพ้อง
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ชาวสวีเดนได้มองเห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับพวกเขา การถูกชนชั้นนำเอาเปรียบในรูปของเงินภาษี พวกเขาจึงรวมใจกันเรียกร้องเพื่อให้เงินภาษีที่พวกเขาทุกคนร่วมกันจ่ายนั้น ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาอย่างแท้จริง
การเรียกร้องนั้นเกิดขึ้นเรื่อย ๆ จนได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และทำให้ปัจจุบันประเทศสวีเดนปกครองโดยระบบประชาธิปไตยที่มีความสมบูรณ์
ประชาชนปกครองตัวของประชาชนเองผ่านผู้แทนราษฎรโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร พวกเขามีกษัตริย์ที่พวกเขารักและเคารพเป็นผู้ปกครองประเทศทางวัฒนธรรมภายใต้รัฐธรรมนูญ
กษัตริย์สวีเดนเยือนตลาดในไทย อย่างเช่นสามัญชน : ขอบคุณภาพจาก LIEKR : http://www.liekr.com/post11268341010878
การบริหารประเทศและเงินภาษี เป็นไปโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง และพวกเขาพยายามทำให้เกิดความยุติธรรมและความเท่าเทียมให้มากที่สุดในสังคม
ประเทศสวีเดนมีความเชื่อว่า มนุษย์นั้นมีความหลากหลาย ทั้งความชอบ ความสามารถ ความเชื่อ วิถีชีวิต ฯลฯ ประชาชนของสวีเดนจึงได้รับอิสระเสรี ที่จะมีความสุขกับชีวิตของตนให้มากที่สุด พวกเขาชื่อว่านั้นคือความสุขที่มนุษย์ทุกคนควรจะได้รับอย่างเท่าเทียม
แน่นอน ถ้าทุกคนสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่แต่ละคนต้องการโดยไม่มีข้อจำกัด ย่อมก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคมได้ ดังนั้นอิสระเสรีของพวกเขาจึงอยู่ภายใต้สิทธิของตัวเอง โดยไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น และ โดยไม่ผิดกฎหมาย
1
กระนั้นคำว่าอิสระเสรี ที่ผู้คนจะทำอะไรก็ได้ดังใจต้องการ ฟังดูเหมือนไร้ระเบียบวินัยและเป็นสังคมที่วุ่นวาย แต่มันไม่เกิดขึ้นกับสังคมของเขาเลย ในทางตรงกันข้ามประเทศสวีเดนกลับเป็นประเทศที่มีประชากรที่มีความเป็นระเบียบวินัยสูง
เช่น ถนนทุกเส้นจะมีการกำหนดความเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนหรือในหมูบ้านขับได้ไม่เกิน 40 หรือ 50 กม./ชม. หน้าโรงเรียนขับได้ไม่เกิน 30 กม./ชม. ฯลฯ
กล่าวได้ว่าชาวสวีเดนโดยกำเนิดน้อยคนนักที่จะฝ่าฝืนกฎนี้ เมาแล้วไม่ขับ พวกเขาส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติได้อย่างเคร่งขรัด
ยังมีวิถีชีวิตของพวกเขาอีกมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบวินัยสูงในสังคมของพวกเขา
https://www.lidingo.se/toppmeny/trafikinfrastruktur/arkivtrafikochinfrastruktur/fleravagarfarnyahastighetsgranser.5.2f8ef456172a376408a41a2.html
ความสงบและระเบียบวินัยที่เกิดขึ้นในสวีเดนไม่ใช่เพราะ คำสั่งที่ค่อยสั่งสอนว่าเด็กจะต้องทำตัวอย่างไร ไม่ใช่เพราะทรงผมที่ต้องตัดตามระเบียบ ไม่ใช่การยืนตรงเข้าแถวหน้าเสาธงเพื่อรับฟังคำสั่งสอน หรือการแต่งกายในชุดเครื่องแบบที่เหมือนกัน ฯลฯ แต่พวกเขาได้มาจากการศึกษา
มนุษย์ทุกคน (หรือส่วนใหญ่) มีจิตใต้สำนึกที่ดี การศึกษาจากระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ได้กระตุ้นจิตใต้สำนึกของความเป็นมนุษย์ของพวกเขาให้เด่นชัดขึ้น
