เมื่อใช้งานไป CAT จะมีการสะสมสิ่งตกค้างอยู่บนผิวรังผึ้งเซรามิกที่เคลือบสารเร่งปฎิกิริยาไว้ สิ่งตกค้างเหล่านี้เองจะทำให้การทำงานของ CAT เกิดความผิดปกติขึ้น เราสามารถสังเกตพบได้จากสัญญาณไฟเตือนโชว์ขึ้นมาที่หน้าปัดรถ อาจเป็นรูปเครื่องยนต์หรือรูป CAT ก็ได้ครับ ผมขอสรุปนะครับว่าสัญญาณไฟ CAT จะโชว์ขึ้นมาจากสาเหตต่อไปนี้ครับ
1. เครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินไปจนเกิดการหลอมละลายหรือชำรุดแตกหัก ต่อไปนี้คือสาเหตที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด(อุณหภูมิที่สูงกว่า 1600°F หรือ 871oC อาจทำให้ตัวเร่งปฏิกิริยา Pt, Pd, Rh เสียหาย โดยไม่มีร่องรอยของการหลอมละลายที่มองเห็นได้)
• ความผิดพลาดในการจุดระเบิดหรือจุดระเบิดผิดจังหวะ(Misfires)
• กำลังอัดต่ำเกินไป(Low compression)
• ประกายไฟไม่ดีหรือไม่มีประกายไฟ(Poor spark or no spark)
• ความไม่สมดุลของส่วนผสมในแต่ละสูบ(AFR cylinder imbalance)
• เครื่องยนต์ทำงานหนักหรือรถบรรทุกมากเกินไป
• ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผิดปกติหรือคุณภาพเชื้อเพลิงต่ำมาก
• เซ็นเซอร์ O2 เสื่อมสภาพทำให้ ECU จ่ายน้ำมันไม่เหมาะสม
• แรงดันย้อนกลับมากเกินไป(Excessive backpressure)กรณีมีการโมเครื่องแล้วเกิดระเบิดในท่อร่วมไอเสียเกิดแรงดันย้อนกลับรุนแรง เครื่องยนต์จะร้อนจัด
• สารเร่งปฎิกิริยา(Pt, Pd, Rh)ที่เคลือบผิวรังผึ้งถูกปกคลุมด้วยสารอื่นได้แก่
1. การสะสมของคาร์บอนมากเกินไปจากไอเสียมีเขม่าเยอะนั่นเอง
2. การรั่วไหลของน้ำหล่อเย็นเข้ามาภายในห้องเผาไหม้(ปะเก็นฝาสูบหรือท่อร่วมไอดีรั่ว)
3. การใช้วัสดุซีลปะเก็น(Gasket sealants)ที่ไม่ปลอดภัยต่อตัว CAT
4. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่องมากเกินไป(Burning oil)ทำให้ฟอสฟอรัสถูกเผาไปตกค้างและเคลือบที่รังผึ้ง
5. การใช้เชื้อเพลิงที่ไม่เหมาะสมเช่นเมื่อใช้ E85 เครื่องยนต์จะต้องการปริมาณเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นประมาณ 34% (ต้องการส่วนผสมหนา 9.8:1) องศาการจุดระเบิดก็จะแก่มากขึ้นเพราะน้ำมัน E85 มีค่าออกเทนสูงกว่าเบนซินทั่วไปทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนสูงขึ้นด้วยครับ