รีวิวหนังสือ “จงถ่ายหนังสือจากหน้าสารบัญแล้วคุณจะเรียนเก่งขึ้น”
เล่มที่ 2
การให้ถ่ายหน้าสารบัญของหนังสือมาอ่านในความหมายของผู้เขียนก็คือการให้มองภาพรวมของเนื้อหาหนังสือที่เราจะอ่าน โดยนำหน้าสารบัญมาดูเปรียบเทียบไปพร้อมกับการอ่านหนังสือเพื่อทำให้เราเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น เห็นภาพทั้งหมดของเนื้อหาไปพร้อมๆกับรายละเอียดปลีกย่อยของเนื้อหาทำให้เราเชื่อมโยงข้อมูลได้ดีขึ้น
หน้าปกของหนังสือและชื่อหนังสือถูกออกแบบมาอย่างน่าสนใจทำให้อยากเปิดอ่าน
สิ่งที่ชอบมากในหนังสือเล่มนี้คือ การสื่อของผู้เขียนให้เรารู้ว่า การพยายามทำสิ่งใดก็ตามควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนแล้วทำให้สุดความสามารถ
ในหนังสือมีแง่คิดดีๆมากมายและผู้เขียนใช้คำพูดได้อย่างดีเยี่ยม เช่น
ถ้าทำเต็มที่แล้วยังล้มเหลวแสดงว่าวิธีเรียนไม่ดี ครั้งต่อไปจะได้ปรับเปลี่ยนวิธีเสียใหม่ ดังนั้น เราต้องเรียนอย่างสุดความสามารถเพราะถึงสุดท้ายแล้วจะล้มเหลว แต่เรายังสามารถนำความล้มเหลวนั้นมาใช้ประโยชน์ได้
ทว่าหลายคนกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นคือ เลือกที่จะทำแบบไม่เต็มกำลัง เพราะกลัวว่าถึงทำไปก็ล้มเหลวอยู่ดี อย่างไรก็ตาม การทำแบบไม่เต็มกำลังแล้วล้มเหลวนั้นจะไม่หลงเหลืออะไรให้นำไปใช้ประโยชน์ได้เลย มันจึงเปรียบได้กับการไม่ทำอะไรเลย
ผู้เขียนยังแนะวิธีเรียนที่จะทำให้ประสบความสำเร็จอีกมากมาย เช่น กุญแจสำคัญของการเรียนคือการฝึกทำโจทย์พื้นฐานซ้ำๆ
เพราะยิ่งมีโจทย์พื้นฐานเก็บเอาไว้ในคลังมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งคุ้นเคยกับแบบแผนของโจทย์ที่จะออกสอบมากเท่านั้น การฝึกทำซ้ำๆจะทำให้เราจำได้อย่างถาวร
การวิเคราะห์ข้อสอบเก่าจะทำให้เรารู้ขอบเขตของเนื้อหา แนวโน้มของข้อสอบ รวมถึงรู้ว่าข้อสอบต้องการวัดความสามารถด้านไหน ส่วนการทำข้อสอบเก่าก็ช่วยให้เรามองเห็นจุดอ่อนของตัวเอง
ผู้เขียนให้เราคิดว่าการเรียนเป็นเกมเหมือนกับโคโนะ เก็นโตะ ผู้เขียนหนังสือ โคโนะ เก็นโตะ ราชาสมองเพชร ซึ่งโคโนะ เก็นโตะก็จบเนติบัณฑิตเพียงปีเดียวในขณะที่เป็นนักศึกษาแพทย์
เพียงแต่โคโนะเก็นโตะยกตัวอย่างได้แบบลึกกว่า เช่น มีการยกตัวอย่างแผนที่ในเกม RPG มาเปรียบเทียบกับการเรียน เหตุที่ทั้งสองคนมีแนวคิดเช่นนี้อาจเป็นเพราะวัฒนธรรมการเล่นเกมดูการ์ตูนเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมานาน การที่สามารถนำเรื่องเช่นนี้มาปรับใช้กับการเรียนได้ถือว่าเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์มาก
ช่วงท้ายของหนังสือจงถ่ายหนังสือจากหน้าสารบัญแล้วคุณจะเรียนเก่งขึ้นเล่มนี้จะเป็นการพูดถึงประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ชีวิตของผู้เขียนซึ่งก็ยังคอยสอดแทรกแง่คิดที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่าน ทำให้ไม่รู้สึกว่าเสียเวลาอ่านเลย
มะโกะโตะ อิโต ผู้เขียนชาวญี่ปุ่นคนนี้เป็นเจ้าของโรงเรียนกวดวิชาที่สอนเตรียมสอบเนติบัณฑิตซึ่งเป็นการสอบที่ขึ้นชื่อว่ายากที่สุดในญี่ปุ่น แนะแนววิธีอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า โดยรวมแล้วเป็นหนังสือที่ดีมากสามารถนำมาปรับใช้กับการอ่านหนังสือได้ทุกประเภทและยังช่วยให้เรามีความพยายามในการทำสิ่งต่างๆมากขึ้นด้วย ให้ 5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
อ่านจบแล้วได้ความรู้มากมาย ได้ความรู้ใหม่ด้วยว่า ที่ญี่ปุ่นคนที่จบจากโรงเรียนกฎหมายจะต้องเข้าสอบวิชากฎหมายปรนัย 7 วิชา รวมถึงสอบแบบอัตนัยที่ต้องใช้ความรู้ในการว่าความคดีแพ่งและคดีอาญาด้วย หากสอบผ่านก็จะมีสิทธิสอบเนติบัณฑิต ส่วนการสอบเนติบัณฑิตจะต้องสอบข้อสอบปรนัย 7 วิชา และข้อสอบอัตนัยซึ่งเลือกหัวข้อได้เองอีก 1 วิชา รวมเป็น 8 วิชา
ซึ่งต่างกับประเทศไทยที่ต้องจบปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิตจึงจะมีสิทธิสอบเนติบัณฑิตและการสอบเนติบัณฑิตไทยต้องสอบข้อสอบอัตนัยทั้งหมด ไม่มีข้อสอบปรนัย
ผู้เขียน : อิโต มาโกะโตะ
ผู้แปล : โยซุเกะ, พิมพ์รัก สุขสวัสดิ์
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
ขนาดรูปเล่ม : 129 x 186 x 14 มม.
น้ำหนัก : 220 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระถนอมสายตา
จำนวนหน้า : 224 หน้า ปกอ่อน
ISBN : 9786162871207
หนังสือราคา 175 บาท มี 224 หน้า
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
