19 มิ.ย. 2021 เวลา 23:00 • ยานยนต์
รถยนต์จักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ “ไม่มีการเปลี่ยนเกียร์” ขณะรถวิ่งจริงหรือ?? เรื่องที่คนทั่วไปเข้าใจผิดกัน
ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์เอง ในปัจจุบันนี้ได้มีการเอาระบบเกียร์ที่ไม่ต้องออกแรงใช้คลัทช์ หรือต้องมานั่งกะจังหวะเปลี่ยนเกียร์เอง นั้นก็คือ “ เกียร์อัตโนมัติ” หรือที่เรียกติดปากกันว่า “เกียร์ออโต้”
แต่คนทั่วๆไปที่ไม่ได้ต้องการจะรู้ลึกเรื่องของระบบเกียร์นั้น หลายคนกลับคิดว่ามันระบบเกียร์ที่ไม่มีการเปลี่ยนจังหวะเกียร์??
ซึ่งจริงๆแล้วมันมีการเปลี่ยนจังหวะเกียร์นั่นแหละครับ แค่เราไม่จำเป็นต้องมานั่ง
เหยียบคลัทช์เปลี่ยนเกียร์เองอยู่บ่อยๆ และหลักการทำงานของมันหละ มันเป็นแบบไหนกันนะ
เกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท ซึ่งหลักๆจะมีอยู่ 3 ประเภทครับ
1.เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT (Continuously Variable Transmission)
CVT (Continuously Variable Transmission)
หรือเรียกกันในรถจักรยานยนต์ว่าเกียร์สายพาน หลักการทำงานก็คือตามชื่อเลยครับ แปรผันต่อเนื่องตามจังหวะเกียร์ โดยที่ชุดเกียร์จะมีพลูเลย์ อยู่ 2 ตัว ตัวนึงจะเชื่อมกับเครื่องยนต์ ตัวนึงจะเชื่อมกับระบบส่งกำลัง หรือว่าเพลาขับ พลูเลย์ทั้งสองจะทำงานไปด้วยกันผ่าน ”สายพาน” นั่นเอง
ซึ่งเกียร์ชนิดนี้มักจะอยู่ในรถยนต์ราคาถูก เพราะว่าต้นทุนในการผลิตที่ต่ำ และการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ที่นุ่มนวล อาจจะไม่ถูกใจสายสิ่งเท่าไหร่นัก และที่เป็นฝันร้ายของสายซิ่งเท้าหนักๆเลยก็คือ ชุดสายพานจะสึกหรอเร็วเมื่อเจอกันแรงบิดของเครื่องยนต์ที่สูงมาก อาจจะทำให้สายพานสึกหรอหรือขาดได้
ในรถจักรยานยนต์ก็จะเป็นแบบเดียวกัน แต่ในปัจจุบันเกียร์ CVT บนรถยนต์นั้นได้มีการใส่ลูกเล่นการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองหรือที่เรียกว่า Sequential Shift ที่เป็นการเปลี่ยนเกียร์ที่คันเกียร์หรือตรง Paddle Shift บนพวงมาลัยนั้นเอง อย่างเช่นเกียร์ 7-Speed CVT-I transmission ในรถยนต์ TOYOTA หรือเกียร์ CVT 8-Speed Lineartronic ของ Subaru
แต่ถึงมันมีลูกเล่นนี้มาให้แล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกใจขาซิ่งอยู่ดี เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างบนก็คือ เกียร์ CVT มีความทนทานต่อคนที่เท้าหนักๆได้ต่ำ และการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึกทำให้เป็นเกียร์ที่สายซิ่งไม่ชอบก็เกลียดไปเลย
สายพานของ Honda Civic ขาด ที่มาภาพ : Hondata
ซึ่งในประเทศไทยรถยนต์ประเภทซีดานหรือ Eco Car ทั่วๆไปส่วนใหญ่จะใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT กันแทบทั้งสิ้น
