เกณิกา ตาปสนันทน์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย จี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยแก้ปัญหาไข่แพง อย่าปล่อยให้ปัญหานี้ซ้ำเติมคนตัวเล็กที่หาเช้ากินค่ำในสภาวะเศรษฐกิจช่วงโควิด สถานะทางการเงินก็แย่อยู่แล้ว
.
ซึ่งไข่ไก่ถือว่าเป็นเครื่องมือวัด 'กึ๋น' วัดฝีมือการบริหารประเทศของรัฐบาล ว่าจะสามารถควบคุมค่าครองชีพให้อยู่ในระดับที่ไม่กระทบกับประชาชนมากจนเกินไปได้ดีมากน้อยเพียงใด และแน่นอนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไข่ไก่ราคาแพง หากแต่ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน (63) ไข่ไก่ก็มีราคาพุ่งสูงจนเป็นที่น่าตกใจเช่นกัน เหตุเกิดจากว่ารัฐบาลบริหารจัดการระบบการนำเข้า ส่งออกไข่ไก่ผิดพลาด จนถูกประชาชนก่นด่ามาทั้งบ้านทั้งเมืองมาแล้ว
.
ส่วนการแก้ปัญหาในเวลานั้นของรัฐบาล คือ การมุ่งจับคนขายไข่ไก่รายย่อย ที่ขายเกินราคา ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางออกของปัญหา เพราะผู้ค้ารายย่อย ย่อมรับไข่ไก่มาจากรายใหญ่อีกทอดหนึ่ง การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุจากการบริหารโควตานำเข้า ส่งออกไข่ไก่ผิดพลาด จึงไม่ได้ช่วยทำให้ไข่ไก่ราคาลดลงแต่อย่างใด
.
ย้อนกลับไปอีกสมัยรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยมีการใช้งบประมาณแผ่นดินมากถึง 70 ล้านบาท ไปคิดค้นโครงการ #ไข่ชั่งกิโล ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าจะช่วยประหยัดต้นทุนไปได้ 10-15 สตางค์ แต่สุดท้ายกลับสร้างความยุ่งยาก สับสน ต่อทั้งคนซื้อและคนขาย หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่เหมาะสมกับบริบทการค้าขายของสังคมไทย จนต้องถูกพับไปในที่สุด
.
อีกเรื่องคือ ปีก่อน (63) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ออกมาตรการขอความร่วมมือให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง เพื่อเร่งนโยบายยกระดับพัฒนาระบบการเลี้ยงไก่ไข่แบบไม่ใช้กรง cage free eggs แต่ปีนี้ (64) หลังวิกฤติโควิดรัฐออกมาตรการต่างๆ ที่ให้คนอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้การบริโภคไข่ไก่สูงขึ้น ประกอบกับมาตรกรปลดแม่ไก่ยืนกรงดังกล่าว จึงเกิดปัญหาไข่ไก่ราคาสูง ไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ และขณะนี้ทราบจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ว่า ต้นทุนค่าอาหารสูงขึ้น แบกรับต้นทุนไม่ไหว จึงต้องลดกำลังการผลิตลง
.
"ไข่ไก่แพง กระทบประชาชน ถ้ารัฐบาลไม่เร่งแก้ไขให้ถูกวิธี บริหารอย่างมีวิสัยทัศน์ ประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยจะยิ่งเดือดร้อน ในสภาวะที่พวกเขาเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจอยู่แล้วในขณะนี้" รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยกล่าว