20 มิ.ย. 2021 เวลา 02:47 • ปรัชญา
ความคิดติดลบ➕➖✔️✖️
ในโลกยุคปัจจุบัน จะมีตำรับตำรา หลายร้อยหลายพันเล่ม ถูกเขียนออกมาจากผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่เขียนเก่งจนผันตัวมาเป็นผู้รู้ วางให้เลือกเกลื่อนตา ในชั้นวางหนังสือ ที่ถูกตกแต่ง ให้ชวนเข้าไปเลือกหยิบมาไว้ สักเล่มสองเล่ม เพื่อช่วยชี้นำหนทางของชีวิต
นอกเหนือจากนั้น ในยุคสมัยนี้ เป็นโลกของอินเตอร์เน็ต มันยังมีช่องทางที่จะเลือกหา บทความ ตำรา podcasts clip มาเป็นแนวทางความคิด แนวทางการปฏิบัติ มากมายราวดอกเห็ด จนไม่รู้ว่าอันไหนถูก อันไหนจริง อันไหนจริงกว่า เอาเสียแล้ว😊
โดยส่วนตัว จะคิดเสมอว่า หากใคร พูดดี มีสาระ และดูจะปรารถนาดี ก็อ่านดู ฟังดู ไม่เสียหายอะไร เหมือนการเพิ่มเพื่อน ให้ชีวิต ก็จะเลือกอ่าน เลือกฟัง แต่เฉพาะที่ตัวเองสนใจ
ในเนื้อหาส่วนใหญ่ ของหนังสือปรัชญาชีวิต หรือบทความต่างๆ ที่แนะนำการดำเนินชีวิต จะสอนให้คิดบวก เพื่อเพิ่มพลังงานดีให้ชีวิต โดยให้โยนการคิดลบ ลงถังขยะ และทำลายมันให้สิ้นซาก
ด้วยที่เป็นมนุษย์คิดประหลาด คิดไม่เหมือนชาวบ้าน (เป็นคำเยินยอในกลุ่มเพื่อน) ก็เลยลองมานั่งวิเคราะห์ดูว่า คิดลบมันไม่มีความดีเลยเชียวหรือ จึงถึงกับต้องขจัด และฝังกลบ มันออกไปจากชีวิตเช่นนั้น
จึงลองนำ ความคิดลบ หรือมองโลกในแง่ร้าย ใส่จานแก้ว แล้วมานั่งพินิจพิเคราะห์ หาข้อสรุป ก่อนจะฟังเสียงชาวบ้าน จนได้ข้อดี ออกมาเป็นข้อๆว่า ในความลบ ก็ยังมีประโยชน์ ควรเก็บมันไว้ ให้พอดี มันก็มีประโยชน์เช่นกัน
ประโยชน์ของความคิดในแง่ลบ มีอะไรดีบ้างใช่ไหม จะสรุปได้ตามความคิดของผู้เขียน เป็นข้อๆดังนี้
➖ เพิ่มความละเอียดรอบคอบ เมื่อจะเลือกสิ่งใดให้กับชีวิต
หากมองโลกบวก จนโลกสวย ไม่มีริ้วรอยของความชั่วร้าย คุณอาจจะตัด
สินอะไรๆก็ตาม จากอารมณ์ เพราะการคิดบวก คือการคิดแบบใช้อารมณ์ที่สั่งตัวเอง ให้เลือกเฉพาะสิ่งที่มันดีงาม จนไม่มีเวลามองจุดบกพร่องต่างๆของสิ่งที่กำลังจะตัดสินใจ แต่หากคุณคิดในแง่ร้ายสักนิดว่า ถ้า…. ถ้า…. คุณอาจจะพบข้อบกพร่องต่างๆ เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น
➖เพิ่มความยับยั้งชั่งใจ
คุณจะเห็นว่า คนที่มองโลกบวกเอามากๆ ใช่..เขาเหล่านั้นจะมีพลังเพื่อจะวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วกว่า แต่ในพลังบวกนั้น บางครั้งก็ทำให้ละเลยกับสิ่งที่ควรจะระวัง จึงเห็นว่าคนคิดบวกมากจนเข้าใกล้คำว่าสิ้นคิด จึงถูกหลอกลวง ให้เจ็บช้ำน้ำใจ ยกตัวอย่าง ของการโอนไว ในการบริจาคต่างๆ ที่เห็นกันดาษดื่นตา ในโซเชียล ที่ใช้อารมณ์คิดบวก เข้าใจว่าภาพตรงหน้าคือเรื่องจริง และแล้ว กลับกลายเป็นเรื่องหลอกลวง หากคุณคิดลบสักนิด คุณจะหยุดตัวเองได้ ไม่ยากเย็นนัก
