19 มิ.ย. 2021 เวลา 00:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Vertex Pharmaceuticals (Nasdaq: VRTX) บริษัทไบโอเทคชั้นนำ ผู้ผลิตคิดค้นยารักษาโรคที่รักษายาก
.
มีผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมาก คือ ยา "TRIKAFTA” ซึ่งเป็น ยารักษาโรคซีสติกไฟโบรซีส (Cystic Fibrosis) โรคเรื้อรังที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมทำให้เกิดการสร้างเสมหะข้นในปอด เมือกในตับอ่อน และอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต
Vertex Pharmaceuticals
จำนวนผู้ป่วยโรค Cystic Fibrosis ในสหรัฐ ยุโรป และ ออสเตรเลีย มีประมาณ 83,000 คน
ประมาณ 30,000 คน อาศัยอยู่ในสหรัฐ
ประมาณ 1,000 รายที่เป็นผู้ป่วยใหม่ที่พึ่งได้รับการวินิจฉัยในแต่ละปี
มากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เป็นโรคได้รับการวินิจฉัยก่อนอายุ 2 ขวบ
และมากกว่าครึ่งของผู้ป่วย Cystic Fibrosis มีอายุ 18 ปีหรือมากกว่า
TRIKAFTA ถูกจัดว่าเป็น Orphan Drug ซึ่งหมายถึง ยาที่ใช้ในโรคหายาก ที่มีผู้ป่วยจำนวนน้อยเกินกว่า 200,000 คน
หากบริษัทเอกชนลงทุนพัฒนาคิดค้นวิจัยเอง ยังไงก็ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายแน่นอน จึงต้องมีหน่วยงานรัฐบาลเข้ามาให้การสนับสนุนทางการเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ Vertex ก็ได้รับเงินช่วยเหลือจาก Cystic Fibrosis Foundation จำนวน 70 ล้านเหรียญในการทำวิจัย
Source: Vertex
ยา "TRIKAFTA” คือ เป็นยาที่ใช้ได้ผลดีมาก ซึ่ง 90% ของผู้ป่วยโรคนี้ตอบสนองต่อยาได้เป็นอย่างดี
แต่ตัวยานั้นมีราคาสูงมาก ราว 3 แสนเหรียญ แน่นอนว่าผู้ป่วยไม่ได้เป็นผู้จ่ายค่ายาเอง ลูกค้าของ Vertex นั้นจึงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภาครัฐ ระบบสุขภาพ บริษัทประกัน องค์กรสุขภาพต่างๆ
ในสหรัฐ ยา "TRIKAFTA” ได้ผ่านการอนุมัติรับรองจาก FDA ให้ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 ปีขึ้นไป ซึ่งก่อนหน้านี้ คือ 12 ปีขึ้นไป
ในยุโรป ยาตัวนี้จะใช้ชื่อว่า “KAFTRIO” ใช้ได้ในผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไป ได้รับการอนุมัติให้ใช้ใน 12 ประเทศ เช่น เดนมาร์ก เยอรมัน ไอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ อังกฤษ ฯลฯ
และเพิ่งได้รับการอนุมัติจาก The Australian Therapeutic Goods Administration ให้ใช้ได้ในออสเตรเลียในผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไป
และบริษัทก็ยังวิจัยหายารักษาผู้ป่วยอีก 10% ที่เหลือที่รักษาด้วยยาตัวนี้ไม่ได้ผล
"TRIKAFTA”
มาดูส่วนของ #งบการเงิน แข็งแกร่งมาก และในส่วนของรายได้ บริษัทเติบโตได้อย่างดี
รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ ราว 70% มาจากยา TRIKAFTA
ปี 2018 – รายได้ 3,047 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – รายได้ 4,162 ล้านเหรียญ โตขึ้น 37%
ปี 2020 – รายได้ 6,205 ล้านเหรียญ โตขึ้น 49%
คาดการณ์รายได้ 2021 อยู่ที่ 6,700-6,900 ล้านเหรียญ ประมาณการณ์เติบโต 10%
.
บริษัทมี Net Profit Margin สูงมาก
ปี 2018 – กำไร 2,087 ล้านเหรียญ Net Profit Margin 68%
ปี 2019 – กำไร 1,176 ล้านเหรียญ Net Profit Margin 28%
ปี 2020 – กำไร 2,711 ล้านเหรียญ Net Profit Margin 44%
.
และมี Operating Cash Flow และ Free Cash Flow ที่ดีมาก เพิ่มขึ้นทุกปี
ปี 2020 – บวก 3,253 ล้านเหรียญ
Free Cash Flow 2,993 ล้านเหรียญ
เงินสด 6,900 ล้านเหรียญ
CTX001
จุดเด่นของบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งมากที่เลียนแบบไม่ได้ มีอัตราการเข้าถึงของยาในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ มีงบการเงินที่แข็งแกร่งและเงินสดเพียบ และ
นอกจากยารักษาโรค Cystic Fibrosis แล้ว บริษัทยังมี Product Pipelines อื่นอีก
1. CTX001
การร่วมกันวิจัยพัฒนาและนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด (Joint Development and Commercialization Agreement) กับ CRISPR Therapeutics ในการรักษาโรคเบต้าทาลัสซีเมีย และ โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว โดยวิธีตัดต่อยีนส์ด้วย CRISPR-CAS9
โดยผลของการวิจัยและทดลองกับผู้ป่วยจริงเป็นไปได้อย่างดี คาดการณ์จบการทดลองแล้วเข้าสู่เฟสต่อไปได้ภายในปีนี้ โดย Pipeline นี้มีมูลค่าตลาดราว 11,000 ล้านเหรียญ
ซึ่ง Vertex มีส่วนแบ่ง 60% CRISPR 40% และ Vertex ต้องจ่ายเงิน 900 ล้านเหรียญเป็นเงินล่วงหน้าในการทำการวิจัยให้ CRISPR และอีก 200 ล้านเหรียญเมื่อ CTX001 ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการรักษาโรคได้
2. Alpha-1 Antitrypsin Deficiency
โรคพร่องสาร alpha-1-antitrypsin (AAT) เป็นโรคทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง คาดการณ์มีผู้ป่วยราว 100,000 คนในสหรัฐ และ 120,000 ในยุโรป และมีประมาณ 10% ที่มีอาการรุนแรง โดย Pipeline นี้มีมูลค่าตลาดราว 5,000 ล้านเหรียญ ขั้นตอนการทดลองอยู่ในเฟส 2 ที่เรียกว่า VX-864
3. APOL1-Mediated Kidney Diseases
ขั้นตอนการทดลองอยู่ในเฟส 2 ที่เรียกว่า VX-147
4. Type 1 Diabetes
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากเซลล์ตับอ่อนถูกทำลายจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ขาดอินซูลิน มักพบในเด็ก ซึ่งมีคนเป็นโรคนี้มากกว่า 1 ล้านคนในสหรัฐ การทดลองทางคลีนิคอยู่ในเฟส ½ ที่เรียกว่า VX-880
5. Pain
ยาลดความเจ็บปวด กำลังจะเข้าสู่การทดลองทางคลีนิคเฟส2 ที่เรียกว่า VX-548
Risk Factors
#ความเสี่ยง
1. พึ่งพารายได้หลักจากยารักษาโรค Cystic Fibrosis แค่อย่างเดียว
2. ความเสี่ยงจากการที่คู่แข่งคิดค้นยาได้ก่อนและมีประสิทธิภาพกว่าได้
AbbVie กำลังทำการทดลองวิจัยยา รักษาโรค Cystic Fibrosis อยู่ในช่วงทดลองเฟส2
