18 มิ.ย. 2021 เวลา 07:53 • ธุรกิจ
มาเช็คความมั่งคั่งของตัวเองกันดีกว่า
ความมั่งคั่งสุทธิ หรือ Net worth ของเรา สามารถหาได้จาก สินทรัพย์หักลบด้วยหนี้สินทั้งหมด
(Net worth = Assets - Liabilities)
โดยการลิสท์รายการสินทรัพย์และหนี้สินทั้งหมดนั้น คือการทำงบดุลส่วนบุคคล หรือ personal balance sheet ของเรานั่นเอง
แล้วสินทรัพย์ในงบดุลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
สินทรัพย์แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม
1. สินทรัพย์สภาพคล่อง เช่น เงินสด บัญชีเงินฝากธนาคาร กองทุนตลาดเงิน
2. สินทรัพย์เพื่อการลงทุน เช่น หุ้นสามัญ กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ มูลค่าเงินสดกรมธรรม์ประกันชีวิต
3. สินทรัพย์ส่วนตัว เช่น บ้าน รถยนต์ ของสะสม เครื่องประดับ
การจดรายการทุกอย่าง พร้อมทั้งใส่มูลค่าทางการตลาด ณ วันที่ทำงบดุล จะทำให้เห็นว่า เรามีสินทรัพย์อยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง
ข้ามฝั่งมาที่หนี้สิน สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
1. หนี้สินระยะสั้น เช่น ค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำค่าไฟที่ยังไม่ได้จ่าย
2. หนี้สินระยะยาว เช่น ยอดคงค้างกู้ยืมซื้อบ้าน ยอดคงค้างกู้ยืมซื้อรถยนต์
นอกจากนี้ ในงบดุลส่วนบุคคล ยังมาพร้อมกับ 5 อัตราส่วนทางการเงิน คือ
1. อัตราส่วนสภาพคล่อง (Liquidity Ratio)
= สินทรัพย์สภาพคล่อง/หนี้สินระยะสั้น
บอกถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น อัตราส่วนสภาพคล่องที่ดี ควรมีค่ามากกว่า 1
2. อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อความมั่งคั่งสุทธิ ( Liquid Assets to Net Worth ratio)
= สินทรัพย์สภาพคล่อง/ความมั่งคั่งสุทธิ
หมายความว่า หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เรามีสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้มากน้อยแค่ไหน ค่าที่แนะนำคือ 15%
3. อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ (Debt to Asset ratio)
= หนี้สินทั้งหมด/สินทรัพย์ทั้งหมด
เรากำลังมีหนี้สินมากเกินไปหรือเปล่า? หนี้สินทั้งหมดไม่ควรเกิน 50% ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่เรามี
4. อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้สินด้วยสินทรัพย์ที่มี (Solvency ratio)
= ความมั่งคั่งสุทธิ/สินทรัพย์ทั้งหมด
หากเกิด worst case scenario ทรัพย์สินที่เรามีอยู่จะสามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้หรือไม่ ค่าที่แนะนำคือมากกว่า 50%
5.อัตราส่วนการลงทุน (Net Investment Assets to Net Worth ratio)
= สินทรัพย์เพื่อการลงทุน/ความมั่งคั่งสุทธิ
เรามีสัดส่วนการลงทุนมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มี หากใกล้ช่วงเกษียญอายุ ควรจะมีสัดส่วนที่เยอะขึ้น เพื่อบ่งบอกว่า เรามีแนวโน้มที่จะเก็บออมเพื่อการเกษียณอย่างเพียงพอแล้ว
การทำงบดุลส่วนบุคคล เราสามารถอัพเดทข้อมูลปีละครั้ง ทุกๆ 6 เดือน หรือทุกเดือนก็ได้ ก็จะทำให้เรารู้ว่า ความมั่งคั่งของเรา สถานะทางการเงินของเราเป็นอย่างไร ลดลงหรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาก่อนหน้าอย่างไรด้วย
#วางแผนการเงิน
#งบดุลส่วนบุคคล
#PersonalBalanceSheet
โฆษณา