17 มิ.ย. 2021 เวลา 07:24 • ธุรกิจ
หลังจากที่กระทรวงการคลังและกรมสรรพากร ประกาศขยายเวลาการยืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2563 ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ใครที่ยังไม่ได้ยื่น ต้องรีบแล้วนะ เพราะถ้ายื่นไม่ทันในวันเวลาที่กำหนดอาจเสียค่าปรับได้ แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป วันนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้สรุปขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์แบบสเต็ปบายสเต็ปมาให้ทำตามกันง่ายๆ แถมได้เงินคืน เก็บเป็นเงินออมไว้ต่อยอดให้งอกเงย แต่ก่อนจะไปถึงขั้นตอนยื่นภาษี มาเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนกันก่อน
เตรียมเอกสารให้พร้อม ก็ยื่นผ่านฉลุย
เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนการยื่นภาษีมีดังนี้
เอกสารแสดงรายได้ หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (50 ทวิ) จากนายจ้าง เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดระบุว่า
ปีนั้นคุณมีรายได้รวมเท่าไหร่ มีการหักชำระกองทุน หรือเงินทุนสำรองต่างๆ เท่าไหร่ แต่ในกรณีที่มีรายได้หลายทาง ต้องเตรียมเอกสารแสดงการหักภาษีของหน่วยงานอื่นๆ ที่จ้างคุณไว้ด้วยนะ
รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมไว้ตลอดทั้งปี ได้แก่ ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา หรือบุตร ฯลฯ
เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษีเพื่อนำมาใช้ในแบบฟอร์มยื่นภาษี เช่น จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน, เบี้ยประกันชีวิต, เบี้ยประกันสุขภาพ, ใบเสร็จซื้อสินค้าโครงการช้อปดีมีคืน, หนังสือรับรองดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านหรือค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการ รวมไปถึงใบอนุโมทนาบัตร หรือใบเสร็จรับเงินที่มีข้อความระบุชื่อหน่วยงานที่บริจาคเงินให้ แต่ถ้าเป็นการบริจาคผ่านระบบ e-Donation จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีโดยไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาค
เตรียม Username และ Password สำหรับยื่นภาษีออนไลน์บนเว็บไซต์สรรพากร หากใครยื่นภาษีออนไลน์ครั้งแรก คลิกสมัครสมาชิกก่อน
ยื่นง่าย ได้เงินไว แบบสเต็ปบายสเต็ป
เมื่อเตรียมทุกอย่างครบแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์ 2563 (ยื่นในปี 2564) มาดูกันไปทีละสเต็ป
1. เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th แล้วเลือก “ยื่นออนไลน์” จากนั้นเลือก “ยื่นภาษี ภ.ง.ด.90/91”
2. เข้าระบบ สำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกแล้วให้ล็อกอินโดยใส่หมายเลขผู้ใช้ (เลขบัตรประชาชน) และรหัสผ่าน
ส่วนใครที่ยื่นเองเป็นครั้งแรก ให้กด “สมัครสมาชิก” ก่อน
3.ระบุข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว และตรวจสอบความถูกต้อง หากมีตรงไหนผิดพลาดให้กดแก้ไขได้ที่ปุ่ม “เปลี่ยนชื่อ – สกุล ผู้มีเงินได้” และ “แก้ไขที่อยู่” เมื่อตรวจสอบว่าถูกต้องเรียบร้อยแล้วให้คลิกที่ปุ่ม “ทำรายการต่อไป”
4.เลือกสถานภาพตัวเองให้ถูกต้อง มนุษย์เงินเดือนทั่วไป ก็ให้เลือกที่ช่อง “(1) บุคคลธรรมดา” แล้วติ๊กที่ช่องสถานะ “โสด” “สมรส” “หม้าย” ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้เลือกช่อง “โสด” เมื่อเลือกโสดแล้ว ให้คลิก
ทำรายการต่อไปได้เลย แต่หากใครสมรสให้กรอรายละเอียดเพิ่มเติมในช่องถัดไป
5.ระบุข้อมูลที่มาของเงินได้ และรายจ่ายเพื่อลดหย่อนภาษี
ฝั่งซ้าย ให้เลือกว่า คุณมีรายได้จากช่องทางไหนบ้าง ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือน ให้เลือกเงินได้มาตรา 40(1) แต่หากสำหรับสายฟรีแลนซ์ให้เลือกเงินได้มาตรา 40(2) หรือ ถ้ามีรายได้อื่นๆ ก็ต้องใส่เครื่องหมายถูกลงไปให้ครบตามเงินได้แต่ละข้อ
ฝั่งขวา จะเป็นรายการค่าลดหย่อนภาษี ควรเช็กให้ดีว่า เรามีอะไรบ้างที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ เช่น เงินสมทบประกันสังคม, เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เบี้ยประกันชีวิต – เบี้ยประกันสุขภาพ, กองทุน SSF/RM, เงินบริจาค ฯลฯ เพื่อนำไปคำนวณการยื่นภาษีออนไลน์ เมื่อเลือกและตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วกดทำรายการต่อไป
6.ระบุรายละเอียดรายได้ประจำปี (ดูจากใบ 50 ทวิ)
ระบุรายการเงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญต่างๆ ให้ถูกต้อง โดยข้อมูลส่วนนี้สามารถดูได้จากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ ที่สำคัญต้องไม่ลืมเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงินได้ ส่วนคนที่เปลี่ยนงานหรือออกจากงานระหว่างปีให้ติดตามขอเอกสารของที่ทำงานเก่าและที่ทำงานใหม่เพื่อนำมายื่นรวมกันด้วย หากมีเงินได้จากส่วนอื่นๆ นอกจากเงินเดือน และโบนัส ก็ใส่ให้ครบถ้วน
7.ระบุครบได้คืนชัวร์ นำรายการค่าลดหย่อนที่เรามีมาใส่ทั้งหมด ควรใส่ตัวเลขให้ถูกต้องครบถ้วน
จะได้ไม่เสียสิทธิลดหย่อนภาษี เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้ว คลิกทำรายการต่อไป
8.เช็กเพื่อความเป๊ะอีกครั้ง เมื่อระบุทุกอย่างครบแล้วขั้นตอนนี้จะเป็นการคำนวณภาษีให้อัตโนมัติ คุณจะทราบได้เลยว่า ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม หรือ ได้เงินภาษีคืนเท่าไหร่ หากตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้กดทำรายการต่อได้เลย
9. หน้าสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด เมื่อเช็กทุกอย่างถูกต้องและครบถ้วน ให้กด “ยืนยันการยื่นแบบ” เป็นขั้นตอนสุดท้าย ก็ถือว่ายื่นภาษีออนไลน์ เสร็จสิ้น และสามารถมาตรวจสอบผลเงินคืนภาษีได้อีกใน 3วัน
 
กรณีได้เงินภาษีคืน แนะนำว่าถ้าอยากได้ภาษีคืนเร็วๆ และผ่านฉลุย ให้อัปโหลดหลักฐาน (ใบ 50 ทวิ และรายการลดหย่อน) ให้ครบถ้วน และเลือกรับเงินคืนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ อย่าลืมพิมพ์ “ผลการยื่นแบบ”
เก็บไว้ด้วยนะ
กรณีต้องจ่ายภาษีเพิ่ม สามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
พร้อมเพย์ บัตรเครดิต, ATM, Internet Banking, เคาน์เตอร์ธนาคารที่เข้าร่วม เคาน์เตอร์เซอร์วิส ไปรษณีย์ไทย
เห็นไหมว่า การยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด ง่าย และสะดวกมากๆ เพียงแค่ต้องทำตามขั้นตอน และระบุข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนเท่านั้นเอง ปีนี้ใครเสียเพิ่ม หรือได้คืนน้อย ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เราสามารถวางแผนจัดการเงินภาษีของเราได้ง่ายๆ ด้วยวิธีดังนี้
1.เช็กสิทธิประโยชน์ให้ครบถ้วน นอกจากค่าลดหย่อนปกติทั่วไป อยากให้คุณลองเช็กดูว่า มีสิทธิประโยชน์อะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เช่น
- ค่าเลี้ยงดูบุตรสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท
- ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ใช้ลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท
- ค่าประกันสุขภาพบิดา-มารดา ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท
- เงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- เงินบริจาค ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้ แต่หากบริจาคเพื่อการศึกษา สถานพยาบาลของรัฐ สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง
- ดอกเบี้ยกู้บ้าน ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท หากกู้ร่วม 2 คน แยกยื่น นำไปลดหย่อนได้คนละครึ่ง
2.วางแผนหาลดหย่อนเพิ่ม เพื่อเงินเก็บที่งอกเงย รู้หรือไม่การออมหรือการลงทุนของคุณก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้นะ เช่น
- ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- ค่าซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกับการออมเพื่อการเกษียณที่กำหนดต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- ค่าเบี้ยประกันชีวิต ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท (แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
หากปีนี้ใครที่พลาดการวางแผนลดหย่อยภาษี ก็ไม่เป็นไร มาเริ่มวางแผนได้ตั้งแต่วันนี้ โดยเริ่มจากการสำรวจตัวเองว่ามีเป้าหมายทางการเงินแบบไหน เพื่อจะได้วางแผนลดหย่อนภาษีให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รับรองคุณจะเสียภาษีน้อยลง สามารถนำเงินคืนภาษีมาต่อยอดให้เงยเงยได้อีก แถมยังมีเงินจากการซื้อสินทรัพย์ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ไว้ใช้ในยามเกษียณได้อีกด้วย
อย่าลืมติดตามสาระดีๆ เพิ่มเติมจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ที่ LINE Official Account: @cimbthai
หรือคลิกลิงก์เพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/s7dNTN
โฆษณา