25 มิ.ย. 2021 เวลา 12:03 • ประวัติศาสตร์
My roommate is a Gumiho. ซีรีส์สุดฮิตจากเกาหลี เรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางสุดหล่อที่กำลังจะได้เป็นมนุษย์ แต่มีเหตุขัดขวาง และต้องมาอยู่บ้านเดียวกันกับนางเอก ผู้ซึ่งกลืนลูกแก้วจิ้งจอกของพระเอกไป ผู้เขียนมีโอกาสได้ดู วันนี้เลยอยากหยิบยกเรื่องราวที่น่าสนใจของกูมิโฮ ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจากฝั่งเอเชีย มาฝากทุกคนกันค่ะ
ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนี้ เป็นตำนานความเชื่อที่เชื่อกันในหลายๆประเทศในทวีปเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย และเวียดนาม โดยแต่ละที่ก็จะมีชื่อเรียกเจ้าปีศาจนี้แตกต่างกันไป เช่น ฮูลิจิง (Huli Jing ภาษาจีน) กูมิโฮ (Gumiho /Kumiho ภาษาเกาหลี) และ คิทซึเนะ (Kitsune ภาษาญี่ปุ่น)
โดยเจ้าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนี้รูปร่างที่แท้จริงเป็นสุนัขจิ้งจอกส่วนใหญ่เป็นเพศเมีย มีอายุหลายร้อยปีหรือเป็นอมตะ มีเวทย์มนต์คาถาสามารถจำแลงแปลงกลายเป็นมนุษย์ได้
ส่วนใหญ่ตำนานจะเล่าว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเกิดจากสุนัขจิ้งจอกธรรมดาที่อยากกลายเป็นมนุษย์ จึงได้บำเพ็ญตบะ เพื่อให้ตนมีวิชาอาคม และเมื่อบำเพ็ญเพียรครบทุกร้อยปี จะมีหางงอกเพิ่มขึ้นทีละหาง และเมื่อมีหางครบ 9 หางแล้วก็จะได้กลายเป็นมนุษย์
โดยแต่ละหางของจิ้งจอก บ่งบอกถึงสติปัญญาและพลัง จิ้งจอกเก้าหางที่มีพลังมาก บรรลุเพียรแล้วสามารถขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ร่วมกับเทพเจ้าได้ด้วย
ส่วนใหญ่ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนี้จะจำแลงแปลงกายเป็นหญิงสาวงาม เพื่อหลอกล่อยั่วยุให้ชายหนุ่มที่เห็นหลงไหล และตกหลุมพรางของมัน จนกลายเป็นเหยื่อถูกควักหัวใจหรือตับ (แล้วแต่ความเชื่อ) ในที่สุด
Credit: https://archive.shine.cn/sunday/Magical-ninetail-fox/shdaily.shtml
วันนี้ เราได้รวบรวมตำนานพื้นบ้าน และวีรกรรมของเจ้าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในแต่ละประเทศมาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
เริ่มจากประเทศอินเดีย
จริงๆแล้วหากย้อนดูตำนานนี้ จะมีจุดร่วมอยู่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะ 4 ประเทศที่มีการติดต่อสัมพันธ์และถ่ายทอดวัฒนธรรม ความเชื่อกันมายาวนาน อย่าง อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนี้เป็นตำนานพื้นบ้านที่เกิดจากการเล่าขานต่อๆกันมา เป็นไปได้ว่าเรื่องนี้ติดมากับขบวนพ่อค้าตามเส้นทางสายไหมที่มีแต่โบราณ และพาดผ่านประเทศเหล่านี้
Credit: http://afe.easia.columbia.edu/geography/regions-place.html
เชื่อกันว่า ต้นกำเนิดปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมาจากประเทศอินเดีย แต่เรื่องนี้กลับไม่แพร่หลายในสังคมอินเดียเท่าไหร่นัก เนื่องจากอินเดียเองก็มีตำนานพื้นบ้าน ตำนานของเทพเจ้า และเรื่องเล่าของความเชื่ออื่นๆที่เยอะและตรงกับความเชื่อคนส่วนใหญ่มากกว่าอยู่แล้ว
โดยบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในอินเดียนี้ ปรากฏในสมัยราชวงศ์อินเดียโบราณ
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้แปลงกายเป็นหญิงสาวผู้สิริโฉม ซึ่งความสวยไปถูกตาต้องใจเจ้าชายแห่งราชวงศ์อินเดียโบราณเข้า พระองค์จึงได้พยายามสู่ขอและทำทุกทางให้ได้นางผู้นี้ไปเป็นสนม
1
เมื่อปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนางนี้ได้เข้าไปยังพระราชวังและเป็นนางสนมของเจ้าชาย เจ้าชายก็ได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากผู้ที่สนใจการงาน บริหารบ้านเมืองดี ก็กลายเป็นผู้ที่ลุ่มหลงและมักมากในกาม จนไม่เป็นอันทำอะไร ละเลยหน้าที่และพระคู่หมั้นของตนเองในที่สุด
นอกจากนี้รูปลักษณ์ภายนอกของเจ้าชายก็ทรุดโทรมลงมาก ไม่มีราศี เหมือนคนที่โดนของ โดนเวทย์มนต์ครอบงำ ทำให้พระบิดาผู้เป็นพระราชาทรงกังวล รับสั่งให้โหรหลวงดูดวงชะตา และหาวิธีแก้ไข
ทว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตนนี้กลับรู้ทัน และไหวตัวทันเสียก่อน มันจึงได้เป่าหูเจ้าชาย ใช้เวทย์มนต์ครอบงำ และสั่งให้เจ้าชายสังหารพระบิดาเสีย เจ้าชายที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ก็ได้ลงมือพยายามสังหารพระบิดา โชคดีที่พระบิดารู้ตัวก่อน จึงสั่งให้นักบวชและผู้ที่มีวิชาแข็งกล้าจัดการเจ้าปีศาจจิ้งจอกตนนี้
เหล่านักบวชได้ใช้คาถาและสุนัขบ้านมาใช้ปราบเจ้าปีศาจจิ้งจอก ซึ่งสุนัขบ้านนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของปีศาจจิ้งจอก ด้วยคาถาทำให้เจ้าปีศาจจิ้งจอกตัวนี้หมดฤทธิ์ลง สุดท้ายก็ได้แปลงกลายคืนเดิม เผยร่างที่แท้จริงเป็นจิ้งจอกขนสีเหลืองทองที่มีเก้าหาง บินหนีไปในท้องฟ้า ก่อนที่จะหายลับตาไป และไม่มีผู้ใดเคยพบเห็นมันอีกเลย
เรื่องราวที่เล่าต่อกันในอินเดียก็จบแต่เพียงเท่านี้
เรื่องของจิ้งจอกเก้าหางของอินเดีย มีความเชื่อของศาสนาพุทธนิกายตันตระที่คล้ายกัน เป็นเรื่องของ ฑากินี (Dakini) พระแม่ผู้ซึ่งสามารถเดินเหินอากาศได้โดยมีสุนัขจิ้งจอกเป็นพาหนะ ความเชื่อนี้ค่อนข้างแพร่หลายในญี่ปุ่น
ผู้ใดสนใจความเชื่อมโยง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้นะคะ
พระแม่ฑากินี ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (Credit: https://mythology.stackexchange.com/questions/2032/what-is-the-original-story-of-fox-spirit-nine-tails-fox-in-indias-myths)
ถัดมาที่ตำนานจิ้งจอกเก้าหางที่ประเทศจีนกันบ้าง
ประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเชื่อเรื่องจิ้งจองเก้าหางเป็นอย่างมาก เรื่องนี้เป็นตำนานเก่าแก่และเป็นนิทานพื้นบ้านของจีน และเกาหลี
โดยปรากฎข้อความเก่าแก่ระบุว่า มีจิ้งจอกเก้าหางที่ส่งเสียงร้องเหมือนเด็ก และกินคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ ชิงชิว (Qingqiu 靑丘) และคำที่ชาวจีนเรียกปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนี้คือ ฮูลิจิง (พินอิน: húlí jīng; จีน: 九尾狐)
