28 มิ.ย. 2021 เวลา 07:13 • สุขภาพ
🧟‍♀️ เมื่อฉันติดโควิด สายพันธ์ุอินเดีย 🫁👳🏻‍♂️🇮🇳
📌 31 พค 64 📌
📍15.30 ตามเวลาท้องถิ่น📍
ได้เข้าไปที่บ้าน เพื่อเตรียมของไหว้ ไปไหว้คุณแม่ (เป็นรอบสัปดาห์สุดท้ายของการไหว้ที่จะครบ 49 วันแห่งการจากไปพอดี) 👵🏼 🍲🍛🥗🍚🍱
👴🏻 ปรากฏว่าคุณพ่อหกล้มในห้องน้ำ ลุกเองไม่ได้ เปิดประตูห้องน้ำออกไม่ได้ จึงต้องไปช่วยเหลือ 🛁🚽🚿หลังจากนั้นนำตัวส่ง รพ โดยรถพยาบาล 🚐 และตามไปเจอที่ รพ 🏥 อยู่ด้วยกันจนกระทั่งส่งตัวขึ้นห้อง รวม 4 ชั่วโมง 👱🏻‍♀️
📌1 มิ.ย.64 📌
📍9.00 น 📍
🧑🏻‍⚕️ ถึงห้องพักคุณพ่อที่ รพ และได้รับการแจ้งจากคุณหมอว่าคุณพ่อน่าจะติดโควิด จึงย้ายวอร์ดมาอีกตึกหนึ่ง และอยู่รอจนกระทั่งพบคุณหมอตอนบ่าย 👩🏻‍⚕️
บ่ายนั้นได้สวอบตรวจเชื้อพร้อมพี่ชายอีกคนที่เป็นคนนอนเฝ้าคุณพ่อ
และทุกคนในบ้านสวอบบ่ายวันนั้นทั้งหมด 👩🏻‍🔬🧪🦠
รวมเวลาที่อยู่กับคุณพ่อในวันนี้ 4 ชั่วโมง👱🏻‍♀️
ตอนเย็นกลับบ้าน ย้ายออกจากบ้านมากักตัวคนเดียวที่บ้านอีกหลังหนึ่ง 🏠🚶🏻‍♀️🧳👚🩳👕👖🩴
📌2 มิ.ย. 64📌
ผลสวอบออกมา
- พี่ชาย ติด 1 คน เป็นคนที่นอนเฝ้าคุณพ่อ👨‍👦
- ทุกคนที่เหลือทั้งหมดไม่พบเชื้อ 🙅🏻‍♀️
📌1-3 มิ.ย. 64 📌
ปวดหัวทุกวัน 😵‍💫แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นอาการของโรค😵
คิดเองว่าอาจจะไม่คุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ รู้สึกว่าบ้านอากาศไม่ถ่ายเท และยังปรับตัวกับบ้านหลังนี้ไม่ได้ 🏘 บวกกับช่วงนั้นแดดแรงและอากาศร้อนมาก 🌞 รวมทั้งมีความกังวลกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องเคลียร์งาน 📚💻ใช้โทรศัพท์เยอะ 📱ใช้ไลน์เยอะ 📱เลยคิดเอาเองว่าปวดหัวเพราะเรื่องที่ต้องเคลียร์ และการไม่คุ้นกับบ้าน🤢
📌4 มิ.ย.64📌
เคลียร์งานทุกอย่างออกหมดแล้ว ทางโล่ง
ใช้ชีวิตแบบปกติ 😒แต่ยังไม่หายปวดหัว กลางวันอากาศร้อนมาก ปวดหัวจนต้องนอน🥵
ตอนเย็นนอนพักแล้วก็ยังปวดหัว และปวดมากขึ้น จับหน้าผากรู้สึกร้อน ๆ เลยวัดไข้
ได้ 38 - 38.2 องศาจ้า เริ่มรู้สึกถึงสัญญาณไม่ดีละ 🤯😱🌡
📌4 - 6 มิ.ย. 64📌
ไข้ไม่ลงเลย ทุกครั้งที่วัด 37.3 - 38.5 🌡
อาการปวดหัว จะสัมพันธ์กับไข้โดยตรง 🤒
ถ้าปวดมาก จะวัดไข้ได้สูงมาก 😫
ถ้าปวดน้อย จะวัดไข้ได้ต่ำลง😣
อาการเริ่มเหมือนคนเป็นหวัดลงคอ เสียงเปลี่ยน🤒
📌6 มิย 64📌
ไปสวอบที่ รพ ปิยการุณย์🏩
ในฐานะผู้มีความเสี่ยง🤧
🩺🧑🏻‍⚕️คุณหมอประเมินอาการบอกว่าเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือไข้เลือดออก แต่ติดตรงที่มีความเสี่ยง 🤔
- ตรวจปัสสาวะ 🚽
- ตรวจเลือด🌡
- สวอบ🦠
ผลปัสสาวะปกติ 🚽😊
ผลเลือดเกล็ดเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ และแสดงถึงการติดเชื้อไวรัส (ไม่ใช่แบคทีเรีย)
ซึ่งทั้งโควิด ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก ก็ล้วนแต่เป็นไวรัสทั้งหมด 🌡🤔🥺
📌7 มิ.ย.64📌
ผลออกมา ติดโควิด สายพันธ์ุอินเดียจ้า🫁👳🏻‍♂️🇳🇪👻
🧑🏻‍⚕️คุณหมอโทรมาแจ้งผล และถามว่าอาการตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง 😮‍💨
- ไข้ไม่ลง🤒
- ทานข้าวได้ปกติ ได้กลิ่น และรับรสได้😳
- รู้สึกหายใจแล้วไม่โล่ง เจ็บตรงกระดูกกลางหน้าอกนิด ๆ หายใจแล้วติด ๆ ไม่โล่ง😰
📍20.00📍เดินทางไปแอดมิทที่ รพ 🚘🧍🏻‍♀️
📍2.30📍ไข้ขึ้นสูง กินพารา 1 เม็ด
📌8 มิ.ย.64 📌
📍9.35📍ท้องเสีย ไม่มาก🚽
📍10.40📍ไอ มีเสมหะ มีเลือด 1 ครั้ง 😮‍💨
🥴ตอนเห็นเสมหะมีเลือดก็ตกใจ 😫 คิดในใจว่า “ship หายละ นี่มันไม่ใช่เล่น ๆ นะเนี่ย 😱 ”
ด้วยความที่พื้นฐานเป็นคนแข็งแรง ทั้งทรหดอดทน ถึก อึด และไม่ค่อยป่วย
เคยนอน รพ ครั้งสุดท้าย 👧🏻 🛌 เมื่อตอนอยู่ ป3 เป็นไข้เลือดออก หลังจากนั้นไม่เคยนอน รพ อีกเลย พอเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติมากขึ้น ก็เริ่มกังวลมากขึ้น 🤕🧟‍♂️
📍เช้าตื่นมาเหมือนเจ็บหน้าอกข้างขวา 💔
ตามแนวกระดูกกลางอก❤️‍🩹
ซ้าย กับ ขวา รู้สึกต่างกัน💔
รู้สึกไม่ปกติ❤️‍🩹
ความรู้สึก อยากไอ แล้วให้อาเจียนออกมา 🤮
📍หลังมื้อเที่ยงนอนได้ 3 ชม สบายขึ้น 🥱😴
แต่ยังปวดหัว 😵
📍บ่ายเหมือนเจ็บหน้าอกตรงกลางเวลาหายใจ(เปลี่ยนที่เจ็บ)❤️‍🩹
📍16.30 📍ออกกำลังกายเบา ๆ 30 นาที 🧘🏻‍♀️
รู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะ เหมือนอาการหายโดยไม่ได้กินยาแก้ไข้ 😊
📍19.00 📍พารา 1 เม็ด 💊
📍20.00 📍เริ่มยา💊💉🧪🧫🩸🩺🩹
- ฟลาวิพิราเวีย 9 เม็ด/มื้อ (เช้า, เย็น)
- ยาลดน้ำมูก
- ยาลดอาเจียน
- ยาแก้ไอ
- ยาขับเสมหะ
- สเตียรอยด์ แบบฉีดเข้าเส้นป้องกันปอดอักเสบ💉
📌9 มิ.ย.64 - 10 มิย 64📌
- สบายตัวขึ้น😄
- ออกกำลังกายทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง🧘🏻‍♀️
- มีการปรับยาลดลง ตามผลเลือด กับ XRay ปอดที่ดีขึ้น💚
📌11 มิ.ย.64 📌หลังจากปรับลดยาลง
- XRay ปอดดูขาวขึ้น
- ผลเลือดกลับมาไม่ดี
- ปรับยาเสตียรอยด์ เป็น Methyl Prednisolone 100 ml ให้ทางเส้น 1 ชม เช้า, เย็น
- ฉีดยาละลายลิ่มเลือด Claxaine ทางหน้าท้อง ทุกเช้า
- ยากิน : ฟลาวิพิราเวียร์, ยาแก้ไอ, ยาลดน้ำมูก, ยาละลายเสมหะ
- ยังออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง ทุกวัน🧘🏻‍♀️
- คุณหมอบอกให้เน้นนอนคว่ำ ให้ปอดขยายตัวได้ 😴🫁
📌12 มิ.ย.64📌
- ออกกำลังกายไม่ไหว แค่ยืนกางแขนก็หน้ามืดเลย 😵‍💫
- ช่วงบ่ายแก่ ๆ กลับมามีไข้ 38.8🤒
- ปวดตามแนวต่อมน้ำเหลืองที่คอ ด้านซ้าย และขวา หน้าคอ และหลังคอ😮‍💨
📌13 มิ.ย.64📌
- ปรับยาฟลาวิพิราเวียมาเป็นแบบให้ทางเส้นแทน Covifor INJ (Remdesvir) 100 ml / 1 ชม เช้า, เย็น
- ให้ยาฆ่าเชื้อ Cefepime INJ 1 g เช้า
- เปลี่ยนยาเม็ดต้านไวรัสเป็นสีส้มอ่อน 4 เม็ด
- ยาถ่ายพยาธิสีขาว 2 เม็ด ?? (ไม่รู้ฟังผิดไหม แต่คิดว่าไม่ผิดนะ)
- เก็บปัสสาวะ
📌14 มิ.ย.64 📌
- ปรับเพิ่มยาฆ่าเชื้อ กับ
- ยาละลายลิ่มเลือด Claxine ฉีดที่หน้าท้อง เป็นเช้า เย็น (จิ้มพุงทุกเช้า เย็น 😅🤰🏻)
📌16 มิ.ย.64 📌
- ตอนเช้าปรับลดสเตียรอยด์ มาเป็นการฉีดเข้าเส้นแทนการหยด (Methyl Prednisolone) วันละ 1 ครั้ ง
ดังนั้น ยาทางเส้น ที่หยดเช้าเย็นเหลือ 2 ตัว
1. ยาต้านไวรัส
2. ยาฆ่าเชื้อ
สรุปโดยรวมระหว่างการรักษาตัว 7-23 มิ.ย. 64 (16 วัน) ให้เข้าใจง่าย ๆ 😉
1. หลังจากเริ่มยาไป 1-2 วัน อาการดีขึ้น จึงเริ่มลดระดับยา 😌
2. หลังลดระดับยา ปรากฎว่า มีไข้ ปอดเริ่มขาว ผลเลือดกลับมาไม่ดี จึงเพิ่มยากลับเข้าไปในระดับสูงเต็มพิกัด 🤔
3. ระหว่างการให้ยาระดับสูง เอ็กซ์เรย์ปอดและตรวจเลือดคู่กันไป จนครบกำหนดการให้ยา และลดระดับยาลงมา จนกระทั่งออกจาก รพ และมียามากินต่อที่บ้าน 😑
4. วันที่เข้า รพ พยาบาลเปิดเส้นแขนคาไว้ สำหรับให้ยา 💪🏻
- เส้นที่เปิดครั้งแรก ใช้ได้ประมาณ 8 วัน เนื่องจากเพิ่งเปิดเป็นครั้งแรก และการให้ยาในช่วงแรกยังไม่มาก 😊
- หลังจากนั้นเปลี่ยนเส้นเพื่อให้ยา ซึ่งอายุการใช้งานของเส้นที่เปลี่ยนในรอบหลัง ๆ สั้นลงเรื่อย ๆ เหลือแค่ 1-2 วัน ต่อการเปิดเส้นใหม่ 1 ครั้ง บางวันเช้าเปิดเส้นใหม่ เย็นเปิดใหม่อีกรอบ 😅
- ส่วนตัวก็พยายามถนอมเส้นมาก ไม่ใช้แขนที่มีเส้น ไม่ให้เกิดแรงต้าน แต่เส้นก็แตกบ่อย บวม แดง เจ็บ ตอนให้ยาพยาบาลอธิบายว่า เกิดจากการใช้งานของเส้นเองด้วย เพราะการที่เราให้ยามาก ๆ เป็นเวลานาน ๆ เส้นก็จะแตกง่ายขึ้นเรื่อย ๆ จะไม่เหมือนการเปิดเส้นครั้งแรก 😟
การใช้ชีวิต อารมณ์ ความรู้สึก และความรู้ ระหว่างการรักษาตัวที่ รพ ที่อยู่กับตัวเอง 16 วัน
1. พอรู้ตัวว่าติดโควิด ก็รู้สึกหายใจติด เจ็บหน้าอกทันที 55555 😄อันนี้ก็ไม่รู้อุปทานหรือเปล่า . . . แต่สุดท้าย หายใจไม่โล่ง รู้สึกติดที่กลางหน้าอก และ
การเจ็บย้ายตำแหน่งได้ สามารถบอกได้ชัดเจน 😅
2. มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด 🤢
- กังวลเรื่องปอด กับสุขภาพ 🫁ไม่อยากมีชีวิตที่เหลืออยู่แบบออด ๆ แอด ๆ และไม่อยากเป็นภาระให้ใครต้องมาดูแล อยากรักษาตัวให้หายดี แล้วทำหน้าที่ดูแลคนอื่นมากกว่า🥰
- กังวลว่าคนรอบข้างจะติดจากเรา สามี 🤠แม่บ้าน 🤦🏻‍♀️ ถ้าคนอื่นติดจากเรามันจะมีผลกระทบต่อวงกว้างออกไปอีก รัศมีมันจะกว้างขึ้น🤷🏻‍♀️
- กังวลว่าเรื่องเก่ายังเคลียร์ไม่จบ ยังมีเรื่องใหม่ที่ใหญ่ออกมาอีก👵🏼 คุณแม่เพิ่งเสียไป ยังไหว้ไม่ครบ 49 วัน ก็เกิดเหตุการณ์คุณพ่อหกล้ม 👴🏻หกล้มยังไม่พอ สรุปยังมาติดโควิด 🤦🏻‍♀️ติดต่อกัน 4 คน ในครอบครัว (พ่อ 👴🏻พี่ชาย 2 คน 🙍🏻‍♂️🙍🏻‍♂️และตัวเอง🙎🏻‍♀️) ตอนนั้นก็ท้อเหมือนกัน รู้สึกน้อยใจชีวิต รู้สึกเสียใจ💔
- กังวลกับค่ารักษาพยาบาลของตัวเองด้วย 💳เพราะที่บ้านไม่เอาเรา 🙅🏻‍♀️ไม่ออกค่ารักษาพยาบาลให้ ประกันก็ไม่ได้ทำ คือ ติดจากพ่อ ติดจากการไปช่วยดูแล แต่ต้องออกเงินรักษาเอง ในขณะที่ของพ่อกับพี่ชาย พี่สะใภ้ทำประกันให้ และออกค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ตัวเราถูกลอยแพออกมา (ตั้งนานหลายปีแล้ว) มันเป็นความรู้สึกน้อยใจในชีวิต 💔 และรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย 🤷🏻‍♀️ . . . พอดีตัวเรามีปัญหากับคนในครอบครัว ที่บ้าน (พ่อ พี่ชาย กับพี่สะใภ้) ไม่เอาเรา กับคุณแม่ ลอยแพเราสองคนออกมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ และค่าใช้จ่ายทุกอย่างของคุณแม่มาหลายปี ให้เราดูแลแม่เอง ทำเองทุกอย่าง และสุดท้ายให้เราออกเงินเองด้วยทุกอย่าง . . . คือ มันก็สุด ๆ จริง ๆ 🤦🏻‍♀️
- แต่สุดท้ายคุณพ่อสามีบอกว่า ออกค่ารักษาพยาบาลให้ ให้รักษาตัวจนหายดี ก็สบายใจขึ้น แต่ตอนนั้นก็กลุ้มใจกับค่ารักษาพยาบาลอยู่ดี
3. ความกังวลเริ่มหมดไป 👻 เมื่อสังขารไม่ไหว มันก็จะเหลือแค่ความกังวลเกี่ยวกับร่างกายเราแค่นั้น ร่างกายไหว จะทำอะไร ก็รีบทำช่วงนั้น พอร่างกายไม่ไหว ก็ต้องนอนพัก ตื่นมาก็เช็คสภาพตัวเองตลอดว่าดีขึ้นหรือแย่ลง พยายามกินให้เยอะ ดื่มน้ำเยอะ ๆ นอนให้เยอะ และออกกำลังกายบริหารปอด 😙
4. ตั้งใจไว้เลยว่า ถ้ารักษาหาย ออกไปจะเป็นคนดี เป็นคนที่มีประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น รู้สึกว่าไม่กล้าเป็นคนไม่ดีเลยจริง ๆ 🙏🏻🙇🏻‍♀️ เดิมก็พยายามจะเป็นคนดีอยู่แล้ว พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ต้องทบทวนชีวิตให้มากขึ้น 🍃🍂
5. รักษาไปจนจบคอร์ส ทุกอย่างดีขึ้น และเริ่มมีแนวโน้มที่จะได้กลับบ้าน 🤔ตอนนี้กลับมากังวลใหม่อีกรอบ เพราะครบช่วง 14 วันพอดี ที่สามีกับแม่บ้านต้องกักตัว และสวอบใหม่ ก็กังวลอยู่หลายวัน คอยเช็คอาการสามีและแม่บ้านอยู่ตลอด สุดท้ายต้องรอลุ้นผลสวอบรอบสุดท้ายอีก 😧. . . กังวลมากเลยขอบอก เพราะถ้าติดขึ้นมา ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีคนเริ่มนับหนึ่งใหม่ 😥. . . สุดท้ายผลออกมา ไม่ติดทั้ง 2 คน เฮ้อ! โล่งอกมากเลย👏🏻👏🏻👏🏻😁
6. 🚘วันออกจาก รพ ขับรถกลับบ้านมาด้วยความมึน ๆ อึน ๆ รู้สึกว่าตัวเองขับรถกลับบ้านมาได้นี่ก็เก่งมากละ 5555 🤗. . . ค่อย ๆ ขับ ตั้งสติมาเลย เพราะกลัวพลาด ถ้าขืนรถชนตอนขับกลับนี่ก็คงไม่ไหวจะเคลียร์ 😬
7. กลับมาบ้านต้องกักตัว กินยา สังเกตอาการอีก 7 วัน แล้วไปพบหมอ XRay ตามนัดจ้า 😶‍🌫️
โฆษณา