ปากกา-ปากไก่ อะไรกันแน่ ที่ใช้เขียน
อุปกรณ์ เครื่องเขียนรุ่นแรกๆ
ประมาณใน ศตวรรษ ที่ 5. นิยมนำขนนก ขนไก่ ขนเป็ด แล้วแต่จะการมาจุ่มหมึก เอาไว้ขีดเขียนได้
โดยตัดปลายแข็งๆของขน ให้มีปลายแหลมๆจุ่มน้ำหมึก เอาไว่เขียนตัวอักษร หรือ วาดภาพ
ยุคแรกๆในประเทศไทย เราเรียกว่า
" ปากไก่ " เนื่องจากรูปทรง ปลายๆคล้ายปากไก่ ต่อมา รูปโฉม เจ้าขนนกเหล่านี้เปลี่ยนไป มีการคัดเลือกเอาโคน ขนให้ใหญ่ๆ อุ้มน้ำหมึกได้เยอะๆ มีลักษณ์ คล้ายปากอีกา 555 นั่นแหละเป็นที่มาของคำว่า " ปากกา "
เริ่มเปลี่ยนเป็น โลหะ แข็งแรงขึ้น
ต่อมาการพัฒนายังไม่สิ้นสุด
ที่ประเทศ อังกฤษ ราวยุค ศตวรรษที่ 15 มีการผลิตอุปกรณ์ การเขียนเป็นโลหะ ขึ้นครั้งแรก. มีรอยผ่าร่องตรงกลาง ทำให้เขียนหนังสือได้นานขึ้น
ค้นคิด เป็นเรื่อง เป็นราว กันใหญ่
ในช่วง ค.ศ.1900 เจ้าปากกาหมึก. แบบจุ่มหมึก ถูกพัฒนามาเป็นหมึกซึม
จนแล้วจนรอด ยังไม่สิ้นสุดในการค้นคิด อุปกรณ์ ขีดเขียน. ศิลปิน ชาว ฮั้งกาเรี่ยน ชื่อ นาย ไปโร คิดการทำปากกาลูกลื่นขึ้นมา เป็นครั้งแรกของโลก เอาไปจดสิทธิบัตร ค.ศ.1938. โดยมีพี่ชาย เป็นนักเคมี ช่วยกันผลิตหมึกแห้ง ในปากกาลูกลื่น ใช้ดีมาก
แต่ เก่ง. แล้วต้อง เฮง ด้วย ปรากฏโชคไม่เข้าข้างซะแล้ว ( น่าเศร้า นะเนี่ย )มีสงครามโลกเกิดขึ้นพอดี. ต้องหนี พวก นาซี เรร่อนไปทั่ว ตั้งแต่ ฝรั่งเศส , สเปน, จนถึง อาร์เจนติน่า กรุงบัวโนส
ซึ่ง นาย ไปโร เนี่ยขายปากกาลูกลื่น ได้เงินเพียงไม่กี่เหรียญ ทำให้ตัดสินใจ ขายลิขสิทธิ์ ให้กับบริษัทนึง
เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ทำให้โลก ตะลึ่ง คือ ปากกา ยี่ห้อ BIC. นั่นเอง 555. บริษัทเกิดความเฮงขึ้นมา จากขายปากกาไปได้ไม่กี่เหรียญ แต่ ปากกา BIC ตำหน่ายได้วันละ 10 บ้านด้าม ต่อวัน อ่านไม่ผิดหลอกจ้า 555 ขาย 10 ล้านเล่ม ต่อวันเลย ในปี ค.ศ.1950-1980
เก่ง ต้องคู่กับ เฮง สุดท้าย ปากกาลูกลื่น ยี่ห้อ BIC. ตีตลาดแตกเลยจ้า
สุดเฮง ส้มหล่น จริงๆ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