ในความเชื่อของจีนจิ้งจอกเก้าหางจะเป็นตัวดีหรือร้ายก็ได้ โดยจะเป็นสุนัขจิ้งจอกเพศเมียที่บำเพ็ญตบะมานาน มีอำนาจวิเศษ เป็นอมตะ กลายร่างเป็นมนุษย์หญิงงามได้
ตำนานแรกของ ฮูลิจิง หรือ จิ้งจอกเก้าหางจากจีน ต้องย้อนไปที่สมัยราชวงศ์เซี่ย เมื่อสองพันกว่าปีก่อนคริสตกาล มีความเชื่อว่าฮูลิจิงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล ความสงบและความมั่งคั่ง รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของความรักและการแต่งงานด้วย มีตำนานเล่าว่า Yu กษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์เซี่ย ได้แต่งงานกับจิ้งจอกเก้าหางที่ภูเขาทูชาน มณฑลเหอหนานปัจจุบัน จนมีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง
บางตำนานก็เล่าว่าเขาแต่งงานกับหญิงสาวที่บูชาจิ้งจอกเก้าหางต่างหาก
อย่างไรก็ตามความเชื่อและการบูชาจิ้งจอกเก้าหางเพื่อความสิริมงคล ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ภาพจิ้งจอกเก้าหางมุมขวาบน ปรากฏบนบนหินแกะสลักสมัยราชวงศ์ฮั่น (Credit: https://chinesemythologypodcast.com/tag/hulijing/)
ภาพลักษณ์ของฮูลิจิงได้แปรเปลี่ยนไปเป็นจิ้งจอกเก้าหางที่เจ้าเล่ห์ ชอบยั่วยุ
หนึ่งในตำนานที่โด่งดังที่สุด มีปรากฎเรื่องราวในนิยายจีนอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งนับว่าเป็นพงศาวดารจีนอิงประวัติศาสตร์ด้วย เรื่อง "เฟิงเฉิน" (จีนกลาง) หรือ "ฮ่องสิน" หรือ "ห้องสิน" (สำเนียงฮกเกี้ยน) แปลว่า สถาปนาเทวดา ที่เราจะได้ยินกันบ่อย
เรื่องนี้ประพันธ์ขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีที่มาจากการทำสงครามระหว่างราชวงศ์ซางและแคว้นโจว เรื่องราวคร่าวๆจบลงที่การล่มสลายของราชวงศ์ซาง และการก่อตั้งราชวงศ์โจว เมื่อสองพันปีที่แล้ว
นิยายจีนเรื่องนี้จะเป็นแนวแฟนตาซีหน่อยๆ เป็นสงครามระหว่างเทพเซียน เผ่ามารและมนุษย์ ที่สำคัญมีเล่าถึงจิ้งจอกเก้าหางตนหนึ่งที่ชื่อว่านางต้าจี๋
จุดเริ่มต้นมาจาก พระเจ้าอินโจว หรือ โจ้วหวัง เป็นองค์ชายแห่งราชวงศ์ซาง เป็นผู้มีความสามารถมาก แต่ก็มีความหลงไหลในหญิงงามมากเช่นกัน พระองค์ต้องการจะหานางสนมสวยๆเข้าวังมาไว้ข้างกาย เรื่องจึงเกิดขึ้น
ครั้งหนึ่งพระองค์ต้องทำพิธีบวงสรวงสวรรค์ และได้เห็นเทวรูปของ เจ้าแม่หนี่วา ซึ่งเป็นนางฟ้าแห่งสวรรค์ ผู้มีความสวยตรงกับที่พระองค์อยากได้ จึงได้พรรณนา อยากให้มาเป็นพระมเหสีเลยทีเดียว
นางฟ้านหวี่วา (女媧) หรือ เจ้าแม่หนี่วา (Credit: https://www.shenyunperformingarts.org/explore/view/article/e/pbzszw3x17w/mythistory-nuwa.html)
ความทราบถึงหู เจ้าแม่หนี่วา ก็ทรงกริ้วมาก หนอยเป็นแค่มนุษย์กลับมาลามปามกับเทพ ทรงกริ้วถึงขั้นอยากจะลงโทษให้ราชวงศ์นี้สูญสิ้นกันเลยทีเดียว ดังนั้นเจ้าแม่จึงส่งจิ้งจอกเก้าหางนางหนึ่ง ให้ไปเข้าสิงสนมคนโปรดของโจ้วหวัง ที่มีชื่อว่า นางต้าจี๋
นางต้าจี๋ใช้เสน่ห์ยั่วยวนให้โจ้วหวังลุ่มหลง สนแต่เรื่องกามอารมณ์ ไม่เป็นอันทำงาน หวังให้พระองค์ละเลยงานบ้านงานเมือง เป็นทรราชย์ที่เข่นฆ่าผู้คน ขูดรีดภาษีประชาชน สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว
นางต้าจี๋ (Daji 妲己) Credit: http://www.chinesetimeschool.com/zh-tw/articles/da-ji/
เรื่องนี้ร้อนไปถึงแดนสวรรค์ เจ้าแม่หนี่วา มองว่านางต้าจี๋ทำเกินเลย ขณะนั้น จีซาง เจ้าเมืองโจว ได้ระดมพลลุกฮือต่อต้านโจ้วหวัง และภารกิจได้ส่งต่อมายังบุตรชายของเขา จีพา (ซึ่งภายหลังตั้งตนเป็น โจวอู่หวัง)
ดังนั้นเจ้าแม่หนี่วา จึงได้ให้ความช่วยเหลือโจวอู่หวัง และส่งเทพเซียนแห่งเขาคุนหลุนมาช่วยเหลือ
ภารกิจกำราบนางต้าจี๋ ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างเทพเซียนแห่งสวรรค์และมนุษย์ครั้งใหญ่ ซึ่งฝ่ายมนุษย์จะนำโดยเจียงจื่อหยา และนาจา ศิษย์เอก สงครามครั้งนี้ทำให้ทั้งสองเผ่าสูญเสียกำลังพลไปมาก
ท้ายที่สุดนางต้าจี๋ต้องหลบหนีออกจากประเทศจีนไป โจ้วหวังสูญเสียอำนาจ และปลิดชีพตนเองที่หอคอยสอยดาวในที่สุด เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์ซาง ทำให้มีการสถาปนาราชวงศ์โจวต่อมาแทน
ว่ากันว่านางต้าจี๋จิ้งจอกตนนี้หลบหนีไปยังประเทศญี่ปุ่น
ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่หลบหนีมาจากประเทศจีน เมื่อหนีมายังญี่ปุ่น ได้จำแลงแปลงกายเป็นหญิงสาวสวย ชื่อว่า ทามาโมะ โนะ มาเอะ ความสวยและเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่านางมีกลิ่นตัวที่หอมเหมือนดอกซากุระ ก็ไปถึงหูของจักรพรรดิโทบะ แห่งราชสำนักญี่ปุ่น ซึ่งตรงกลับสมัยเฮอัน
คล้ายกันกับจีน จิ้งจอกเก้าหางตัวนี้ก็ได้กลายเป็นนางสนมคนโปรดของจักพรรดิโทบะ และได้ใช้เวทย์มนต์คาถาทำให้พระองค์ลุ่มหลง ไม่เป็นอันทำอะไร สุขภาพทรุดโทรมราวกับโดนของ โดนอาคมร้ายแรง
Hokusai, Nine Tail Fox and Songoku from Hokusai Manga, 1815-1868. Woodblock Print. (Credit: https://www.roningallery.com/blog/the-tale-of-the-nine-tailed-fox-2)
ทำให้ราชสำนักได้เชิญนักพรต นามว่า อาเบะ ยาสุนาริ หรือ อาเบะ โนะ เซย์เมย์ ผู้ที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้ามาที่ราชสำนักเพื่อทำพิธี
อาเบะ โนะ เซย์เมย์ เป็นองเมียวจิที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ตามตำนานเขาผู้นี้มีเชื้อสายจิ้งจอกญี่ปุ่นด้วยครึ่งหนึ่ง เขาได้ทราบความผิดปกติของจักรพรรดิโทบะ จึงได้เดินทางมาที่ราชสำนักเพื่อทำพิธี
ระหว่างพิธีจิ้งจอกเก้าหางในร่างนางทามาโมะ เกิดอาการทุรนทุรายต่ออาคมของอาเบะ โนะ เซย์เมย์ จนท้ายที่สุดนางต้องเผยร่างจริงที่เป็นจิ้งจอกเก้าหางสีเหลืองทองออกมา แล้วก็เหมือนกับเวอร์ชั่นอินเดีย ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางบินหายลับไปในท้องฟ้า
Credit: https://archive.shine.cn/sunday/Magical-ninetail-fox/shdaily.shtml
ของญี่ปุ่นไม่จบแต่เพียงเท่านี้ กองทหารของจักรพรรดิและนักพรต องเมียวจิต้องการจะปราบปีศาจตนนี้ให้สิ้นซาก จึงไล่ตามไปจนถึงภูเขานาสุ เซย์เมย์ได้ลงอาคมไว้ที่ธนู ก่อนที่จะให้นายทหารสองคนยิงธนูเล่นงานเจ้าปีศาจ จนกระทั่งมันได้สิ้นชีพลง
Credit: https://mythology.stackexchange.com/questions/2032/what-is-the-original-story-of-fox-spirit-nine-tails-fox-in-indias-myths
ร่างของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้กลายเป็นก้อนหินสีดำ มีชื่อว่า หินเซ็ตโซเซกิ แปลเป็นไทย คือ ศิลาสังหาร เล่ากันว่าก่อนที่ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจะหมดลม นางได้แค้นและได้พ่นพิษไว้รอบๆ หวังทำลายมนุษย์ที่เข้ามาใกล้ ทำให้ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ได้ เป็นพื้นที่ต้องห้ามอยู่หลายปี
กระทั่ง นักบวชเก็นโน ได้เดินทางมาที่หินก้อนนี้ และได้พบกับวิญญาณหญิงสาวที่มาเตือนไม่ให้เข้าใกล้ และเล่าเรื่องราวก่อนจะหายเข้าไปในหิน นักบวชเก็นโนจึงได้เทศน์ให้วิญญาณปลดความแค้น และทำลายอาถรรพ์ของหินก้อนนี้ ก่อนที่จะใช้เชือกสีขาวผูกหินไว้
หินก้อนนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นาสึ จังหวัดโทชิงิ ในปัจจุบัน
หินเซ็ตโซเซกิ (Credit: https://ridgelineimages.com/sightseeing/sesshoseki-murder-stone-nasu-onsen/)
เรามาต่อกันที่ประเทศเกาหลี กับตำนานจิ้งจอกเก้าหางที่มีความแตกต่างจากที่อื่นเล็กน้อย
เรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางตนนี้ มีนามว่า กูมิโฮ เหมือนเวอร์ชั่นอื่นๆ นางสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามได้ แตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆที่ กูมิโฮ เป็นจิ้งจอกเก้าหางที่มีความเพียรและมีความปรารถนาที่จะเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงให้ได้
แต่เงื่อนไขการเป็นมนุษย์คือ กูมิโฮ ต้องกินหัวใจหรือตับของมนุษย์ เนื่องจากเป็นอวัยวะที่มีพลังมนุษย์มากที่สุด โดยต้องกินให้ครบ 100 คนก่อน ดังนั้นนางจึงใช้อาคมแปลงกายเป็นหญิงสาวสวยและหลอกล่อมนุษย์มาเพื่อการนี้
เรื่องราวผ่านไปอย่างปกติ จนกระทั่งคนที่ 100 มนุษย์ผู้ชายที่นางจะต้องกินหัวใจ กลับกลายเป็นรักแรกของกูมิโฮ นางได้ปล่อยให้คนรักมีชีวิตต่อไป โดยแลกกับการที่นางจะไม่ได้กลายเป็นมนุษย์
Credit: https://in.pinterest.com/pin/242138917448730030/
มีเรื่องราวที่ต่างออกไป บอกเล่าว่า กูมิโฮแท้จริงเป็นปีศาจ เป็นสัตว์ที่กระหายเลือดและล่ามนุษย์
สิ่งที่แตกต่างจากฮูลิจงของจีนและคิทซึเนะของญี่ปุ่น คือ กูมิโฮ จะมีหินอ่อนจิ้งจอก หรือลูกแก้ว หรือ ลูกปัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้พลังงาน และสติปัญญาแก่กูมิโฮ และสามารถดูดซับพลังงานของมนุษย์ ได้ด้วยวิธีการจูบลึก กล่าวคือกูมิโฮจะส่งลูกปัดหรือลูกแก้วนี่เข้าไปในปากของมนุษย์ แล้วค่อยเอาลิ้นของมันตวัดกลับมา
แต่ละตำนานของเกาหลีมักจะบอกว่าผู้ที่เป็นจิ้งจอกแปลงกายมา จะสามารถดูออกได้ง่ายๆ เช่น มีใบหูแหลม มีหน้าแหลมเหมือนสุนัขจิ้งจอก เป็นต้น บางตำนานก็เล่าว่าเจ้าสาวที่เป็นกูมิโฮจะถูกเปิดเผยเมื่อเสื้อผ้าถูกปลดออก ก็จะเผยหางเก้าหางออกมา
กูมิโฮ หรือ จิ้งจอกเก้าหางเวอร์ชั่นเกาหลี จะเป็นตัวดีหรือร้ายก็ได้ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติที่มันอยู่ กูมิโฮสามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นมนุษย์ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การละเว้นจากการฆ่าหรือกินเนื้อสัตว์ เป็นเวลา 1,000 วัน เป็นต้น
ตำนานสุดท้ายที่เราจะนำมาฝาก เป็นตำนานจิ้งจอกเก้าหางที่เวียดนาม
ตำนานพื้นบ้านของเวียดนามนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับปฐมกษัตริย์ของเวียดนามเมื่อสามพันปีก่อนคริสตกาล นามว่า หลาก ลอง เกวิน (Lac Long Quan) เทพมังกรทะเล และภรรยา เอิวเกอ (Au Co) เทพแห่งภูเขา ทั้งสองพบรักกันและให้กำเนิดไข่ร้อยฟอง กระทั่งไข่ได้แตกออกเป็นเด็กร้อยคน
ธรรมชาติแยกสองสามีภรรยาออกจากกัน เกวินต้องกลับทะเลไป และเอิวเกอต้องกลับภูเขา ทำให้เด็กต้องแยกกัน 50 คน อยู่บนที่สูง และอีก 50 คนตามเกวิน มาอยู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง
Credit: https://bamboovillageresortvn.com/blog/vietnamese-people-dragons-successors/
เกวินมีบทบาทในการปราบสัตว์ร้ายที่เป็นภัยต่อผู้คนในชุมชน หนึ่งในสัตว์ร้ายนั้น ชื่อว่า Ho Tinh ซึ่งเป็นจิ้งจอกเก้าหางขนาดใหญ่ ที่อาศัยอยู่ที่ถ้ำลองเบียน (Long Bien)
Ho Tinh มักจะกลายร่างเป็นหญิงสาวสวยเพื่อหลอกหล่อคนที่ผ่านไปมา ให้ตามไปที่ถ้ำ และจับกินในภายหลัง ทำให้คนในหมู่บ้านหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ครั้งหนึ่งขณะที่ Ho Tinh ได้หลอกล่อคนไปที่ถ้ำของตนเอง เกวินได้ตามไป และพยายามปราบจิ้งจอกเก้าหางตนนี้
3 วันหลังจากที่สู้กันอย่างดุเดือด Ho Tinh ได้พ่ายแพ้ และถูกเกวินฆ่าตายในที่สุด เกวินยังได้ช่วยผู้คนที่ถูกขังไว้ในถ้ำออกมาได้อีกด้วย ทำให้ หลาก ลอง เกวิน ถูกเชิดชูเป็นวีรบุรุษต่อมา
Credit: http://www.public.asu.edu/~ickpl/reading/tienrong.htm
ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง Ho Tinh มีที่มาจากตำนานของจีน ซึ่งจีนเคยปกครองเวียดนามมาก่อน จึงได้รับอิทธิพลทางความเชื่อด้วยเช่นเดียวกัน
คอนเซ็ปต์ว่าเพศหญิงมีความอันตรายไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับการสร้างตำนานหรือนิทานพื้นบ้าน ทว่าคอนเซ็ปต์เหล่านี้เมื่อเดินทางผ่านกาลเวลาก็มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
ดังเช่น ภาพลักษณ์ของฮูลิจงในชิงชิว ที่ปรากฏในซีรีส์จีนวมียใหม่ หรือ กูมิโฮในเกาหลีแปรเปลี่ยนไปค่อนข้างมากจากการสร้างซีรีส์ที่เกี่ยวกับเรื่องกูมิโฮ หลายๆเรื่องก็จะเป็นแง่มุมของกูมิโฮที่ลดความน่ากลัวลง คอนเซ็ปต์ของความรัก และการที่ให้ผู้ชายเป็นกูมิโฮด้วยเช่นกัน
เขียนและเรียบเรียงโดยทีมงานคิดก่อน ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาไปใช้ คัดลอก และดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต
References:
โฆษณา