23 มิ.ย. 2021 เวลา 14:46 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ใครที่กำลังหาซีรีย์หรือหนังวายดราม่าน้ำตาซึมดูอยู่6เรื่องนี้เลยจ้าาา ได้รับการรับการันตีว่าน้ำตาไหลถึงเท้าแน่นอนนน
เรื่องที่1แปลรักฉันด้วยใจเธอ (I told sunset about you)
เป็นซีรีย์ที่ขึ้นชื่อว่ายกระดับซีรีย์วายอีก1เรื่องเป็นเรื่องราวของโอ้เอ๋ว ( พีพี กฤษฏ์ ) และ เต๋ ( บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ) ตอนที่ยังเป็นเด็กทั้งสองคนสนิทกันมาก ๆ เต๋ที่มีความฝันอยากเป็นพระเอก วันหนึ่งครูได้เลือกให้โอ้เอ๋วไปแสดงละคร เต๋ก็ยินดีด้วย แต่กลับมารู้ทีหลังว่าโอ้เอ๋วชอบในการแสดง และดีใจที่ครูเลือกให้แสดง ทำให้เต๋ผิดหวังกับความยินดีที่ให้โอ้เอ๋วไป หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย แล้วเรื่องนี้จะเป็นซีรีส์วายได้ยังไง ทั้งสองคนจะมาคืนดีกันหรือไม่ ความรักจะเกิดขึ้นตอนไหน และความรักครั้งนี้จะสมหวังหรือไม่มี2part
เรื่องที่2 ทฤษฏีจีบเธอ
เป็นซีรีย์ที่น้ำตานองเกือบทั้งเรื่องจริงๆกับทฤษฎีจีบเธอที่เป็นเรื่องราวของ ของคนแอบรักที่ไม่อาจจะทดแทนตัวจริงได้ คนแอบรักอย่าง เติร์ด ( กัน อรรถพันธ์ ) จึงเป็นได้เพียงพระเอกจำลองสำหรับเพื่อนสนิทของเขา ค่าย (อ๊อฟ จุมพล ) เพื่อนรักที่เขาเกลียด…เกลียดที่เขาไม่สามารถสารภาพออกไปได้ว่าเขา “รักค่ายเกินกว่าเพื่อนสนิทขนาดไหน" ซีรีส์ทฤษฎีจีบเธอ เป็นการนำเสนอ ทฤษฎีความรักของตัวละครต่าง ๆ ได้เรียนรู้จักความรัก ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ผ่านมุมมองของเด็กคณะนิเทศน์ศาสตร์ เอกฟิล์ม ที่พวกเขาจะต้องศึกษาหาวิธีการในการสื่อสารเรื่องราวของมนุษย์เราออกไปผ่านภาพยนตร์ มารอดูความรักของพวกเขาว่ามันจะสำหวังไหมและจะดำเนินไปอย่างไร
เรื่องที่3 ด้ายแดง until we meet again the series
เป็นซีรีย์ที่น้ำตาแตกตั้งแต่ตนเรื่องเลยเรื่องนี้ไฮไลท์ของเรื่องนี้ที่โดดเด่นมาเลยน่าจะเป็นเรื่องของบทและพล็อตซีรีย์ เพราะการนำเอาภพชาติหรือเรื่องราวในอดีตมาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับวงการวายพอสมควร นอกจากนี้มู้ดและโทนสีที่ออกมาก็สวยงามดูเพลินตาไม่แพ้กัน รวมไปถึงสิ่งที่ต้องชมเชยมาก ๆ เลยคือการแคสนักแสดงได้เข้ากับตัวละครมาก อย่าง ฟลุ้ค ณธัช ที่ได้รับบทเป็น “ภาม” และ โอห์ม ฐิติวัฒน์ ที่รับบทเป็น “ดรีม” ก็เรียกว่าตรงคาแรคเตอร์มากถึงมากที่สุด ใครได้ดูเรื่องนี้แล้วรับรองว่าจะฟินไปตาม ๆ กัน
มาต่อกันด้วยหนังกันบ้างงงจ้าา
เรื่องที่4 call me by your name
ช่วงฤดูร้อน ปี 1983 เรื่องราวของครอบครัวเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ แถบอิตาลีตอนเหนือ ที่มีลูกชายวัยสิบเจ็ดอย่าง เอลิโอ (Timothée Chalamet) ที่สนิทสนมอยู่กับสาวน้อยมาร์เซีย (Esther Garrel) ที่ชอบพอเขาอยู่ เอลิโอมาอยู่ที่นี่ในช่วงหน้าร้อนทุกๆ ปี และทุกปีก็จะมีแชกคนหนึ่งมาร่วมพักอาศัยในบ้าน ครอบครัวนี้กำลังต้อนรับการมาของ โอลิเวอร์ (Armie Hammer) ชายหนุ่มผู้สูงวัยกว่า โอลิเวอร์นั้นเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับเอลิโอเพียงชั่วคราว ด้วยภารกิจช่วยเหลือพ่อของเขา คุณเพิร์ลแมน (Michael Stuhlbarg) ในการวิจัยด้านอารยธรรมกรีกโรมันเอลิโอเริ่มแสดงออกบางอย่างต่อโอลิเวอร์ แรกเริ่มก็ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยชอบกันมากนัก ทว่าก็ไม่อาจปิดบังสัญชาตญาณภายในได้ความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มวัย 17 กับชายหนุ่มสูงวัยกว่าจึงถือกำเนิดขึ้น ใครที่ยังไม่เคยชมแนะนำว่าเรื่องนี้ดีมากๆจริงๆ
เรื่องที่5 ดิวไปด้วยกันนะ
เรื่องราวที่ดูอบอุ่นชวนให้คิดถึงแต่ก็มีความเศร้าความคิดถึงไปในตัวและเรื่องราวเกี่ยวกับlgbtในสมัย20ปีที่แล้วที่ถูกปฏิบัติอย่างไร เรื่องย่อมีอยู่ว่าณ ปางน้อยในปี 1997 ดิว (โอม ภวัต) เด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาจากเชียงใหม่ได้พบและก่อความสัมพันธ์กับ ภพ (นนท์ ศดานนท์)เด็กหนุ่มลูกครึ่งจีนในพื้นที่ แต่ด้วยยุคสมัยที่ยังต่อต้านความรักระหว่างเพศเดียวกันก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพรากจากกัน จนกระทั่ง 23 ปีต่อมา ภพ (เวียร์ ศุกลวัฒน์) ได้หวนกลับมาเป็นครูยังปางน้อยอีกครั้งโดยมี อร (ญารินดา บุนนาค)ภรรยาของเขาติดตามมาด้วย แต่ในใจเขาก็ยังคงอยากตามหาดิวเพื่อสะสางเรื่องราวที่ติดค้างกันในอดีต ส่วนที่โรงเรียน ภพ ก็ได้มีโอกาสพบกับ หลิว (ปั๋น ดริสา) เด็กสาวหัวดีแต่ดื้อที่ครูใหญ่ฝากให้ดูแล แต่แล้วความใกล้ชิดระหว่าง ภพ กับ หลิว ทำให้เกิดข้อครหาขึ้น ใครที่ยังไม่ดูมิควรพลาดด
เรื่องที่6 รักแห่งสยาม
เป็นเรื่องที่มีผู้กำกับคนเดียวกับดิวไปด้วยกันนะเรื่องที่5เป็นหนังในใจของใครหลายๆคนเช่นกันยิ่งในยุคนั้นมีหนังแนวนี้น้อยทำให้เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยในตอนนั้นและก็มีประโยคจำที่คงคุ้นหูกับประโยคที่ว่า“เราคงคบกับมิวเป็นแฟนไม่ได้…แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักมิวนะ” ประโยคที่นอกจากจะอธิบายความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่างโต้งและมิว ขณะเดียวกันมันก็สะท้อนถึงภาวะทางสังคมที่นำพาให้เด็กหนุ่มทั้งคู่ต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางความสัมพันธ์ให้เป็นไปในทิศทางที่ผู้คน และปัจจัยแวดล้อมรอบตัวสบายใจที่ให้เป็น รักแห่งสยาม คือบทบันทึกอะไรอีกหลากหลายด้านของคนหนุ่มสาว และสังคมในยุคที่สยามสแควร์ยังมีน้ำพุเซ็นเตอร์พอยท์ และเรื่องราวอันลึกซึ้ง อบอุ่น ของตัวละครตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ไปจนถึงรุ่นลูกอย่างโต้งและมิว เป็นหนังที่บอกอะไรได้หลายๆอย่างในตอนนั้นแนะนำว่าไม่ควรพลาดแบบสุดๆ
ก็จบไปแล้วกับ6เรื่องราวของซีรีย์และหนังดราม่าวายที่เราได้รวบรวมที่คิดว่าดราม่าน้ำตาซึมมา ใครมีเรื่องไหนแนะนำมาอีกคอมเม้นท์มาได้
มีคำผิดหรือผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยจ้าา
โฆษณา