24 มิ.ย. 2021 เวลา 01:31 • การเกษตร
แต่งกิ่งมะม่วงอย่างไร ให้ติดผลโด้ก ดก
ประโยชน์ของการตัดแต่งกิ่ง
มะม่วง
1).ง่ายต่อการบริหารจัดการ เช่น ฉีดพ่นสาร
ป้องกันกำจัดศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว
2).ช่วยให้แสงกระจายส่องถึงทั่วทรงพุ่ม ช่วยให้มะม่วงติดดอก ออกผลได้ดีขึ้น
3).ป้องกันการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช
4).ทรงพุ่มสวยงาม แข็งแรงไม่หักล้มง่าย
ผมขอแบ่งการแต่งกิ่งมะม่วงออกเป็น 2 กรณี
ดังนี้ ครับ
1).กรณีแต่งกิ่งมะม่วงโดยใช้เมล็ด
ในการเพาะปลูก
มีวิธีปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้ครับ
1).มะม่วงอายุ 1 ถึง 2 ปี
ดูแลต้นมะม่วงให้สมบูรณ์ แข็งแรง เน้นให้ตั้งตรงสูงขึ้นในแนวดิ่ง
ตัดแต่งกิ่งด้านข้างทิ้ง เพราะจะไปแย่งน้ำ
แย่งอาหารกิ่งหลัก
2).เมื่อมะม่วงโตได้ที่ อายุราว 2 ถึง 3 ปี
หรือดูจากความสมบูรณ์ของลำต้นเป็นเกณฑ์
ให้ตัดยอดทิ้งสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร
ถ้าสูงกว่านี้การบริหารจัดการจะยุ่งยาก
ให้เลือกตัดตรงบริเณข้อต่อของลำต้นที่มีตุ่มตา
สีเขียวอ่อนที่พร้อมจะแตกกิ่งก้านสาขา
ทาแผลด้วยปูนแดง หรือฉีดพ่นสารเมทาแล็กซิน
ป้องกันเชื้อรา
3).จากนั้น 2 ถึง 3 อาทิตย์กิ่งจะแตกใบอ่อน
ออกมา
ให้เลือกเอากิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดไว้ 3 ถึง 5 กิ่ง
กิ่งไหน ไม่สมบูรณ์ อ่อนแอ มีโรคหรือมีแมลงกัดแทะให้ทยอยตัดทิ้ง
4).ฉีดพ่นด้วย สารไซเปอร์เมททริน
เพื่อป้องกันแมลง เช่น ด้วงตัดใบ แมงนูน
แมลงช้าง
5).ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15 15 15 ,25 7 7,20 10 10
0.5.ถึง 2 กิโลกรัมต่อต้น รอบทรงพุ่ม
ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 5 ถึง 20 กิโลกรัม ต่อต้นรอบทรงพุ่ม
ใส่ปุ๋ยอีกครั้งเมื่อมะม่วงแตกใบชุดที่สอง,
กรมวิชาการเกษตร
6).ให้น้ำสม่ำเสมอ
โดยเปรียบเทียบกับมะม่วงต้นที่มีขนาดทรงพุ่ม
3 เมตร ให้น้ำอย่างน้อย 22.5 ลิตร ต่อต้น
ต่อครั้ง,กรมวิชาการเกษตร
2).กรณีแต่งกิ่งมะม่วงโดยใช้กิ่งทาบ หรือกิ่งตอน
ในการเพาะปลูก
มะม่วงต้นที่เราไว้ผล หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว
ให้ดำเนินการดังนี้
1).การตัดแต่งกิ่งะม่วงโดยมากจะเป็นปีที่ 2
หรือปีที่ 3
ตัดแต่งให้สูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า
50 เซนติเมตร
หลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เลือกไว้เฉพาะกิ่งก้านที่มีความสมบูรณ์ แข็งแรง
โดยเลือกกิ่งก้านที่สีเขียวเข้ม
กิ่งซ้อน กิ่งคด งอ อ่อนแอ เป็นโรคหรือมีแมลงกัดแทะแนะนำให้ตัดทิ้ง
กิ่งที่จะตัดแต่งต้องปรากฎรอยข้อต่อให้เห็นชัดเจน
สังเกตต้องมีอย่างน้อย 1 ถึง 3 ข้อ ให้ทำการ
ตัดบริเวณปลายข้อทิ้ง
2).ตัดแต่งทรงพุ่มอย่าให้สูงเกิน 3 เมตร
สูงมากกว่านี้ก็ไก้แต่การจัดการยาก
3).ตัดกิ่งกระโดงหรือกิ่งที่ขึ้้นตรงเพื่อเปิด
ให้แสงส่องได้ทั่วทรงพุ่ม
ทาแผลด้วยปูนแดง หรือฉีดพ่นสารเมทาแล็กซิน
ป้องกันเชื้อรา
4).จากนั้น 2 ถึง 3 อาทิตย์กิ่งใหม่จะเริ่มงอก
และแตกใบอ่อน
กิ่งซ้อน กิ่งที่คด งอ อ่อนแอ เป็นโรคหรือมีแมลงกัดแทะให้ตัดทิ้ง
ฉีดพ่นด้วย สารป้องกันกำจัดแมลง เช่น
ไซเปอร์เมททริน ป้องกัน ด้วงตัดใบ แมงนูน
แมลงช้าง
5).ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 15 15 15 ,25 7 7,20 10 10
0.5.ถึง 2 กิโลกรัมต่อต้น รอบทรงพุ่ม
ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 5 ถึง 20 กิโลกรัม ต่อต้นรอบ
ทรงพุ่ม
ใส่ปุ๋ยอีกครั้งเมื่อมะม่วงแตกใบชุดที่สอง,
กรมวิชาการเกษตร
6).ถ้าต้องการให้ใบออกพร้อมๆ กัน แนะนำให้ใช้ไทโอยูเรีย 0.5% 100 กรัมต่อน้ำ20 ลิตร ฉีดพ่น
7).ให้น้ำสม่ำเสมอ
โดยเปรียบเทียบกับมะม่วงที่มีขนาดทรงพุ่ม 3 เมตร ให้น้ำอย่างน้อย 22.5 ลิตร ต่อต้น ต่อครั้ง,
กรมวิชาการเกษตร
เชื่อว่าถ้าทำได้ดังที่ผมกล่าวมานี้ กิ่งมะม่วง
ในสวนของท่านต้อง สวยงาม สมบูรณ์แข็งแรง
พร้อมผลิดอก ออกผล ให้เราได้กิน
อย่างแน่นอนครับ
แหล่งข้อมูล
Kaset Go
เกษตรเอส กรีนอาโกร
'สาระดีดีทางการเกษตร
เราจะนำมาอัปเดทให้คุณ'
หากชอบก็ช่วยกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานด้วยนะครับ
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา