22 มิ.ย. 2021 เวลา 11:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วางแผนเล่นหุ้น เปลี่ยนเงิน “หลักหมื่น” เป็น “หลักล้าน”
บทความนี้เขียนจากประสบการณ์การลงทุนในหุ้นของผม มีการลองผิดลองถูกจนตกตะกอน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นกรณีศึกษาครับ
ตั้งแต่เริ่มลงทุน จนถึงตอนนี้นับเป็นเวลา 8 ปี ผมเริ่มต้นลงทุน ก่อนจะมีรายได้จากการทำงานประจำ ด้วยเงิน 20,000 เมื่อมีรายได้จากงานประจำ ผมก็ออมเงินในหุ้นเรื่อยๆ รวมผลตอบแทนที่ได้จากหุ้น จนตอนนี้พอร์ต เป็น หลักล้าน
การวางแผนการลงทุนที่ว่า เปลี่ยนเงิน “หลักหมื่น” เป็น “หลักล้าน” เป็นอย่างไรมาอ่านกันได้เลยครับ
1
1. เก็บเงินก่อนใช้ และนำมาลงทุนเรื่อยๆ เพื่อปั้นพอร์ตของเราให้โตขึ้น
เมื่อเราได้รับเงินเดือนจากงานประจำ ให้ "ออมเงินไว้ก่อนแล้วค่อยใช้"
เช่น เมื่อได้เงินเดือนจากงานประจำ 30,000 เราอาจจะเก็บก่อนซัก 3,000 (หรือ 10% ของเงินเดือน ) แล้วค่อยนำเงินที่เหลือไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ
1
ผมแนะนำให้ตั้งการโอนเงินอัตโนมัติทุกเดือนหลังเงินเดือนออก ตัดจากบัญชีที่เงินเดือนเข้าไปอีกบัญชีหนึ่ง เพื่อความสะดวกและกันลืมครับ
2
ตัวอย่างวิธีโอนเงินล่วงหน้าทุกเดือนจากแอพ K plus
วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้เรามีเงินออม หรือเงินลงทุนเพิ่มแล้ว ยังทำให้เราเป็นคนประหยัด มีความรอบคอบในการใช้เงิน ไม่ใช้จ่ายตามความต้องการของตนเองมากเกินไป และที่สำคัญทำให้เรามีเงินเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น ในยุคนี้ที่หาเงินได้ยากด้วยครับ
2
2. ลงทุนในความรู้ และเวลา
1
ประโยคที่บอกว่า “ความรู้เป็นพื้นฐานของการลงทุนทั้งหมดนั้นก็คงไม่ผิด”
1
ถ้าเราไม่มีความรู้แล้วกระโจนเข้าไปในตลาดหุ้น ก็เหมือนกับนำเงินไปทิ้งเปล่า ไม่ต่างอะไรกับ การเสี่ยงโชค หรือการลุ้นรางวัลจากล็อตเตอรี่หรือหวย ซึ่งผมถือว่าไม่ใช่การลงทุน
การลงทุนในเวลาก็เช่นกัน บางคนมักบ่นว่าไม่มีวลา แต่ทุกคนมีเวลา 24 ชม. ต่อวัน เท่ากัน
3
เราไม่สามารถเพิ่มให้เป็น 30 ชม. ต่อวันได้ แต่สามารถ “ลดเวลาที่ไม่จำเป็นในแต่ละวันได้” และนำเวลาตรงนี้มาศึกษา และสั่งสมความรู้เรื่องการลงทุน
“เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า จึงควรใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด”
ฉะนั้นการเรียนรู้ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว และควรจะมาก่อนการลงสนามจริงเสมอ
1
ทุกวันนี้เราสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้ง่ายๆ เช่น ถ้าเราไม่ค่อยมีเวลา ก็ลงเรียนคอร์สออนไลน์ หรือถ้ามีเวลาก็ซื้อหนังสือหุ้นดีๆ ปกติจะไม่เกินเล่มละ 500 บาท
แต่ถ้าหากไม่มีเงิน เราก็ยังสามารถเรียนรู้ผ่าน Youtube ยิ่งสมัยนี้มีนักลงทุนที่เก่งๆ มาสอนเยอะแยะเลย
หรือจะเรียนรู้จากเว็บไซต์ หรือเพจ สอนเล่นหุ้นต่างๆ เช่น ห้องเรียนนักลงทุน ในเว็บ SET https://www.set.or.th/set/education/home.do?language=th&country=TH
หรือเพจต่างๆ ใน Blockdit นี้เองก็เช่นกัน
ตัวอย่าง เพจใน Blockdit
- https://www.blockdit.com/aumer เพจผมเอง
- https://www.blockdit.com/stockforlife เพจ stockforlife
- https://www.blockdit.com/pr_berd เพจหุ้นพอร์ทระเบิด
- https://www.blockdit.com/wealthinvestmentclinic เพจคลินิกการลงทุน
- https://www.blockdit.com/stockjournoey เพจ Stock Journoey
2
3. ลงทุนแบบ VI
“VI”ย่อมาจาก Value Investor หรือนักลงทุนเน้นคุณค่า จากสถิติ และตัวอย่างบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนด้วยวิธีนี้ อาจจะพูดได้ว่าเป็นวิธีที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด
ซึ่งเป็นแนวทางของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือแม้กระทั่งนักลงทุนบ้านเราเองอย่าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โดยแก่นสำคัญของแนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือ นักลงทุนจะมองหุ้นที่ตนลงทุน เสมือนว่า "ตนเป็นเจ้าของในธุรกิจนั้นๆ โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี"
15
หากเพื่อนๆ อยากศึกษาการลงทุนแบบ VI ลองติดตามอ่านบทความ หรืออ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หรือหนังสือของ วอร์เรน บัฟเฟตต์
Cr.: naiin
หรือสามารถติดตามอ่านในเพจของผม ซีรี่ย์นี้ https://www.blockdit.com/series/5ef316b83d586a0cc80c097a
โดยความรู้ที่นำมาเขียนจะนำมาจากหนังสือ หรือคำสอนของนักลงทุน VI ชื่อดังทั้งนั้นครับ
สุดท้ายแล้วบทเส้นทางของ VI แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จ แต่เป็นเส้นทางที่ผมคิดว่าคุ้มค่ามากๆ ที่จะลองศึกษาดู ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนแบบไหนก็ตามครับ
จบแล้วครับช่วยกด 👍 ❤️ ติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนบทความต่อไปด้วยนะครับ🥰
อ้างอิง
โฆษณา