A Quiet Place Part II (2021) – ดินแดนไร้เสียงสอง
เป็นเวลาร่วมสองเดือนที่ชีวิตไม่ได้เข้าไปสัมผัสโรงภาพยนตร์เลย หลังภาวะล็อกดาวน์ ทำให้สถานบันเทิงหลายประเภทต่างตกอยู่ภายใต้ความเงียบงัน วิถีชีวิตที่เคยปกติต่างต้องเอาชีวิตรอดท่ามกลางความลำบากของภาวะวิกฤตที่หวนกลับไปเล่นงานคนทั่ว ๆ ไปอีกครั้ง กระนั้นเอง หลังหนังใหม่ห่างเหินไปอย่างยาวนาน หลังความสำเร็จของภาคแรกแบบอึกทึกครึกโครมส่วนทางคอนเซปต์หนัง ภาคต่อที่มีคนรอคอยและถูกเลื่อนฉายมาอย่างยาวนาน A Quiet Place Part II ก็ได้ฤกษ์มาฉายในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
A Quiet Place Part II สานต่อเรื่องราวหลังจากภาคแรกจบลง หลังครอบครัวแอ็บบ็อตต์สามารถเอาชีวิตรอดจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเอเลี่ยนไวเสียงได้ เอเวอลีน, เรแกน, มาร์คัส รวมถึงลูกน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่ จึงต้องลาจากบ้านไร่และเดินออกไปสู่ดินแดนไร้เสียงอันกว้างใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้รอดชีวิตคนอื่น
ขณะที่ภาคแรกตัวหนังมาพร้อมกับบรรยากาศที่แสนเงียบงันและบทสนทนาเพียงน้อยนิด อาศัยการใช้ภาษามือและอวัจนภาษาทางภาพกับท่าทางของตัวละครในการดำเนินเรื่อง มาภาคนี้ตัวหนังเปิดโอกาสให้เราได้ยินวิถีชีวิตของมนุษย์มากขึ้นตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง มีฉากพูดคุยปกติมากขึ้น แต่ยังคงบรรยากาศแห่งความอึมครึมเช่นภาคแรกกับเหล่าตัวละครชุดเดิมและตัวละครใหม่อย่างเอ็มเม็ตต์ที่จะพาพวกเขาเผชิญไปสู่โลกที่กว้างมากขึ้น
ด้วยความที่ทุนสร้างภาคนี้มากขึ้นและภาคแรกสร้างความพึงพอใจไว้ได้สูง ทำให้เกิดความคาดหวังที่ค่อนข้างมาก และตัวหนังก็ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี ด้วยการขยายโลกและเรื่องราวที่ทำให้เราเห็นดินแดนไร้เสียงที่กว้างใหญ่มากขึ้น โดยที่หนังไม่ทะเยอทะยานจนเกินตัวและยังสามารถเล่าเรื่องกับสร้างความระทึกขวัญได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจังหวะการกำกับที่เล่นกับทั้งภาพและเสียงก็คงชาญฉลาดเช่นเดิม อีกทั้งตัวหนังยังหาญกล้าสร้างแรงบันดาลใจผ่านการลำดับและเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจอย่างมาก
แม้ว่าตัวหนังจะขาดความท้าทายด้วยการเผยจุดอ่อนของเอเลี่ยนไวเสียง ซึ่งกลายเป็นจุดด้อยที่ทำให้เรารู้สึกไม่ลุ้นระทึกมากแบบภาคแรก อีกทั้งการที่ตัวหนังขยายเส้นเรื่องให้เราได้เห็นโลกของหนังที่มากขึ้น ทำให้หนังต้องใช้ความสามารถในการดึงความสนใจคนดูด้วยเรื่องราวที่น่าติดตาม ซึ่งการกำกับจังหวะของ จอห์น คราซินสกี้ ก็ทำได้อย่างน่าชื่นชมที่ดุลอารมณ์ร่วมและสร้างความระทึกขวัญได้อย่างพอเหมาะ และพิสูจน์ว่า ความสำเร็จในการกำกับภาคแรกของเขามาสู่การกำกับและเขียนบทในภาคต่อนี้ ไม่ใช่โชคช่วย
สรุปแล้ว A Quiet Place Part II คือการสานต่อภาคแรกที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการขยายเส้นเรื่องของโลกและเรื่องราวที่ได้ผลและไม่ทะเยอทะยานจนเกินตัว การกำกับจังหวะที่ดุลอารมณ์ร่วมและความระทึกขวัญผ่านงานภาพและเสียงได้อยู่หมัด เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจเฉกเช่นภาคแรก รวมถึงทีมนักแสดงที่ทำหน้าที่ได้น่าประทับใจ เป็นหนังที่ควรค่าแก่การกลับมาดูในโรงภาพยนตร์มาก ๆ
4 / 5
A Quiet Place Part II (2021)
Written & Directed by John Krasinski
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
