วันศุกร์ 25 มิถุนายน 2564
เราตื่นเช้ามาตอน 6 โมง...รูัสึกเบื่อๆ นอนคิดในใจว่า
อยากไปไหว้พระที่ไหนสักแห่ง หรือไปเดินเที่ยวเล่นที่ไหนสักแห่งแก้เบื่อ และอาจช่วยสลัดความขี้เกียจออกไปได้บ้าง คิดไปคิดมา ก็นึกอยากไปเดินตลาดต้นไม้ที่เทเวศร์
แต่ความขี้เกียจของเราคงมีมากจริงๆ คือ
ขี้เกียจขับรถนั่นล่ะ ก็เลยคิดว่า
เออ!...งั้นเราก็นั่งเรือไปสิ แต่จะไปลงท่าเรือที่ไหนที่ใกล้ และขึ้นท่าเทเวศร์ได้ง่ายๆบ้าง จะนั่งจากท่าสาทร
เราก็ไม่อยากนั่งเรือนาน (เรื่องเยอะเนอะฉันเนี่ย!)
แต่เราจำได้ว่ามีวัดที่ขึ้นเรือข้ามฟากไปลงท่าเทเวศร์ได้เลย เราเลยเปิดกูเกิลแมพ นั่งไล่หาท่าเรือแต่ละฝั่ง
ว่ามันมีไปลงที่ไหนได้บ้าง
วางแผนว่า เราจะเดินทางยังไงแบบที่ไม่ต้องขับรถผ่านเข้าไปกลางเมืองได้บ้าง เรามองหาไปเรื่อย
จนไปเจอท่าเรือวัดคฤหบดีพระอารามหลวง
และที่วัด มีหลวงพ่อพระพุทธแซกคำ
พระพุทธรูปทองคำโบราณ อายุ 900 กว่าปี
ตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านนา, หริภุญชัย เป็นพระพุทธรูปที่มาคู่กัน กับ พระแก้วมรกต
จึงถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองด้วยเช่นกัน
ดีเลย!! 😃 จะได้ไหว้พระด้วย ก่อนไปเดินเล่นต่อที่ตลาดต้นไม้เทเวศร์
หลังจากหาเส้นทางได้เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางตอนประมาณ 10 โมงกว่า เรานั่งรถไฟฟ้า MRT
ไปลงสถานี บางยี่ขัน
ลง MRT สถานีบางยี่ขันนะ
พอถึงแล้ว เดินออกประตูที่ 3 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 42
แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปในซอยเล็กๆ
ซึ่งรถก็ขับเข้าไปไม่ค่อยสะดวก คิดในใจว่า
ดีแล้วที่ไม่ได้เอารถมาด้วย ไม่งั้นก็ต้องวนหาที่จอด
เสียเวลาไปอีก แล้วสุดท้ายก็ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปในวัดอยู่ดี
ออกประตู 3 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์
พี่วินมอไซด์พาขี่ซอกแซกจากปากซอยริมถนนใหญ่
เข้าซอยพามาจอดที่หน้าวัด ราคา 20 บาท
พี่วินพาเข้าซอยซอกแซก ซอยเล็กนิดเดียว
เราเดินเข้าไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ
บรรยากาศเงียบดี ไม่มีคนวุ่นวาย หลังจากไหว้พระเสร็จ เราตั้งใจว่าเดี๋ยวจะได้นั่งเรือข้ามฟากจากที่ท่าเรือของวัดได้เลย สะดวกดีด้วย
วัดคฤหบดีพระอารามหลวง มีหลวงพ่อพระพุทธแซกคำ สมัยอาณาจักรล้านนา หริภุญชัย อายุ 900 กว่าปี ทำจากทองคำโบราณ มีพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์หริภุญชัยเป็นผู้สร้างหรือค้นพบ
แต่กลายเป็นว่า ท่าเรือของวัดคฤหบดีนั้นยกเลิกการใช้งานไปแล้ว เราเลยถามจากคนแถวนั้น เค้าบอกว่าให้ไปนั่งเรือข้ามฟากที่ท่าวัดบวรมงคล อยู่ซอยถัดไป
เราเห็นพี่วินมาพอดีเลยเรียกให้ไปส่ง
ค่ารถ 10 บาท แต่ถ้านั่งจากสถานีบางยี่ขัน แล้วไปที่ท่าน้ำวัดบวรมงคล คิดค่ารถ 20 บาท
เรามาถึงท่าเรือข้ามฟาก ซึ่งบริเวณนั้นจะมีสถานีตำรวจบวรมงคล อยู่ติดกันกับท่าเรือข้ามฟาก และบริเวณรั้ววัดบวรมงคล
บรรยากาศเงียบดี ไม่วุ่นวาย และมีร้านขายของชำเล็กๆ ที่ท่าเรือข้ามฟาก ค่าเรือข้ามฟาก 5 บาท นั่งรอเรือไม่นาน
ทางเข้าท่าเรือข้ามฟากไปท่าเรือเทเวศร์ มีร้านขายของชำเล็กๆ ค่าเรือคนละ 5 บาท
นั่งเรือมาถึงกลางแม่น้ำ มองซ้ายเจอสะพานซังฮี้
มองขวาเจอสะพานพระราม 8 บรรยากาศดีมากกกกก ชอบที่สุดเลย
ชอบบรรยากาศนั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำ ลมเย็น วิวสวย
แล้วเราก็มาถึงท่าเรือเทเวศร์ บนท่าเรือก็จะมีปลาสำหรับปล่อยทำบุญ มีขนมปังกับอาหารปลาสำหรับให้อาหารปลาที่ท่าน้ำ
แต่สำหรับเราคิดว่า ซื้อปลามาปล่อยในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีคลื่นใต้น้ำแรง และน้ำลึกมาก ไม่ค่อยมีตลิ่งตื้นๆ
มันก็มีแต่ปลาใหญ่อย่างปลาสวาย ที่จะอยู่รอด
ส่วนปลาช่อน ปลาไหล ปลาหมอ ไม่น่าจะรอด
ต้องเอาไปปล่อยในคลอง หนองบึงน้ำนิ่งๆ คลื่นใต้น้ำไม่แรง และมีตลิ่ง ถึงจะรอด ไม่งั้นปล่อยไปก็ตาย
เราก็บาปอยู่ดี
บนท่าเรือเทเวศร์ ขายอาหารปลา และปลาสำหรับปล่อยทำบุญ
พอเดินออกจากท่าเรือ เราก็มาถึงตลาดต้นไม้
ที่ตั้งร้านเรียง ขายต้นไม้กันยาวตลอดแนวถนนกรุงเกษม มีต้นไม้หลากหลายชนิด มีทั้งราคาแพง
และราคาไม่แพง และบรรยากาศก็ต่างจากที่เราเพิ่งนั่งเรือข้ามฟากมาแบบโดยสิ้นเชิง มีความวุ่นวาย
มีคนมากมายเดินเลือกซื้อต้นไม้ และของกิน
เราเดินดูต้นไม้ไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงปากซอย
ทางออกสู่ถนนสามเสน แล้วเราก็ไปสะดุดตากับต้นไม้ที่เรากำลังตามหาอยู่พอดี คือ ต้นครีบปลาวาฬ
น้องถูกวางหลบมุมไว้
เราเลยเดินเข้าไปดู และสอบถามราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิดไว้ เพราะที่อื่นต้นแบบใบเดียวขายราคาหลายร้อยบาท แต่ร้านนี้ขายถูกกว่าที่คาดไว้ และแถมยังมีต้นอยู่ในกระถางตั้ง 3 ต้น คุณป้าเจ้าของร้านก็น่ารักใจดีมากๆ คุณป้าชื่อ ป้าแหม่ม วัย 60 กว่า ร้านของคุณป้าชื่อ ร้านอภิชาติ คุณป้าให้คำแนะนำเรื่องต้นไม้ชัดเจน และละเอียดมาก เราเลยยืนคุยสอบถามเรื่องต้นไม้ชนิดอื่นๆไปด้วยนานเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลา บ่ายสองโมงกว่าเข้าไปแล้ว
เพียงแค่แวะชม เราก็แอบนิยมคุณอยู่ในใจ
สรุปว่า เราได้ต้นครีบปลาวาฬมาสมใจอยาก และได้ของกินติดมือกลับมาบ้านเพียบเลย ความรู้สึกเบื่อก็หายไป ความสุขก็เข้ามาแทนที่ และเป็นวันดีๆ อีกหนึ่งวันของฉัน 😃
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
