11. reopen : “เปิดใหม่, กลับมาเปิดอีกครั้ง” คำนี้เกิดจาก “re- (อีกครั้ง, ทำซ้ำ) ” + “open (เปิด)” ในข่าวเขียนว่า “the country can reopen in October.” (จะกลับมาเปิดประเทศได้ในเดือนตุลาคม) นอกเหนือจากคำกริยา คำว่า “open” ยังเป็น adj ได้เช่นกันค่ะ เช่น The restaurant is open from 10.00-20.00. หรือจะเจอแบบผสมปนเปใน adj คำอื่นด้วย เช่น open-minded (เปิดกว้างทางความคิด) ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ narrow-minded (ปิดกั้นทางความคิด) รูป”-ing” → opening แปลว่า “การเปิด, การเปิดตัว” เช่น grand opening (การเปิดตัวครั้งใหญ่)
12. while : “ในขณะที่, ระหว่างที่” ในเชื่อม 2 ประโยคเข้าด้วยกัน เป็น 2 เหตุการณ์ที่เกิดในเวลาเดียวกัน เช่น Daddy was listening to music while mommy was cooking in the kitchen. (พ่อกำลังฟังเพลงอยู่ระหว่างที่แม่ทำกับข้าวในครัว) จะใช้ในเนื้อความเชิงเดียวกันหรือขัดแย้งกันก็ได้ เราจะวาง “while” ไว้ด้านหน้าประโยคได้เหมือนกัน → While the dog is eating bones, the cat is running in the yard. (ระหว่างที่สุนัขกำลังแทะกระดูก แมวน้อยก็วิ่งเล่นอยู่ในสนาม)
13. happen : “เกิดขึ้น, มีให้เห็น” เช่น ประโยคในข่าว “….recovery to 2019 levels might not happen until 2023” (การฟื้นฟูให้อยู่ในระดับเท่ากับปี 2019 ยังคงไม่น่ามีให้เห็นจนกว่าจะถึงปี 2023) แต่สำนวน “happen to” แปลว่า “โดยบังเอิญ, ไม่ได้คาดคิด” เช่น “I happened to see John at the bank today.” (ฉันพบจอห์นโดยบังเอิญที่ธนาคาร - ไม่ได้นัดไว้ ไม่ได้ตั้งใจเจอ) ส่วน “happening” หมายถึง “เหตุการณ์, สถานการณ์” เมื่อถามว่า "เกิดอะไรขึ้น" เราพูดว่า “what happened?” เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว อย่าเผลอใช้ “what happens?” นะคะ
14. best-case scenario : “เหตุการณ์ดีกว่าที่คาดไว้” คำตรงกันข้ามที่ได้พบเห็นบ่อยคือ “worst-case scenario” (เหตุการณ์เลวร้ายกว่าที่ตั้งไว้) เวลาเราวางแผนอะไร บางทีก็ต้องนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่อยากให้เกิดเพื่อที่จะตั้งรับให้ทัน ในข่าวเขียนว่า “….recovery to 2019 levels might not happen until 2023, under the best scenario” (การฟื้นฟูให้อยู่ในระดับเท่ากับปี 2019 ยังคงไม่น่ามีให้เห็นจนกว่าจะถึงปี 2023 ซึ่งนี่คือในกรณีที่สถานการณ์ออกมาดีเกินกว่าที่คาดไว้) คำว่า “scenario” ยังเป็นศัพท์เฉพาะทางในวงการภาพยนตร์หรือนวนิยาย หมายความว่า “โครงเรื่อง” ได้ด้วย ครอบครัวเดียวกับคำว่า “scene” นั่นแหละค่ะ พอจะร้องอ๋อแล้วใช่ไหมเอ่ย
15. according to + N : “ตามที่….” เราจะเจอสำนวนนี้บ่อยมากในข่าวหรืองานวิชาการ อย่างในข่าว “.........., according to Pata” (ตามข้อมูลจากองค์กร Pata) อันที่จริง “according” มาจาก “accord” (v) แปลว่า “ประสาน, สอดคล้อง” คำตรงกันข้ามก็คือ “discord” (การไม่ลงรอยกัน, การไม่ประสานกัน) เวลาเรานำข้อมูลมาจากแหล่งใด เราก็ควรอ้างอิงไว้ด้วยว่าข้อมูลนี้ใครเป็นคนสร้างขึ้นมา จะเขียน “according to” ไว้ด้านหน้าหรือปิดท้ายประโยคก็ได้
16. association : “การร่วมมือ, สมาคม” คำนี้มาจาก “associate” (v) ร่วมมือกัน พอแปลงเป็น n. คือ association ต้นกำเนิดคือคำว่า “society” (n) สังคม ใส่ “as-” (รวมกัน) ไว้ด้านหน้า ก็คือ “การที่สังคมมารวมตัวกัน” เราเจอ “association” บ่อยมากในความหมายว่า “สมาคม” เช่น National Basketball Association-NBA (สมาคมกีฬาบาสเก็ตบอลแห่งสหรัฐอเมริกา) หรือ The Football Association-FA (สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศอังกฤษ) นอกจากนี้ เรายังพบคำว่า “associate” ในตำแหน่งวิชาการอีกค่ะ นั่นคือคำว่า “associate professor” (รองศาสตราจารย์) ที่ต่อยอดมาจาก “assistant professor” (ผู้ช่วยศาสตราจารย์)