Bluebird Bio มียา Zyntelgo รักษาโรคโรคเบต้าทาลัสซีเมีย และ โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (แต่ตอนนี้โดนปัญหาด้านความปลอดภัยอยู่)
3. การทดลองและพัฒนายาแต่ละตัวมีความยากและท้าทายอยู่มาก รวมถึงระยะเวลาที่นานกว่าที่จะออกมาcommercial ได้ มีโอกาสที่จะ fail สูง
ล่าสุด บริษัทหยุดการทดลองยา VX-814 ยาที่ช่วยโรคพร่องสาร alpha-1-antitrypsin (AAT) ทำให้เอาหุ้น Vertex ดิ่งเลย 20% ในวันเดียว และล่าสุดผลการทดลอง VX-864 ใน Pipeline เดียวกันก็ได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ หุ้นตกลงอีก 10% ทันที
โอกาสในการเติบโต
#โอกาสในการเติบโต
1. อุตสาหกรรมการผลิตยาถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่เยอะ แต่ถ้าบริษัททำสำเร็จกำไรก็เยอะมากเช่นกัน ดูจากยา TRIKAFTA/KAFTRIO รายได้ของบริษัทที่โตพรวดพราดในช่วงที่ผ่านมา และ Net Profit Margin ที่สูงมากถึง 44%
2. โอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศของยา TRIKAFTA/KAFTRIO
ณ ปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสหรัฐ คิดเป็น 72% ของรายได้ทั้งหมด และการที่ในสหรัฐมีการอนุญาตให้ใช้ยาตัวนี้ได้ในผู้ป่วยตั้งแต่อายุ 6 ปี ก็เป็นการขยายตลาดในสหรัฐได้อีก
ตัวยาได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในหลายประเทศในยุโรป ทำให้ Q1/2021 ยอดขายในยุโรปโตได้ถึง 43% YOY
และโอกาสในต่างประเทศและทวีปอื่นอีก เช่น เอเชีย แคนาดา ออสเตรเลีย
3. เติบโตกับ Product Pipeline อื่นที่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง ที่มีมูลค่าการตลาดสูงกว่าโรค Cystic Fibrosis
#Valuation
ด้วย Pipeline ยารักษาโรค Cystic Fibrosis เดียว ในปี 2021 คาดการณ์รายได้อยู่ที่ 6,800 ล้านเหรียญ คิดเป็นการเติบโต 10%YOY จะทำให้ P/S ของ Vertex อยู่ที่ 7 เท่า และ P/E ที่ 17 เท่า ซึ่งก็นับว่าถูกมากเมื่อเทียบกับอดีตที่นักลงทุนเคยให้ค่าสูงลิ่ว ซึ่งก่อนหน้าเคยเทรดกันอยู่ที่ P/E 40-50 เท่า
จากการหยุดการทดลอง VX-814 และผลการทดลองของ VX-864 ไม่น่าพึงพอใจ ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงมาจากยอดถึง 38% แล้ว หลายสำนักต่างคำนวณ Fair Value ออกมาได้เกินกว่ามูลค่าในปัจจุบัน โดยคิดจาก การเติบโตของยารักษาโรค Cystic Fibrosis + คาดการณ์รายได้ product pipelines อื่น + เงินสดที่มีอยู่เต็มมือ โดย
Goldman Sachs ให้ fair price ที่ 307 เหรียญ
JPMorgan 245 เหรียญ
RBC 262 เหรียญ
.
Vertex หุ้นไบโอเทคชั้นนำที่มีงบการเงินแข็งแกร่ง และการเติบโตข้างหน้าที่รออยู่ กับราคา ณ ปัจจุบัน ที่ดูแล้ว downside risk น่าจะน้อยมากแล้ว ถือว่าเป็นหุ้นตัวนึงที่แอดว่าน่าสนใจค่ะ
.
.
Reference:
1. Vertex Annual Report 10-K
2. Vertex Quarterly Report 10-Q
3. Seeking Alpha
4. Wikipedia
โฆษณา