🔹 เล่ามาทั้งหมดเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า
👉 ในเกาหลีเหนือมีชุดนักเรียนและกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อปลูกฝังและสร้างแนวทางชีวิตหรือการปฏิบัติตัวของประชาชนให้เป็นไปในแนวเดียวกัน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการควบคุมประชาชนตามพื้นฐานการปกครองแบบระบบเผด็จการ
👉 ประเทศสวีเดนได้บัญญัติกฎหมายพื้นฐานเกี่ยวกับชุดนักเรียนไว้ โดยไม่ให้มีการกำหนดใช้ชุดนักเรียนเพื่อสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
ซึ่งเป็นไปตามความเชื่อพื้นฐาน มนุษย์นั้นมีความชอบต่างกัน จึงมีสิทธิที่จะเลือกใช้เสื้อผ้าตามที่ตนชอบและต้องการ และเพื่อเป็นการปลูกฝังและสร้างความมีเสรีภาพตามแนวทางระบบประชาธิปไตยที่แท้จริง
หากห้องเรียนหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในโรงเรียนจะกำหนดให้มีชุดหรือเครื่องแบบประจำกลุ่มก็สามารถทำได้ แต่ต้องไม่มีการบังคับ หมายถึงหากมีใครไม่ต้องการจะใช้ชุดนั้นก็ย่อมมีสิทธิทำได้ (อ้างอิงจากเว็บไซต์รัฐบาลของสวีเดน ดูเพิ่มได้ที่ลิ้งค์ด้านล่าง)
การคำนึงถึงเสรีภาพในทุกภาคของสวีเดนนี่เอง ที่ทำให้ประเทศของเขามีความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์
เราคิดว่าประเด็นหลักของชุดนักเรียนไม่ใช่เพื่อความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ ยังมีประเทศอีกหลาย ๆ ประเทศที่เห็นข้อดีของชุดนักเรียน อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และในสหราชอาณาจักร ทั้งอังกฤษ เวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ
ประเทศเหล่านี้ก็เป็นประชาธิปไตย และ ประชาชนของพวกเขาส่วนใหญ่ก็มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ประเด็นหลักอยู่ที่เด็ก ๆ ที่สวมใส่ชุดนักเรียนนั้น พวกเขาได้เรียนรู้ความเป็นประชาธิปไตย และมีสิทธิเสรีภาพของตนในด้านอื่นๆ หรือไม่
และจุดประสงค์การใส่ชุดนักเรียนประกอบกับกฎเกณฑ์อื่นๆ ในโรงเรียนนั้น ส่งผลให้ภาพรวมของเด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาตินั้น กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในแบบไหน
กฎเกณฑ์ ระเบียบแบบแผนของโรงเรียนในประเทศไทยนั้น ใช้กันมาเนินนานไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการดูอนาคตของเด็กวันนี้ จึงดูได้จากภาพปัจจุบันของประเทศ และคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งก็คือ เราๆ ท่านๆ ที่ไม่ใช่นักเรียนในวันนี้
ขอให้ท่านทำใจให้เป็นกลางที่สุดแล้วลองจินตนาการดูเอง
ประเทศไทยนั้นถูกจัดให้มีความเป็นประชาธิปไตยอันดับที่ 73 ของโลก ซึ่งเรียกว่าเป็นระบบประชาธิปไตยพกพร่อง พวกเราอยากจะให้ตัวเลขนี้เปลี่ยนแปลงบ้างไหม? และอยากจะให้เปลี่ยนไปทางไหนในอนาคต?
แน่นอน ไม่เป็นประชาธิปไตยก็ได้ ประเด็นหลักอยู่ที่ถ้าไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ประชาชนยังกินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และ มีความเท่าเทียมกันในสังคมหรือไม่?
