27 มิ.ย. 2021 เวลา 03:14 • ความคิดเห็น
ต้องตั้งคำถามกับคำถามก่อน..เพื่อให้ความคิดของเราชัดขึ้น
1. ความดีคืออะไร..ทำให้มันเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ง่าย ๆ ก็เขียนเป็น check lists เลยว่ามีลักษณะแบบไหน จะได้คิดต่อว่าไอ้ที่ว่าดีกันนั้นตอนที่มีพฤติกรรมปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกมันทำอย่างไร
2. ถามต่อว่าดีสำหรับใคร..เจ้านาย ครอบครัว ญาติพี่น้องตนเองแล้วทำดีกับคนอื่น ๆ ด้วยไหม
3. คนเก่งก็ต้องตั้งคำถามต่อ..เก่งคิด เก่งทำ เก่งเอาตัวรอด เก่งแล้วเสียสละด้วยไหม เก่งแล้วกล้าทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยไหม
คนเก่ง คนดีมันมีมิติมากมายไม่ใช่แทนด้วยสีดำกับสีขาว..ถ้าจะบอกจริง ๆ เลยในฐานะที่เคยเลือกหาคนที่มาทำงานแทบไม่คิดถึงการเปรียบเทียบคำสองคำนี้เลยนะ..แล้วยังคิดว่าคนที่เขาหาคนไปทำงานน่าจะคิดเหมือนกันคือ
- ทำงานได้จริงไหม ..อบรมพัฒนาได้ไหม ลงทุนอบรมพัฒนาให้แล้วเขาจะสู้งานไหม จะทำงานยาวนานจนคุ้มที่ลงทุนไปหรือไม่
- ทำงานได้คุ้มค่าจ้างไหม เช่นขยัน ไม่เรื่องมาก ทำงานเสร็จตามกำหนด ทำงานได้หลากหลายหน้าที่
- ไม่ใช่ตัวสร้างปัญหาแต่เป็นพวกแก้ปัญหาได้ดีอย่างน้อยเป็นประเภทไม่มีปัญหากับใคร
แค่นี้มั๊ง..ส่วนเข้ามาทำงานแล้วไม่เก่ง(ต่ำกว่ามาตรฐาน)หรือเป็นคนไม่ดี(จนกระทบกับงาน)สมัยนี้ถูกคัดออกแน่ ๆ ..ต่อให้ดีหรือเก่งอย่างที่พูดกันแบบผิวเผินสมัยนี้เขายังตัดส่วนท้าย ๆ ออกเลย..แบบที่พูดกันง่าย ๆ ว่ากำจัดจุดอ่อน..เคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่า..เลิกจ้างโดยไม่มีความผิด จ่ายเงินชดเชยตามกฏหมายทุกอย่างหรือบางทีก็ใช้คำว่าไม่ต่อสัญญาเอาดื้อ ๆ
ในโลกแห่งความเป็นจริงจะเป็นแบบนี้.." ภายในสามเดือนข้างหน้าพวกเราทุกคนในที่นี้จะถูกตัดลดจำนวนลงครึ่งหนึ่ง..ให้เตรียมตัวและคอยดูว่าใครที่เข้าเกณฑ์ที่จะถูกเลือกให้อยู่ต่อ.."
หรือ.." การประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ใช้ภาษาไทยเพราะนายจ้างใหม่และผู้บริหารชุดใหม่พูดภาษาไทยไม่ได้..ทุกฝ่ายทุกแผนกต้องทำรีพอร์ตและการนำเสนอทุกชนิดเป็นภาษาอังกฤษ.." ที่เห็น ๆ ออกจากงานกันมาก่อนวัยเกษียณก็จะคล้าย ๆ แบบนี้เยอะ
คำว่า..คนดี คนเก่ง มันจึงเป็นวาทกรรมใช้เรียกผู้ปกครองพวกที่เราเลือกไม่ค่อยจะได้แต่มันเข้ามามีอำนาจเข้ามาเป็นเจ้านายเราเองเลยต่างหาก
โฆษณา