ทำให้คนไทยหลายๆคนเข้าใจผิด ว่ารถเกียร์อัตโนมัติจะไม่มีการเปลี่ยนเกียร์นั่นเอง คล้ายๆกับเกียร์ CVT บนรถจักรยานยนต์ แต่จริงๆแล้วมันเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ของมันไปเรื่อยๆ และด้วยความที่เป็นเกียร์ CVT การปรับเปลี่ยนอัตราทดของเกียร์มันนุ่มนวลมาก ทำให้เรา แทบจะไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำว่ารถมันเปลี่ยนเกียร์ไปหลายเกียร์แล้วนั่นเอง
2.เกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter
ที่มาภาพ : Autocar
เป็นเกียร์อัตโนมัติที่มีมาอย่างยาวนานมาก เพราะมันถูกเริ่มใช้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว และยังมีการพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน เกียร์ชนิดนี้คือเกียร์ที่ใช้ระบบตัดกำลังจากเครื่องยนต์สู่ระบบเกียร์ ผ่านน้ำมันเกียร์
นั่นหมายความว่า ต่อให้รถคันนั้นมีเครื่องยนต์ที่แรงบิดมหาศาลมากแค่ไหนก็ตาม เกียร์ Torque Converter จะเป็นตัวที่รับกับแรงบิดหนักๆได้เป็นอย่างดี มันเลยสามารถนำเกียร์ชนิดนี้ไปยัดในเครื่องดีเซลได้นั่นเอง
ข้อดีก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างบนทั้งหมด และถูกใจสายซิ่งไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะรถ High-Performance Car หลายๆค่ายก็ใช้เกียร์ระบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น BMW M8 ที่มีแรงม้ามากถึง 600 แรงม้า และแรงบิดมากึง 750 นิวตันเมตร ที่ใช้เกียร์ Torque Converter 8-Speed รหัส ZF 8HP76 ที่สามารถรับแรงบิดสูงขาดนี้ได้สบายๆเลย
BMW M8 Competition ใช้เกียร์ Torque Converter 8-Speed
3.เกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ DCT (Dual Clutch Transmission)
เกียร์ DCT ของ Porsche (Porsche Doppelkupplungsgetriebe)
หลายๆคนเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะเกียร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในรถยนต์ Super Car กันทั้งสิ้น เพราะจุดเด่นของมันคือการตอบสนองที่รวดเร็วมากๆ การทำงานเลยเหมือนเกียร์ธรรมดามากๆ และมีการนำระบบไฟฟ้ามาช่วยในการทำงานของตัวคลัทช์ด้วย
ซึ่งตามชื่อเลยคือเกียร์ตัวนี้จะมีชุดคลัทช์ 2 ตัว ตัวแรกจะเป็นแค่การส่งกำลังทั่วไป อีกตัวนึงจะเป็นการทำให้เกิดการตอบสนองของเกียร์ที่ไวขึ้น สมมุติว่าเราอยู่ที่เกียร์ 2 คลัทช์ชุดแรกจะเข้าเกียร์ 2 ให้ และคลัทช์ชุดที่สองจะทำหน้าที่รออยู่ในเกียร์ถัดไป ไม่เกียร์ 1 ก็เกียร์ 3 ขึ้นอยู่กับรอบของเครื่องยนต์
ทำให้มันเปลี่ยนเกียร์ได้ไวมากนั่นเอง ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่รถ Super Car อย่างเดียวที่ให้เกียร์ DCT ยังมีรถบ้านทั่วๆไปที่ยังใช้เกียร์ชนิดนี้อีกด้วย เพราะยิ่งอัตราเปลี่ยนเกียร์ไวมันยิ่งทำให้อัตราเร่งดีนั่นเอง
เหล่า SuperCar ที่ต่างกันใช้เกียร์ DCT ที่มาภาพ : CARWOW
ซึ่งข้อดีก็ยังเหมาะกับสายซิ่งเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะครับ ปกติรถเกียร์ประเภท DCT เวลาเข้าเกียร์ D เมื่อรถอยู่ในความเร็วต่ำมากๆ จะเกิดการกระตุกเวลาเหยียบคันเร่งออกไปนั่นเอง
รถบ้านก็ใช้ DCT เหมือนกันนะ Volkswagen Jetta GLI ใช้เกียร์ DCT 7-Speed
โฆษณา