Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ความเรียงในวันที่นึกได้
•
ติดตาม
7 ส.ค. 2021 เวลา 08:03 • บันเทิง
The Big Year (2011) เมื่อการดูนกเป็นอะไรมากกว่าที่คิด
ในยุคปัจจุบัน คนเราทำงานทุกคน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
อาจเพื่อปากท้อง เพื่อชีวิต เพื่อครอบครัว...
นอกเหนือจากนี้ ทุกคนมุ่งหวังความสำเร็จในการทำงาน
ความสำเร็จรออยู่เสมอ อยู่ที่ใครจะไขว่คว้ามาได้
การมุ่งมั่นในงาน ทุ่มพลังที่มีทั้งมวลที่มีไปเพื่อการนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งหมดหรือเปล่า?
คำถามนี้พาเราไปพบกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เข้าร่วมแข่งขันดูนกประจำปีที่อเมริกา ค้นหาว่าดูไปแล้วกี่สายพันธุ์กี่ตัวเพื่อหาว่าใครจะเป็นผู้ชนะประจำปีนั้น
ดูไปก็น่าสนุก
ผมก็เคยไปดูนกตามป่าครับ
ผ่อนคลาย เป็นการพักผ่อนไปในตัวเสร็จ
แต่ในเรื่องนี้มันเป็นการแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตาย
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือสารคดีชื่อThe Big Year : A Tale of Man, Nature and Fowl Obsession เขียนโดย Mark Obmascik กำกับโดย David Frakelครับ
cr. google ใบปิดหนัง
ตัวภาพยนตร์พาเราไปพบกับผู้เข้าแข่งขัน3คน
Kenny Bostick (Owen Wilson)แชมป์ในการดูนก ทุ่มเทกำลังทั้งหมดไปกับการตระเวณดูนกไปทั่วอเมริกาและทั่วโลก
มุ่งมั่นที่จะเป็นแชมป์ รักษาความเป็นที่หนึ่ง
Stu Preissier (Steve Martin)นักดูนกสูงวัยที่มีความมุ่งมั่นไม่แพ้คนแรก เขาอยากจะเป็นแชมป์ดูนก แต่ติดด้วยวัยที่มากแล้ว
Brad Harris (Jack Black)เขาชื่นชอบดูนก ประสาทสัมผัสของเขาเหมาะกับการนี้ เขาเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตทำงานไปวันๆ จึงลองลงแข่งขันดู
cr. google ซ้ายคือBostick กลางคือStu ขวาคือBrad
ทั้งสามมีความชอบที่เหมือนกัน ความมุ่งมั่นในชัยชนะและความสำเร็จเหมือนๆกัน
youtube.com
The Big Year (2011) Movie Trailer HD
Steve Martin, Jack Black and Owen Wilson are at a crossroads -- one is experiencing a mid-life crisis, another a late-life crisis, and the third, a far from ...
การตระเวณดูนก ตามท้องเรื่องนั้นคือส่องด้วยกล้อง มองด้วยตาแล้วจดบันทึกรายละเอียดของนกที่พบ วันเวลาสถานที่เพื่อจะได้จดเป็นหลักฐานในการดูนก
ตระเวณไปเรื่อยทั่วอเมริกา
ภาพยนตร์นอกจากจะพาเราไปพบกับทั้ง3คนที่มีความมุ่งมั่นอย่างเดียวกันคือฝันที่จะเป็นแชมป์ในการดูนก
มันยังพาเราไปพบกับอีกหลายคนที่มีความมุ่งมั่นอย่างเดียวกัน
สนุกสนาน ชิงไหวชิงพริบ เจ้าเล่ห์แสนกล ทริคต่างๆถูกนำมาใช้เพื่อจัดการคู่แข่งเพื่อชัยชนะของตัวเอง
ไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่ใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้น คนที่เข้าแข่งขันต้องมีความรู้ในการดูนกแต่ละสายพันธุ์ ภูมิศาสตร์ อุตุนิยมวิทยา อะไรอีกเยอะแยะก่อนที่จะลงสนามจริง
หนังพาเรามาจนกระทั่งการแข่งขันใกล้จะสิ้นสุด
Bostickมีโอกาสสูงที่จะรักษาแชมป์ไว้ได้
Stuพลาดโอกาสที่จะไล่ตามBostickก็เพื่อครอบครัวที่เขารัก เขาฝากทุกอย่างที่เหลือไว้กับBradที่ดูแล้วน่าจะมีโอกาสมากกว่าเขา
และเมื่อทุกอย่างเข้าโค้งสุดท้าย
Bostickยังคงเป็นแชมป์ ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่อย่างBradก็ไล่ตามมาเกือบทัน
หนังแสดงถึงความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังในสิ่งที่ทำ แม้ว่าในสายตาของคนทั่วไปจะเห็นว่ามันอะไรกันนักหนากับการดูนก
แน่นอนความสำเร็จที่เข้ามาย่อมหมายถึงชื่อเสียงเงินทองที่จะมาใช้จับจ่ายในชีวิต
ชื่อเสียงและความมั่งคั่ง
นั่นคือความสำเร็จในชีวิตการงานตามสายตาของคนทั่วไป
แต่ทว่ามันต้องแลกมาด้วยอะไรในชีวิตเหมือนกัน
Bostickต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว การตระเวณดูนกกินเวลาในชีวิตมากเอาการ ครอบครัวคนรักจำต้องแยกจากร้างราทั้งที่ยังรักกันอยู่
Stuละทิ้งโอกาสที่จะเป็นแชมป์ก็เพื่อครอบครัวที่เป็นที่รัก แล้วเขาก็พบว่ามันดีกว่าการเป็นแชมป์แม้ว่าลึกๆแล้วเขายังโหยหามัน
Bradก้าวเข้ามามีชื่อเสียงในการดูนก เขาพยายามเรียนรู้ในการบาลานซ์ชีวิตกับการดูนก
เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้สนุกสุดเหวี่ยงหรือขำสุดขั้วขนาดนั้นถึงมันจะพะยี่ห้อว่าเป็นหนังตลกคอมเมดีก็ตามที
มันไม่ได้เป็นภาพยนตร์ดีเด่นจนเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่ว
ก็แค่ภาพยนตร์อีกเรื่องที่ผมได้ดูเมื่อนานมาแล้ว
แต่ว่า ความเห็นส่วนตัวนะครับ คิดว่ามันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคนมากกว่า แสดงถึงอุปสรรคที่เราต้องพบเจอไปตลอดทางและสุดท้ายว่าเพื่อรักษาความสำเร็จไว้คุณได้อะไรมาและต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง
ซีนที่ผมว่าสะเทือนใจที่สุดในเรื่องซีนหนึ่งคือตอนหลังที่Bostickรักษาแชมป์ไว้ได้แล้วกลับต้องมานั่งกินอาหารอยู่เพียงลำพังคนเดียว โดยมีบริกร2คนคอยบริการอยู่ในร้านที่ต่างแดน
Bostickนั่งคุยกับบริกรกระท่อนกระแท่นเพราะยังไม่คล่องภาษา
ทำไมเขาต้องมานั่งแบบนี้ตามลำพังล่ะในเมื่อยังมีคนที่รักคอยอยู่ที่บ้านอันอบอุ่น
นั่นเพราะความมุ่งมั่นต้องการความสำเร็จมากเสียจนต้องทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลังใช่หรือไม่
สุดท้ายแม้เป็นแชมป์ เขาก็ต้องกลับมานั่งกินข้าวคนเดียวอยู่นั่นเอง ไร้คนข้างกาย
ได้แต่มองบริกร2คนพาลูกของทั้งคู่มาให้เขาชื่นชมเมื่อเขามีโอกาสกลับไปเยี่ยมเยือนในตอนท้าย
อาจจะมีคนที่อยู่ใกล้ แต่ที่ไหนจะเหมือนคนในครอบครัวกันล่ะ
พ่อแม่ พี่น้อง คนรัก
หรือว่าลูกหลาน...
No Free Lunch...
Everything has a price to pay...
ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ
ทุกอย่าง...
จำไว้ให้ดีครับ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ดนตรี เพลง หนัง หนังสือ ดนตรี เพลง หนัง หนังสือ
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย