“อ๋อ…แบบนี้เลยเหรอคะพี่” นี่คือคำถามจากพี่ก้อน กรณีพี่เว่นวางขายน้ำจิ้มหน้าคล้าย
เค้ากับน้ำจิ้มของเธอ
เมื่อวันสองวันที่ผ่านมีข่าวคราวที่ไม่ใช่เรื่องโควิดแทรกมาให้ได้รับทราบกัน นั่นก็คือข่าวการวางขาย CP น้ำจิ้มบาร์บีคิว และ CP ซอสสไปซี่ เกาหลี บนชั้นวางแผนกเครื่องปรุงของ 7-Eleven ไม่มั่นใจว่าวางขายทุกสาขาหรือไม่ แต่โดยทั่วไปสินค้าใหม่ถ้าไม่ใช่กระแสแรงจริงๆ โอกาสที่จะวางขายพร้อมกันทุกสาขาเป็นไปได้ยากมาก
ขอท้าวความย้อนไปนิดนึงเผื่อว่าบางท่านอาจจะไม่ได้ทราบต้นสายปลายเหตุ เรื่องนี้เกิดจากเพจดัง “มนุษย์รีวิวเซเว่น” ได้รีวิวน้ำจิ้มตัวใหม่ที่นำมาวางขายใน 7-Eleven ที่มีข้อความ “นี่มันนนน น้ำจิ้มพี่ก้อนนน ชัดๆ มีขายในเว่นล้าวว โคตรเหมือนเลยว้อยยยย ขวดละ 59.- อย่างคุ้ม ถ้าเจอคือสอยมาเลยนะเหมือนจริง.......”
แล้วก็กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ผู้บริหารของ Bar B Q Plaza ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ บาร์บีก้อน เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า
“เมื่อเราอยู่ในโลกของนายทุนใหญ่ รายเล็ก รายย่อย รายกลาง (อาจ)ย่อมเป็นเหยื่อของรายใหญ่… เห็น Product นี้ครั้งแรกก็ต้องพูดกับตัวเองว่า “อ๋อ…แบบนี้เลยเหรอคะพี่” การที่มาชวนเราทำแล้วเราไม่ทำ…นี่คือผลตอบแทนของการไม่ศิโรราบพี่ใหญ่… เราเดินกันคนละเกม เราทำธุรกิจกันคนละความคิด” ประมาณนี้
ที่มา https://www.marketingoops.com/news/viral-update/7eleven-barbqplza/
แม้ว่าข้อความที่สื่อออกมาจะไม่ได้มีความรุนแรงซึ่งเป็นเหมือนการตัดพ้อไปบ้าง แต่ก็เหน็บแนมพี่ใหญ่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อของไทยอย่างเต็มๆ ในด้านของความได้เปรียบที่มีเหนือกว่า
เรื่องนี้ลึกๆแล้ว “ยุคใหม่ฯ” ก็ไม่ได้ทราบหรอกว่าการดำเนินการครั้งของ 7-Eleven มาจากวัตถุประสงค์และสาเหตุอะไร แต่จากประสบการณ์ที่เคยทำงานอยู่ในสายงานนี้มาก่อน และยังมีโอกาสได้ร่ำเรียนจากสถานศึกษาในเครือ CP All ก็พอจะเดาทางได้บ้างกับกรณีเช่นนี้
ขอเป็นนายแบบมือสักครั้ง
เป็นไปได้ทั้ง 2 ทางที่พี่เว่น ตั้งใจจะทำสินค้าให้ลูกค้าที่เห็นเข้าใจว่าเป็นน้ำจิ้มแบบเดียวกับที่ร้าน Bar B Q Plaza เพราะจะทำให้ลูกค้ารับรู้และตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และก็เป็นไปได้ด้วยว่าไม่เกี่ยวกับ Bar B Q Plaza เพราะบาร์บีคิวไม่ได้มีขายเฉพาะที่ Bar B Q Plaza ในประเทศไทยมีขายหลายรายมากทั้งเล็กกลางใหญ่มีให้เลือกมากมาย ร้านจำนวนมากก็ชูเรื่องของสูตรเกาหลี ทำให้การออกแบบตัวหนังสือเป็นรูปแบบภาษาเกาหลี
แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีการต่อยอดจากข้อความการรีวิวของ “มนุษย์รีวิวเซเว่น” ซึ่งตอนนี้ทางเพจก็ได้ลบข้อความนี้ออกไปแล้ว และมีการออกมาชี้แจงว่า เพจ “มนุษย์รีวิวเซเว่น” ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัท 7-Eleven ทางเพจเป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ต้องการรีวิว ชอบรีวิวของกินของใช้เท่านั้น ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงจริงๆ ค่ะ
Facebook Page “มนุษย์รีวิวเซเว่น”
อย่างไรก็แล้วแต่เรื่องนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้วและกลายมาเป็นกระแสข่าวดังไปเรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริหารทั้ง 2 องค์กรจะดำเนินการต่อไปอย่างไรมากกว่าที่จะสร้างประโยชน์ให้กับตนเองและลูกค้าได้ ย้ำนะครับต้องให้ลูกค้าได้รับด้วย มิเช่นนั้นการดำเนินการก็ไร้ประโยชน์หรืออาจจะส่งผลเสียในอนาคตก็ได้ หรือไปๆมาๆก็อาจจะทำให้ตาอยู่มาจากไหนก็ไม่รู้คว้าพุงปลาไปกินก็ได้
แม้ว่า Bar B Q Plaza จะนำเรื่องนี้มาโต้ตอบด้วยการโพสต์ข้อความ “อยากเปิดร้านขาย24ชั่วโมง แต่ GON อดนอนไม่ไหว..แง” อาจจะทำลูกค้าเกิดความรับรู้ในแบรนด์ได้ดีขึ้น แบรนด์ได้รับการกล่าวถึงมากขึ้น แต่จะกลายเป็นว่าลูกค้าจะจดจำว่า Bar B Q Plaza เป็นแบรนด์ที่ชอบประชดประชันมากกว่า และที่สำคัญในอนาคตหากอยากจะทำเรื่องที่ผู้คนยอมรับในความใจกว้างของแบรนด์ มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะไม่ยอมรับ
Facebook Page Bar B Q Plaza
ในมุมมองของ “ยุคใหม่การตลาดของไทย” มองว่าทั้ง 2 ฝ่ายสามารถทำให้เรื่องนี้ได้ประโยชน์ร่วมกันได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะมาตัดพ้อต่อว่าแบบน้อยเนื้อต่ำใจ หรืออาจจะเป็นการประชดประชันของฝ่ายพี่ก้อน หรือจะใช้กลยุทธ์สงบสยบความเคลื่อนไหวของพี่เว่น
หาก “ยุคใหม่ฯ” มีโอกาสได้ดำเนินการเรื่องนี้ในฝ่ายของพี่ก้อน จะทำการออกแคมเปญขอบคุณความใจกว้างของพี่เว่น ที่วางสินค้าใหม่ออกมาแล้วทำให้ลูกค้านึกถึง Bar B Gon แล้วจะให้ส่วนลดพิเศษหากมีการแสดงใบเสร็จว่ามีการซื้อ CP น้ำจิ้มบาร์บีคิว และ CP ซอสสไปซี่ เกาหลี นอกจากจะไม่เป็นการแสดงความก้าวร้าวแล้วยังทำให้ภาพลักษณ์ของ Bar B Q Plaza เป็นแบรนด์ใจกว้างด้วย ลูกค้าส่วนใหญ่ยอมรับเรื่องความใจกว้างอยู่แล้ว แล้วจะทำให้การเติบโตของธุรกิจจะไปไกลกว่านี้ได้อีกมาก
ที่มา Pantip
ในส่วนของพี่เว่นที่หาก“ยุคใหม่ฯ” มีโอกาสได้ดำเนินการเรื่องนี้เช่นกัน ก็จะออกแถลงข่าวแสดงความขอโทษหากทำให้เข้าใจผิดว่าได้ทำการเลียนแบบ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้มีเจตนานั้นเลย และหากใครนำใบเสร็จจาก Bar B Q Plaza มาแสดงที่ 7-eleven จะได้รับส่วนลดน้ำจิ้มทั้ง 2 ตัวด้วย
ที่มา Wongnai
ในเรื่องของแง่กฎหมายก็ต้องไปดูว่าเรื่องแบบนี้ทำได้ไหมอย่างไร แต่ก็เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วกับห้างยักษ์ใหญ่ 2 รายเมื่อหลายปีก่อน
นี่คืออีกมุมมองทางออกของเรื่องนี้จากนักการตลาดตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่อยู่บนพื้นฐาน Win/Win หรือ Win All
Credit: Win-win-win - The Synergy Group
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพ ติดต่อได้ที่
รวบรวมรายการสินค้าโปรโมชั่นเด็ดๆโดนๆ สนใจคลิ๊ก:
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
