26 มิ.ย. 2021 เวลา 10:08 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Hope & Hopeless Experiment
การทดลองในสัตว์ที่โหดร้ายทารุณครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
“Hope”
ย้อนกลับไปในปี 1950 Curt Richter นักจิตวิทยาพฤติกรรม ได้ทำการทดลองว่า อุณหภูมิของน้ำมีผลไหม สำหรับหนูในการจมน้ำตาย … เค้าทดลองโดยหย่อนหนูหลายๆ ตัว ลงใน เหยือกแก้วใสขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำ หลากหลายอุณหภูมิหลายใบ ตัวละเหยือก แล้วจับเวลาว่าหนูเหยือกไหนจมน้ำตายเร็วที่สุด ….
ผลการทดลองของการทดลองนี้ ทำไปทำไมก็ไม่รู้ แต่มันทำให้เค้าหงุดหงิดมากเพราะเจอว่าผลการทดลองคาดเคลื่อนอย่างมากจากหนูกลุ่มหนึ่ง
คือปกติหนูทั่วไปจะจมน้ำภายใน 5-10 นาที แต่หนูบางตัวไม่ยอมแพ้ตะเกียกตะกายดิ้นรน นานถึง 60-80 ชั่วโมง จึงทำให้ผลการทดลองเค้าเพี้ยนอย่างมาก …
เค้าเลยพยายามหาว่าทำไม ? เลยออกแบบการทดลองใหม่ คือเอาเหยือกมาหลายๆ อันใช้น้ำอุณหภูมิปกติ แล้วปล่อยหนูจำนวนมากลงไป เหยือกละตัว แล้วนั่งจดข้อมูลเวลาที่พวกหนูจะจมน้ำตาย
สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ หนูป่า หรือหนูที่จับมาได้มักจะยอมแพ้ใน 5-10 นาทียอมจมน้ำตาย แต่หนูเลี้ยงที่เคยผ่านการทดลองอื่นๆมา หนูพวกนี้สู้ ว่ายจนสุดใจขาดดิ้น
เค้าถามตัวเองว่าทำไม .. สุดท้ายเค้าได้คำตอบว่า มันอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกกว่า “ความหวัง” ถ้าหนูบางตัวเรียนรู้ว่าจมน้ำแล้วตายแน่ๆ มันจะถอดใจตั้งแต่แรก ยอมจมน้ำ แต่สำหรับหนูที่เคยโดนทดลองมา มันรู้ว่ามีความหวังอันน้อยนิดที่จะไม่ตาย … หากมีเศษเสี้ยวแห่งความหวัง มันก็พร้อมจะสู้
เค้าเลยทดลองว่าเอาหนูป่าที่จับมาได้ลองปล่อยลงไป 5 นาทีจม ก็รีบช่วยขึ้นมา … หนูป่าพวกนี้จะเริ่มเรียนรู้ว่า สู้แล้วมี % รอด คราวหน้าเมื่อปล่อยหนูพวกนี้ลงมาพบว่า มีจำนวนมากที่สู้มากขึ้น พยายามมากขึ้น สู้จนสุดใจ เพราะมีโอกาสรอด ( แต่ก็มีบางส่วนที่ถอดใจเหมือนเดิมเพราะรู้สึกเป็นฝันลมๆแล้งๆ)
Curt Richter จึงเชื่อว่าถ้าเราให้ความหวัง กับคนไข้ว่ามีโอกาสหายและคนไข้กำลังใจดี หากจิตใจเค้าสู้ก็มีสิทธิ์หายจากโรคร้ายได้ เป็นต้น นี่คือพลังแห่งความหวัง
แต่ในด้านมืดก็ใช้ได้ เค้าเรียกว่าการให้ความหวังแบบลมๆแร้งๆ เช่น การจีบใครสักคนที่เราพยายามๆ จนเหมือนไม่มีหวัง และพอเราจะไปเค้ากลับมาทำดีด้วย เป็นการหยอดความหวังลมๆแล้งๆ ให้เราสู้ต่อไป เป็นทริกการหลอกใช้ที่มีประโยชน์
หรือพวก บ มืด Back Company ของญี่ปุ่นที่เฝ้าเพียรบอกเด็กจบใหม่ว่าต้องทำงานหนักนะ ต้องทำ OT ติดต่อกันยาวๆ แล้วจะได้เลื่อนตำแหน่ง ได้เงินเดือนขึ้น พนักงานก็จะทำงานถวายตัว พอไม่ไหวๆ จะลาออก ก็แกล้งมีหนังสือชมเชย มีหัวหน้าพาไปเลี้ยงหรือขึ้นเงินเดือนนิดหน่อย ให้มีความหวังอยู่ต่อไป รวมถึงพยายามพูดถึงความสบายของครอบครัว เป็นต้น
รวมถึงประเทศเผด็จการหลายๆ ประเทศที่ให้ความหวัง
ประชาชนว่าจะเป็นประชาธิปไตย ก็ค่อยปลด ค่อยๆคลายให้มันรู้สึกดีขึ้น มีความหวัง แต่จริงๆมีรัฐบาลเผด็จการมีแผนอยู่ยาวร่วม 30-50 ปี เช่นใน แอฟริกาใต้
ดังนั้นโปรดสำรวจด้วยว่าความหวังที่เรามี
เราหลอกตัวเองอยู่ไหม …
Hopeless
ปี 1965 Seligman ทำการทดลองกับสุนัขในแบบตรงข้ามกับหนูที่เราให้ความหวัง …. โดยเค้าจะให้ความผิดหวังกับพวกมัน
เค้าออกแบบการทดลองแบ่งสุนัขเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกที่พื้นมีไฟฟ้า แต่ถ้ามันกระโดดไปอีกฟากจะไม่มี
1
กลุ่มที่ 2 ทั้งสองฟากมีไฟฟ้ากระโดดไปกระโดดมาก็เจอไฟฟ้าอยู่ดี
เสร็จแล้วเอาทั้งสองกลุ่มมาใส่ในการทดลองเดียวกันในห้องที่ใหญ่ขึ้นโดยปล่อยในฟากที่มีไฟฟ้า และอีกฟากไม่มี
ผลการทดลองคือ สุนัขในกลุ่ม 1 กระโดดไปอีกฟากอย่างรวดเร็ว ส่วนสุนัขกลุ่มที่สองนั่งๆ นอนๆให้ไฟฟ้าซ๊อตอยู่อย่างนั้นจนจบการทดลอง
Seligman เรียกสิ่งนี้ว่า Hopeless
เมื่อสุนัขกลุ่มที่โดนไฟฟ้าดูดจนชินแล้ว
มันก็รู้สึกว่ามันจะไม่ดิ้นรนแล้ว
ทำไปทำไมให้เหนื่อย นั่งๆนอนๆ แบบนี้แหละ
เพราะมันเกิดมาต้องโดนแบบนี้เป็นแบบนี้
เค้าเลยเชื่อว่าความรู้นี้ สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้
เช่น พ่อแม่ไม่ควรด่าลูกว่ามึงมันโง่ ห่วย โหลยโท่ย เมื่อเด็กชินมากๆ ก็เหมือนโดนไฟซ๊อต เออจริง ช่างมันเถอะ ชั้นมันโง่ ชั้นมันแย่ก็ได้แค่นี้แหละก็เป็นแค่นี้
หรือในองค์กรที่พนักงานทำงานหนักแต่สุดท้ายไม่ได้อะไร ก็เหมือนสุนัขที่พยายามกระโดดไปมาแต่โดนไฟซ๊อตอยู่ดี สุดท้ายช่างมันเถอะ พอละ ไม่พยายามละ อยู่แบบนี้พอ >>> productivity ต่ำลง
หรือประเทศที่ประชาชนสยบยอม ทำไรไม่ได้กับรัฐบาล ทุกคนก็จะไม่พยายามทำอะไรอยู่ไปวันๆ มันไม่รู้จะทำอะไร แบบหลายๆประเทศที่ยากจนในแอฟริกาที่เค้ารู้สึกอนาคตเค้าไม่ดีไปกว่านี้ อย่าพยายามเลยเป็นต้น
Hopeless ใช้ในทางที่ดีได้ไหม ได้ครับ ใช้นำการลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
เช่น ไปห้างลูกดิ้น สิ่งที่เราควรทำคือให้ Hopeless แก่เค้า อยากดิ้นดิ้นไปเลยจ้า แต่เธอจะไม่ได้ และไม่มีวันได้จากการดิ้นนี้ สุดท้ายก็จะไม่ทำ แต่ต้องอดทน
ที่สำคัญอย่าให้แม้แต่เศษเสี้ยวความหวัง เช่นบางครั้งได้ หรือได้ยินผู้ใหญ่คุยกันว่า ซื้อๆ ให้ไปเถอะ อายเค้า
จำหนูได้ไหมครับที่ตระกายน้ำ 5 นาที พอมีประกายแห่งความหวัง ตระกายน้ำได้ 50 ชั่วโมง …
Hope & Hopeless ต่อมาจึงพัฒนาเป็นระบบ reward & Punishment ในปัจจุบัน
เป็นสิ่งที่ ช่างน่าทึ่งและน่ากลัวไปพร้อมๆ กัน
หวังว่าทุกคนจะเต็มไปด้วยความหวังนะครับ
พี่ตูนบอกเสมอว่าชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ …. ~*
ลงภาพการทดลองกับสุนัขพอนะ ใครอยากเห็นการทดลองหนู Google เอาครับ เห็นแล้วใจไม่ดีสงสาร 55
โฆษณา