➖ ช่วยวิเคราะห์หาหนทางแก้ไขปัญหา
ผู้เชีายวชาญการวางแผนต่างๆ ที่เจ๋งๆในโลกนี้ จะมีคำๆนี้อยู่ในแผนงานของพวกเขาบ่อยๆ “worst case scenario “ ความหมายคือ สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจต้องพบเจอ มันจะถูกบรรจุลงในแผนงานเสมอ เพื่ออะไรเหรอ เพื่อสร้างสถานการณ์ว่า หากวันนั้นมาถึง เราจะมีทางแก้อย่างไร ให้ดีที่สุดนั่นเอง แล้วคงชัดเจนในความหมายอยู่แล้ว นั่นอาศัยข้อมูลจากการคิดในแง่ลบ
➖เพิ่มความระแวดระวังภัยให้กับชีวิต
ส่วนใหญ่เท่าที่ได้อ่าน ได้พบ ได้สัมผัสมา คนรอบๆข้าง มักจะมีความสุข สม่ำเสมอ กล้าที่จะปรนเปรอชีวิต ในวันนี้กันอย่างสุดตัว ซึ่งมีเรานี่แหละ ที่ขวางโลก จึงไม่ชอบไปไหนๆกับเขา เพราะเป็นคนคิดลบ ชอบคิดเสมอว่า ถ้า tomorrow never come เราจะทำอย่างไรดี จึงวางแผนสำรองกับชีวิต ในวันพรุ่งนี้ (อาจจะมากเกินไป) ไว้อย่างดีงาม แล้วหนทางก็มาพิสูจน์ว่า มองโลกลบ ก็ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด เมื่อเห็นโควิดระบาด ฆ่าคนที่ยังมีชีวิต มากกว่าคนที่ตายแล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย หลายๆชีวิต ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้ ในเรื่องหน้าที่การงาน แถมยังมีเรื่องให้ต้องรับผิดชอบ อยู่เต็มไปหมด จนถึงทางเลือกที่ว่า เอาว๊ะ อะไรก็ได้ที่ได้เงินมา มีให้เห็นกันอยู่มากมายในขณะนี้ อย่างน้อย คนมองโลกลบ คนหนึ่ง ก็ยังแอบนั่งสบายๆ คิดร้ายต่อไปข้างหน้า อีกวันอย่างไม่เดือดร้อน เพราะวางแผนไว้ นานมาแล้ว
ยังอาจมีหลายเหตุผล ที่พอจะสนับสนุนได้ว่า คิดลบก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ คิดได้แค่นี้ 😊 และก็จริง ที่หากมัวครุ่นคิดลบตลอดเวลา ก็จะเสียเวลาความสุข ของชีวิตไป ดังนั้น ลบ กับ บวก มีความสำคัญเสมอ มิเช่นนั้นสมการลบ คงจะไม่หลงเหลือให้ใช้ อยู่ในโลกนี้แล้ว ขอเพียงแค่ ให้นำทั้งบวก และ ลบ มาใช้ในชีวิต อย่างพอดี แบบมัชฌิมาปฏิปทา ที่พระพุทธเจ้า ได้สอนไว้ หากพอดี จะไม่มีคำว่าเกินหรือขาด เอาความร้าย ผสมกับความดี เอาความแย่ ผสมกับความสำเร็จ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ชีวิตจะกลมกล่อม อร่อย และยืนยง โดยไม่ต้องคร่ำครวญ ร้องขอ ให้ใครต้องมาช่วยเหลือ
By….คนติดลบ❤️
ขอบคุณภาพประกอบสวยๆ🙏🙏
Cr. photo
โฆษณา