เราควรสร้างแผนงานที่แตกต่าง ให้มีลักษณะ*เฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายชัดเจนมากขึ้นตามแต่ล่ะกลุ่ม Gen X , Gen Y , Baby Boomer การนำระบบเทคโนโลยี AI/VR/AR มาใช้งาน (จะอธิบายในข้อต่อๆไปค่ะ) การปรับรูปแบบการชำระเงิน Payment การจอง Booking การวางมัดจำ Disposit การโอน Transfer ให้ลูกค้าเจ้าถึงง่ายหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเทรนด์การเงินดิจิทัลที่ในปัจจุบันสามารถนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้แล้วนั้น (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสกุลเงินที่บริษัทนั้นอนุมัติ) เป็นต้น และการพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อสนับสนุนการขายที่เอื้อต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบัน
2. Less Work But More Money
เน้นการเลือกทำงานที่เหนื่อยน้อยใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แต่ได้ค่าตอบมากกว่า เช่น การขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงมีลักษณะพิเศษเช่น บ้านหรู Smart Home ระบบEco System ประหยัดพลังงาน ติด Solar Call และเครื่องปรับอากาศบริสุทธิ์ฆ่าเชื้อโรค วัสดุพื้นปลอดภัยต่อการลื่นล้มของเด็กและผู้สูงวัย สร้าง Value ของทรัพย์ให้มากขึ้นมีคุณค่าสูงขึ้น เป็นต้น ผลลัพธ์ที่ได้ค่าตอบแทนที่สูงพร้อมเวลาให้ชีวิตเรามี “Balance of Life”
รวมถึงการปล่อยเช่าทรัพย์ ที่มีค่าเช่าราคาสูง เช่น Super Luxury House , โรงงาน , คลังสินค้า ฯ ก็จะได้ค่าตอบแทนสูงเช่นกัน ข้อนี้ต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านรวมกัน การตลาด Offline & Online ที่เข้าถึงลูกค้าผู้ตัดสินใจซื้อตัวจริง
3. Rich Man Poor Man แค๊ปชั่นนี้ คือการขายอสังหาริมทรัพย์ หลากหลายกลุ่มเป้าหมาย ตาม Gen เช่น คอนโดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม Gen x การขายบ้าน Luxury สำหรับกลุ่ม Baby Boomers การเลือกขาย/เช่า ทรัพย์ที่ราคาไม่แพง ต่ำกว่าราคาตลาด เข้าถึงประชาชนรากหญ้า แบบที่ประสบความสำเร็จในอดีตเช่น แฟลตปลาทอง หรือโครงการอยู่รวยคอนโด แม้จะเป็นกลุ่มตลาดเกรด C แต่ก็ถือเป็นกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย
5. Digital Transformation ด้วยการสร้างพัฒนาแพลตฟอร์ม เสนอขายทรัพย์ผ่าน Application Mobile Phone หรือเพื่อหาตัวแทนขายรายย่อย (affiliate marketing Platform) ซึ่งในช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมมาแรง เพื่อสนับสนุนการขายที่เอื้อต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบัน
เราจะพอคุ้นกับการใช้ระบบ AI (Artificial Intelligent) หรือ Chatbot โปรแกรมตอบอัตโนมัติผ่าน Messaging Application เสมือนการโต้ตอบคนจริง มาช่วยขาย เริ่มตั้งแต่ทักทายสอบถามข้อมูลลูกค้า เสนอขาย จอง และในปัจจุบันสามารถปิดการขายได้แล้วนั้น การนำ AI มาใช้จริงจังจึงเป็นอีกช่องทางการตลาดที่น่าสนใจเช่นกัน
การนำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) 3D Model มาใช้เป็นสื่อช่วยการขายให้ลูกค้าได้เห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งภายนอกและภายใน ทุกมุมมองได้หลายมิติ แม้จะเพียงเปิดมือถือ หรือคอมพิวเตอร์
ยกตัวอย่าง: บริษัท AP Thailand ใช้กลยุทธ์ EVERYTHING DIGITAL หนึ่งในสามยุทธศาสตร์ใหม่ล่าสุด มาพร้อม Platform Digital ที่ช่วยการขาย One Click - New Home พร้อมระบบปุ่ม VR (Virtual Reality) ภาพเสมือนจริงแบบ 360 องศา ที่ช่วยที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกบ้าน ทำที่สนใจตัดสินใจซื้อได้ง่ายๆ ตามคอนเซ็ปท์ “เรื่องบ้าน เรื่องง่าย” กับ Smart World Platform 4.0 คราวหน้าจะมายกตัวอย่างของบริษัทอื่นๆเพิ่มเติมนะคะ