(โปรดอ่านชีวิตที่ดีและเท่าเทียมกันในประเทศที่มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ก่อนที่ท่านจะตอบ ในหัวข้อ “สังคมเมือง-ชนบท” ฝรั่ง VS ไทย ลิ้งค์อยู่ด้านล่าง หากท่านสนใจ)
ในขณะที่หลายท่านอาจจะยังจินตนาการอยู่นั้น เด็กๆ ส่วนใหญ่ในวันนี้เขาเห็นภาพในอนาคตของเขาแล้ว
🌼 ชุดนักเรียน ที่พวกเขากำลังขอให้ยกเลิก ไม่ใช่เพื่อแฟชั่นและความสวยงาม แต่พวกเขามองและสงสัยว่ามันกำลังฝึกและนำให้พวกเขาไปสู่การอยู่ใต้ระบบระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ง่ายต่อการถูกควบคุม (หมู่)
1
🌼 ทรงผมที่พวกเขาร้องขอไม่ให้ตัดนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะมันทำร้ายจิตใจพวกเขาเมื่อถูกลงโทษด้วยการตัดผมแหว่งประจาน
แม้ธรรมชาตของมนุษย์ส่วนใหญ่นั้น จะรักและชอบความสวยงาม แต่การร้องขอของพวกเขาไม่ให้ตัดผมนั้นก็ไม่ใช่ชเพื่อแฟชั่นหรือความสวยงาม
แต่พวกเขากำลังมองเห็นว่านี่เป็นการปลูกฝังให้พวกเขาเคยชินกับการรับฟังคำสั่ง ซึ่งนำไปสู่การเป็นสังคมที่จะถูกควบคุมได้ง่ายในอนาคต
1
หากท่านเคยถูกทำโทษด้วยการตัดผมตนเป็นเด็ก ยังจำได้ไหมมันรู้สึกอย่างไร (ยกเว้นแต่ท่านรู้สึกดี) มันรู้สึกแย่ใช่ไหม? ทำไมต้องให้เด็กๆ รู้สึกอย่างนั้นอีก
แม้เราจะเคยทำมาก่อน รุ่นเรายยังผ่านมาได้ แต่หากมันไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรมากไปกว่าการถูกควบคุม ทำไมต้องปล่อยให้มันเกิดซ้ำๆ กับลูกกับหลานเราอีก
ขอบคุณภาพ ติ่งการเมือง : https://www.facebook.com/tingkanmueang/photos/กลุ่มนักเรียนเลว-ตัดผมตัวเอง-ประท้วงกระทรวงศึกษาฯ3-มิย-กลุ่มนักเรียนเลว-เดินทางเ/724146228371665/
🌼 "กลุ่มนักเรียนเลว" ไม่ใช่เพราะพวกเขากำลังประกาศว่าพวกเขาอยากเป็นเด็กเลว แต่หน้าที่เด็กดี "เด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่ 10" ที่กำหนดหน้าทีให้เด็กดีในอดีตหรือ "ค่านิยมหลัก 12 ประการ" ที่ใช้ในปัจจุบัน
1
ที่คอยกำหนดให้พวกเขาจะต้องทำตัวอย่างไร มันกำลังพรากอิสระ เสรีภาพและความเป็นตัวของตัวเองของพวกเขาไป
ท่านลองเอียงใจฟังเบื้องลึกจากจิตใจของพวกเขาให้ดีๆ พวกเขากำลังร้องขอ และ ขอร้อง ให้พวกเขาได้รับอิสระและปล่อยให้พวกเขาได้เป็นเด็กดีในแบบของตัวของพวกเขาเองอยู่
การยืนตรงเข้าแถวเพื่อรอฟังคำอบรมหน้าเสาธง ที่มีเด็กเป็นลมหลายครั้งเพราะอากาศร้อน และรวมกับกฎเกณฑ์มากมายอื่นๆ ท่านสงสัยบ้างไหมว่าเรามีอิสระเสรีซึ่งเป็นพื้นฐานความเป็นประชาธิปไตยไหม? ทั้งที่เราถูกปลูกฝังให้เชื่อมาตลอดไม่ใช่หรือ ว่าประเทศเรามี
บทเรียนประวัติศาสตร์เราแน่ใจไหมว่ามันคือความจริงทั้งหมด แน่นอนเราถูกสอนให้เชื่อฟัง-ฟังแล้วก็เชื่อ ทำให้เราไม่สงสัยกันใช่ไหมว่าหนังสือประวัติศาสตร์ที่ "ผู้ใหญ่" เขียนมาให้เราอ่านนั้น ทำไมจึงสวยงามและจบที่เรารู้สึกยกย่องและเชิดชูเท่านั้น ทั้งที่ชีวิตความเป็นจริงความผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
🌼 ตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด หรือ ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน “ผู้ใหญ่” ที่เด็กๆ เขากำลังพูดถึง ที่เขาไม่อยากฟังหรือตามในวันนี้ เขาไม่ได้หมายถึงพ่อหรือแม่
1
เพราะพ่อแม่ย่อมรักและหวังดีต่อลูกเสมอ และลูกทุกคนก็รักและเคารพพ่อแม่
แต่พวกเขาหมายถึง "ผู้ใหญ่" ที่พร้อมที่จะเข้ามาพราก “ภาษี” ไปจากพวกเขา แทนที่มันจะถูกนำมาใช้กับการศึกษาของพวกเขา และ อนาคตพวกเขา
ขอบคุณภาพจาก DMC.TV : https://www.dmc.tv/pages/scoop/กราบเท้าแม่.html
หลายๆ ท่านรู้และเข้าใจสิ่งนี้อยู่แล้ว แต่หลายๆ ท่านอาจจะต้องพยายามทำใจ (ให้เป็นกลาง) เพื่อวิเคราะห์ทุกอย่างเองเงียบๆ เราเข้าใจว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะรับความจริงตรงนี้ได้ เราเองก็เคยเถียงกับตัวเองและผิดหวังกับความจริงที่เราค้นพบมาก่อน
ถ้าท่านไม่เห็นด้วย ก็ขอให้มองว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความคิดของเราเท่านั้น หรือถ้ายากจะด่าเราก็แล้วแต่จะทำ แต่มันก็ไม่มีผลกับเรา เพราะเราทำใจไว้ก่อนจะเขียนบล็อกนี้แล้ว
แต่หากท่านยังไม่แน่ใจและอยากจะฟังเรื่องราวเพิ่มเติม เรายังมีเรื่องเล่าอีกมากมายในความเหมือนที่ต่างความต่างที่เหมือน
ขอบคุณทุกท่านที่อยู่คุยเป็นเพื่อนกันมาจนถึงท้ายสุดนี้ วันนี้เราต้องไปก่อนละ บาย บาย 😊 😊
ปล.
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น ไม่สามารถสรุปได้ว่าทุกคนที่มีประสบการณ์ชีวิตในประเทศสวีเดนจะคิดเหมือนกัน
🔸 ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม🔸
👉 อันดับประเทศที่มีดัชนีชี้วัดความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ปี 2020
https://thestandard.co/democracy-index-2020/
👉 5 ประเทศ ที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ (เผด็จการ)
https://www.longtunman.com/22797
👉 กฎหมายเกาหลี ครอบครองสื่อต่างประเทศโทษถึงประหารชีวิต
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/148973
https://www.bbc.com/thai/international-57389630
👉 "ยูเอ็น"ตีแผ่คิมจองอึนนิยมของหรูหรายิ่งกว่าพ่อ
https://www.posttoday.com/world/278551
👉 ผู้นำเกาหลีเหนือใช้ชีวิตหรู ขณะที่ประชาชนอดอยาก
https://www.sanook.com/news/907166/
👉 การหลบหนีจากเกาหลีเหนือของฉัน
https://www.ted.com/talks/hyeonseo_lee_my_escape_from_north_korea/transcript?language=th#t-710331
👉 ชาวเกาหลีเหนือเผย ความยากลำบากภายใต้ระบอบคิม จอง อึน
https://www.bbc.com/thai/international-44317512
👉 “สังคมเมือง-ชนบท” ฝรั่ง VS ไทย
https://www.blockdit.com/posts/60b3d6d674597a10e9f5e4af
👉 เว็บไซต์กฎชุดนักเรียนในประเทศสวีเดน (ภาษาสวีเดน)
https://www.skolverket.se/regler-och-ansvar/ansvar-i-skolfragor/skoluniform?fbclid=IwAR3VqO9DXL5iVQHf_EwZo7K6aK4NFDAYF9qEn7OLCL8AxRVYnakZ-qC__EU
🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻 🌼🌻
3 บันทึก
6
4
6
3
6
4
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย