2 ก.ค. 2021 เวลา 06:42 • ท่องเที่ยว
วัดปริวาส
ก้าวสู่ยุคของพุทธศิลป์แฟนตาซี
#เรื่องเล่าจากคลังภาพ #ลัดเลาะ #สาระเร็ว #วัดปริวาส
เวลาไปวัด นอกจากจะไปปฏิบัติศาสนกิจหรือทำบุญถวายสังฆทานแล้ว การได้ชื่นชมความงดงามของตัวพระอารามและพระพุทธรูป ก็เป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้
อีกทั้งความละเอียดละออของพุทธศิลป์ของแต่ละวัดในบ้านเรา ก็มีความงดงามอ่อนช้อยแตกต่างกันไปตามยุคสมัย
จะเป็นยุคทวาราวดีก็ดูบึกบึนน่าเกรงขาม ยุคสุโขทัยก็จะอ่อนช้อยพริ้วไหวเปี่ยมศรัทธา อยุธยาก็ดูงดงามวิจิตรตระการตาบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรือง
จนมาถึงปัจจุบันความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ที่ถูกแสดงออกมาทางงานศิลปะ เริ่มมีการพัฒนาก้าวสู่อีกหนึ่งยุคสมัย
และความหลากหลายในการสรรสร้างผลงาน ตามแต่จินตนาการของทั้งประติมากรหรือจิตรกร
เห็นได้ชัดเจนจากวัดชื่อดังอย่างวัดร่องขุ่น ซึ่งมีศิลปะลายเส้นงดงามละเอียดปราณีตเหนือจินตนาการ จนกลายเป็นต้นแบบแห่งการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์ยุคใหม่ให้อีกหลาย ๆ วัดทั่วไทย
ผมได้มีโอกาสมาเยือนวัดหนึ่งย่านพระรามสาม เนื่องจาก feed บน facebook ของรุ่นพี่เด้งขึ้นมา ปรากฏเป็นรูปภาพของประติมากรรมปูนปั้น ที่มีความวิจิตรพิสดารแปลกตา แล้วแกเขียน caption ว่า วัดปริวาส ผมจึงได้เกิดความสนใจให้ได้ลองไปเยี่ยมชมดูสักครั้ง
20 มิถุนายน 2021 ผมกับภรรยามาทำธุระใกล้ ๆ ย่านนี้ จึงได้แวะเวียนไปยังวัดปริวาส เพื่อถือโอกาสไหว้พระทำบุญไปในตัว
วัดปริวาส 20 มิถุนายน 2021
วัดนี้อยู่ติดถนนพระรามสามเลียบแม่น้ำ พอขับรถเข้าไปภายในตัววัดก็ดูกว้างขวาง แต่ก็เรียบง่ายดูเหมือนวัดอื่น ๆ
แต่เมื่อจอดรถแล้วเดินชมเพื่อจะเข้าสู่เขตกำแพงชั้นใน ก็เริ่มเห็นความแตกต่าง
ที่หัวบันไดทางเข้าก็จะเจอกับรูปปั้นสัตว์ ทั้งฝั่งซ้ายขวามีลักษณะเป็นมนุษย์ที่มีหัวเป็นเสือและมังกรแถมมีปีก ยืนถืออาวุธคู่กายคล้ายจะคอยคุ้มครองพระพุทธศาสนา และหลังจากพ้นประตูไปก็เหมือนได้เปิดเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง
ภายในวัดปริวาส
ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้จะอยู่ที่ประติมากรรม ที่ประดับตกแต่งอยู่โดยรอบทั้งภายในและภายนอกของตัวพระอุโบสถ
ซึ่งภายในจะมีองค์พระประธาน คือพระพุทธสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะสุโขทัยสีทองสุกเหลืองอร่าม และตัวโถงจะมีการบอกเล่าเรื่องราวของนิทานชาดกให้ได้ชี้นิ้วเดากันไปว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหน
และถ้าสังเกตุให้ดีที่ระหว่างช่องหน้าต่างจะมีรูปปั้นบุคคลสำคัญของโลก ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาประดับอยู่ให้พอได้สงสัยว่า จะเกี่ยวข้องกันในแง่ไหน
ยกตัวอย่างเช่น คุณ Albert Einstein ที่ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับความเป็นพุทธ แต่พอสืบค้นเข้าไปก็รู้ว่า เขาเคยกล่าวไว้ว่าคำสอนของพระพุทธเจ้ามีความเป็นเหตุเป็นผลและเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด
ถายในพระอุโบสถวัดปริวาส
พอออกมาภายนอกเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย คือโดยรอบของตัวพระอุโบสถ จะมีประติมากรรมบอกเรื่องราวการเสวยพระชาติของพระพุทธองค์ ก่อนหน้าที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
และมีบริวารแวดล้อม หน้าตาคุ้นเคยจากทั่วทุกมุมโลก คอยทำหน้าที่ประคับประคองพระอุโบสถ คล้ายกับการช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนา
ไม่ว่าจะเป็นสายอนิเมะ สายคอมมิก สายวรรณคดี สายการเมือง ฯลฯ มาให้เราได้เพลิดเพลินกับการค้นหาว่ามีตัวอะไรที่เรารู้จัก ซ่อนอยู่ตรงจุดไหนกันบ้าง
ตัวละครต่างที่ซ่อนไว้รอบพระอุโบสถ
หมายเหตุนิดนึงครับ ถ้ามากลางวันพกร่มมาหน่อยก็ดี ตรงนี้แดดแรงมากและไม่มีร่มเงาเดี่ยวมัวแต่ดูเพลินกันไป พอรู้ตัวอีกทีต้องไปฟื้นฟูผิวกันยกใหญ่
พอเดินสำรวจรอบ ๆ ก็ยิ่งเกิดความน่าสนใจในตัวงานศิลป์ของที่นี่ ไม่ว่าจะลวดลายหรือรูปแบบดูมีความร่วมสมัยอย่างชัดเจนมาก
อย่างที่ผมเกริ่นไว้ในหัวเรื่อง คำว่าพุทธศิลป์แฟนตาซี ดูจะเหมาะกับสถานที่แห่งนี้ เพราะแทบทุกส่วนทุกมุมล้วนเป็นสิ่งที่ถูกตีความใหม่ คล้ายกับหลุดออกมาจากโลกภาพยนตร์ แต่ก็แฝงไปด้วยหลักการและที่มาของชิ้นงาน
งานศิลปะโดยรอบพระอุโบสถ
พอยุคสมัยเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนตาม การมองเห็นรูปแบบของวัดวาอารามที่เปลี่ยนไป พร้อม ๆ ฉากหลังที่แสดงให้เห็นการเติบโตของเมือง
ยิ่งตอกย้ำให้เห็นความจริงของแก่นแท้แห่งคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่ว่าด้วยเรื่องของความไม่แน่นอนของทุกสรรพสิ่ง
การอยู่กับปัจจุบันและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและสถานการณ์ และยอมรับความเป็นไปของโลก ก็ย่อมน่าจะดีกว่าการยึดติดสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพราะคงไม่มีอะไรจะคงอยู่ไปตลอดกาล
สำหรับท่านที่สนใจ การเดินทางมาเยี่ยมชมความงามของพระอุโบสถวัดปริวาส ก็สามารถขับรถส่วนตัวมาที่ ถนนพระราม 3 เส้นเลียบแม่น้ำ หรือถ้ามารถโดยสารก็จาก BTS ช่องนนทรี แล้วนั่งรถเมล์ BRT ต่อมายังสถานีวัดปริวาส ได้เลยครับหาไม่ยาก
เขียน โดย โจน ทะยาน ตะลุย
โฆษณา