28 มิ.ย. 2021 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีหลากหลายชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นคนขาว คนผิวสี คนเอเชีย รวมถึงคนพื้นถิ่นที่ว่ากันว่าอาศัยในพื้นที่บริเวณแห่งนี้มาอย่างยาวนานที่ถูกเรียกว่า กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมาทั่วโลกกลับต้องได้เห็นข่าวแสนสะเทือนใจ เมื่อมีการขุดพบหลุมศพนิรนามกว่า 1,000 หลุมใกล้กับโรงเรียนประจำสำหรับเด็กพื้นเมืองในแคนาดา และแน่นอนว่าศพเหล่านั้นล้วนเป็นเด็กทั้งสิ้น ! ดังนั้นเรามาย้อนรอยเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรมในประเทศนี้กันค่ะ
6
แต่เดิมพื้นที่ในแคนาดาเป็นของชนพื้นเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ทำเกษตร ฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร แต่เมื่อมีนักสำรวจได้เข้ามาสำรวจและนำคนขาวเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ วันเวลาผ่านไปชนพื้นเมืองกลับกลายเป็นกลุ่มคนที่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับ ไม่มีสิทธิเท่าเทียมกับคนผิวขาวที่เข้ามายึดครองพื้นที่ และเหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลง เมื่อพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นประเทศแคนาดา ชนพื้นเมืองก็เริ่มถูกกีดกันและถูกขับไสไล่ส่งไปยังดินแดนอื่นที่ห่างไกล
3
ในปี 1863-1998 มีเด็กชาวพื้นเมืองกว่า 150,000 คนถูกบังคับให้เข้าโรงเรียนประจำสำหรับเด็กพื้นเมือง โดยเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดภาษาพื้นเมือง เด็กหลายคนถูกลงโทษ และถูกเฆี่ยนตี เพียงเพราะพวกเขาเผลอพูดภาษาของตนเองออกมา มีการละเมิดทางกายและทางเพศทั้งจากครูและนักเรียนด้วยกัน พวกเขามักจะถูกบังคับให้อดอาหารและถูกทำร้ายร่างกาย เพียงเพราะความเชื่อของเหล่าคุณครูที่บอกว่าการทำร้ายร่างกายเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้จิตวิญญาณของคนป่าเหล่านี้ให้กลับกลายเป็นคน
4
ภาพเด็กชายชนพื้นเมืองที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นคนเมือง
สภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ดี และบทลงโทษที่โหดร้ายทำให้มีเด็กนักเรียนจำนวนมากเสียชีวิตในโรงเรียนประจำ โดยศพของพวกเขาจะถูกฝังในสุสานข้างโรงเรียนโดยไม่มีแม้แต่ป้ายหลุมศพให้ระลึกถึง เหยื่อผู้รอดชีวิตพูดถึงเด็กบางคนที่อยู่ ๆ ก็หายตัวไป บางคนเล่าถึงเด็กที่ตั้งครรภ์เพราะบาทหลวง ก่อนที่ทารกจะถูกพรากไปจากแม่และถูกจับโยนใส่เตาเผา
4
ภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชนพื้นเมืองในโรงเรียนประจำ
นักเรียนที่รอดชีวิตบางส่วนพยายามใช้ชีวิตอยู่ในเมือง แต่กลับโดนเหยียดจนไม่สามารถอยู่ร่วมได้ ครั้นกลับไปอยู่กับชนพื้นเมืองของตนเอง พวกเขาก็ไม่สามารถเข้ากับวัฒนธรรมและภาษาพื้นเมืองของตนเองได้เช่นกัน ทำให้มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่เลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย
4
และในปี ค.ศ. 1998 ได้เริ่มมีการตระหนักในด้านสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกันในสังคม โรงเรียนจึงเริ่มทยอยปิดไปจนสูญสิ้นไปในที่สุด รวมถึงเริ่มมีการขอโทษต่อชนพื้นเมือง และชดเชยค่าเสียหายแก่พวกเขาเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ แต่ประวัติศาสตร์อันดำมืดนี้กลับฝังลึกอยู่ในความทรงจำของชนพื้นเมืองอย่างยากที่จะลืมเลือน
3
ป้ายไว้อาลัยสำหรับเด็กชนพื้นเมืองที่เสียชีวิต
รู้หรือยัง ?
เรามีเพจ Facebook แล้วนะ ไปติดตามเราได้ที่นี่ คลิกเลย
3
ขอบคุณข้อมูลจาก
โฆษณา