[⭐️]“หิมะเลือด”และ“น้ำตกเลือด” คือลางบอกเหตุ วันสิ้นโลก‼️🧐 (จริงหรือ??)
(ไม่อ่านระวังจะพลาดความรู้ดีๆนะคะ🔆)
หิมะที่ทุกคนเคยเห็นมี “สีขาว” เหมือนสีน้ำนม แต่นอกจากหิมะที่มีสีขาวแล้วยังมี หิมะที่มี “สีแดง” ที่คล้ายกับเลือดอีกด้วย
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไม “หิมะถึงมีสีแดง?” หรืออาจจะ “เป็นลางบอกเหตุวันสิ้นโลก” เราไปอ่านพร้อมๆกันกับพีชเลยค่า😚
ถ้าพูดถึงสถานที่ที่ได้รับแสงจากพระอาทิตย์น้อยที่สุดเราก็จะนึกถึง “แถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้” กันใช่ไหมคะ ซึ่งในบริเวณนี้เนี่ยมีภูมิประเทศที่เป็นที่ราบสูง เป็นเทือกเขา และมีอุณหภูมิที่ต่ำในบางพื้นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
เป็นเรื่องปกติที่ในบริเวณนี้จะต้องมี “หิมะ” ❄️ ที่มีสีขาว
แต่แปลกที่ว่าในแถบทวีปอาร์กติก ทวิปแอนตาร์กติกา เทือกเขาแอลป์ ได้พบหิมะที่มี “สีแดงที่คล้ายกับเลือด”🔴
ในขณะที่ “ออริสโตเติล” (ผู้ค้นพบปรากฏการณ์นี้คนแรก) ได้ไปพบหิมะที่มีสีแดงคล้ายกับเลือดสดๆ บริเวณภูเขาในช่วงฤดูหนาว ในช่วงนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและยังหาคำตอบไม่ได้ จนเมื่อเวลาได้ผ่านมาถึงปัจจุบัน
นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบว่าสีแดงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจาก “สาหร่ายที่มีสีแดง” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Chlamydomonas nivalis และสาหร่ายจะเกิดขึ้นในที่ๆมีอากาศหนาว สีของมันจะผสมกับหิมะจนสีคล้ายกับสีแดงของแตงโม
มันจึงได้ชื่อว่า “หิมะแตงโม” 🍉
พบว่าสาหร่ายชนิดนี้จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ๆมีอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส และจะยิ่งเติบโตได้ดีในช่วงฤดูร้อน จากการสังเกตพบว่าสาหร่ายชนิดนี้จะแพร่ได้อย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อนและจะถูกหิมะปกคลุมไว้ในช่วงฤดูหนาว
สีแดงของมันมาจากสีแคโรทีนอยด์ที่อยู่ในคลอโรพลาสของสาหร่าย ทำให้สาหร่ายชนิดนี้มีความแตกต่างกว่าสาหร่ายชนิดอื่นๆที่มีสีเขียว ซึ่งสารคลอโรฟิลด์จะช่วยในการสังเคราะห์แสง แต่สาหร่ายชนิดนี้ดันมีความพิเศษตรงที่มันจะเพิ่มเม็ดสีแดงเพิ่มขึ้นมาด้วยนั่นเอง
คล้ายน้ำแข็งใสใส่น้ำแดงเลยเนอะ
แต่‼️ เมล็ดสีแดงตัวเนี่ยจะทำหน้าที่ดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต ส่งผลเสียคือทำให้ “น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น💦😱”
เมื่อน้ำแข็งละลายเร็วเท่าไหร่เจ้าสาหร่ายชนิดนี้ก็จะยิ่งเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยค่ะ จะสังเกตได้ว่าถ้าเราพบหิมะที่มีแดงบริเวณรอบๆน้ำแข็งก็จะละลายเป็นจำนวนมาก
ผลเสียที่ร้ายแรงที่สุด❗️เมื่อหิมะละลายเร็วกว่าเดิม จะส่งผลให้อุณหภูมิโลกและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย😱
เป็นเวลาถึง 106 ปี ที่นักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลีย กริฟฟิธ เทย์เลอร์ ค้นพบน้ำตกสีแดงที่ไหลจากธารน้ำแข็งสู่ทะเลบอนนีย์
ผู้คนคิดว่า “ต้องเป็นสาหร่ายสีแดงแน่ๆ” ที่ทำให้น้ำตกที่ไหลออกมาสีแดงคล้ายกับเลือดสดๆ แต่นักวิทยาศาสตร์กลับพบว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น🚫
จากการศึกษาของมหาลัยอลาสก้าแฟร์แบงค์กล่าวว่า พบว่ามีธารน้ำแข็งซ่อนอยู่ข้างใต้ เป็นน้ำแข็งที่อยู่มานับล้านปีที่ไหลออกมา
ภายในธารน้ำแข็งได้พบพลังงานความร้อนที่ปล่อยออกมาจากการแช่แข็งของน้ำ ซึ่งทำให้น้ำแข็งรอบๆละลาย และเมื่อได้เก็บตัวอย่างของน้ำสีแดงที่ได้ไหลออกมาพบว่า “สีแดงได้มาจากเหล็กออกซิไดซ์บวกกับน้ำเค็มที่มีอายุถึง 5 ล้านปี‼️”
และด้วยความเก่าแก่ของน้ำเค็มทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจที่จะทำการวิจัย ที่จะทำให้เราได้รู้ว่าจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในน้ำเค็มหลายล้านปี จะทำให้เราสามารถศึกษาความเป็นไปของโลกได้ไหม?
ลองคิดดูเล่นๆนะคะจะเป็นไปได้รึเปล่าว่าจุลินทรีย์เราเหล่านี้จะนำมาซึ่งไวรัสแบคทีเรียต่างๆที่จะทำให้โลกของเราถึงคราววันสิ้นโลก‼️😱
สามารถอ่านบทความของพีชเพิ่มเติมได้นะคะที่พีชเขียนไว้ (ถ้าน้ำแข็งขั้วโลก”ละลาย” เสี่ยงเชื้อโรคร้ายระบาด‼️) https://www.blockdit.com/posts/60b768e3238bb609de14145b
เราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ต้องสู้และอยู่รอดต่อไปให้ได้นะคะ👍🏻
ถ้าชอบเรื่องราวแปลกๆแบบนี้ “กดติดตาม” เอาไว้เลยนะคะ💖
ถ้าชอบก็ฝาก “กดไลค์” และก็ “กดแชร์” กันด้วยน๊าา
- 30
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
