16 มิ.ย. 2021 เวลา 13:29 • ข่าว
แม่ค้าดีใจ ลูกค้าใจป้ำ สั่งน้ำส้ม 500 ขวด กลับกลายเป็นสรรพสามิตมาล่อซื้อ
4
นี่เป็นบทเรียนที่เกิดขึ้น จากกรณีมีผู้โพสต์ว่ามีคนอ้างว่า จะซื้อน้ำส้ม 500 ขวด อย.และกรมสรรพสามิต มีคำอธิบายว่า เธอเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง แต่เบื้องต้นปฏิเสธว่า ไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าปรับ 12,000 บาท
2
เรื่องนี้ ถูกเปิดเผยจากผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง โพสต์ภาพ มีชาย 5 คน มาจ้างผลิตน้ำส้ม 500 ขวด และมารับของ และหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต และถามหาใบอนุญาต เมื่อผู้เสียหายบอกว่าไม่มี เจ้าหน้าที่จึงเรียกค่าปรับ สุดท้ายเจรจากัน จบที่ต้องจ่ายเงิน 12,000 บาท
1
ขณะที่นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบผู้ผลิตรายดังกล่าว หลังได้รับเบาะแสว่าโรงงานผลิตเครื่องดื่ม ไม่ได้มาตรฐาน และยังไม่เข้าระบบเสียภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้อง จึงเข้าดำเนินการให้คำแนะนำ โดยไม่ได้เรียกเก็บค่าปรับ จำนวน 12,000 บาท ตามที่เป็นข่าว
1
พร้อมย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีอย่างสุจริต และยังช่วยให้ผู้บริโภค ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ
3
และเมื่อตรวจสอบไปยังเพจเฟซบุ๊กจำหน่ายเครื่องดื่มดังกล่าว ไม่เพียงจำหน่ายน้ำส้มบรรจุุุขวด ตามคำสั่งซื้อ แต่ยังรับสมัครตัวแทนจำหน่าย พร้อมกับบริการส่งสินค้าทุกวัน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งไม่เข้าข่าย ได้รับการยกเว้น ภาษีเครื่องดื่ม ตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.สรรพสามิต ปี 2560
1
รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตระบุว่า เครื่องดื่มที่เข้าข่ายไม่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย คือ เครื่องดื่มที่ผูู้ผลิตทำขึ้นเพื่อขายปลีกเป็นการเฉพาะ ซึ่งคลอบคลุมกรณีที่พ่อค้าแม่ค้าผลิตเพื่อขายเองที่บ้าน หรือหน้าร้านขนาดเล็ก หรือรถเข็น เป็นต้น
แต่หากเป็นการผลิตในลักษณะที่มีผนึกมิดชิด มีฉลากการค้า รวมถึงมีการขายส่งต่อ และวางจัดจำหน่ายในสถานที่อื่น จะเข้าข่ายจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม โดยจะคำนวณจากฐานความหวานของเครื่องดื่มชนิดนั้น ๆ ซึ่งผู้ผลิตมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนเสียภาษีให้ถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตที่จดทะเบียนแล้วกว่า 10,000 ราย
5
ทั้งนี้ แม้ในประกาศกรมสรรพสามิต กำหนดหลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีความหวาน ในเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมผักและผลไม้ แต่ผู้ผลิต ต้องนำส่งตัวอย่าง ให้กรมฯ ตรวจวิเคราะห์ว่า น้ำส้มคั้นบรรจุขวดมีส่วนผสมไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
2
ขณะที่เจ้าหน้าที่กองอาหาร องค์การอาหารและยา หรือ อย.อธิบายว่า การผลิตอาหารขาย แบ่งเป็น 2 ลักษณะ
1
1. ถ้าผลิต ทำอาหาร เครืองดื่มจำหน่ายโดยตรงกับผู้บริโภค เช่น ทำในร้านอาหาร ทำขนมขายหน้าบ้านตัวเองไม่ต้องขออนุญาต
3
2. หากมีการผลิต ติดฉลาก แล้วมีการนำไปวางจำหน่าย ณ สถานที่อื่น จำเป็นต้องขออนุญาตในเรื่อง สถานที่ผลิตอาหาร เนื่องจากเข้าข่าย พ.ร.บ.อาหาร 2522
สามารชมคลิปข่าวต่อได้ทาง >> www.facebook.com/watch/?v=314338430342262
1
โฆษณา