28/6/64
เมืองไทยมืดหม่น กับทฤษฎีผลประโยชน์
บทความนี้ อยากเขียนเพื่อให้กำลังใจกับนักลงทุนในตลาดหุ้น รวมถึงตัวเองด้วย
บอกเลยความนักลงทุนรวมทั้งผม ส่วนใหญ่ อาจมีความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง กับตลาดหุ้นไทย คล้ายๆกับผู้ประกอบการร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว คือมันดูมืดมน วัคซีนไม่มา ขณะที่การระบาดของ covid-19 มันเยอะขึ้นๆ จากที่เคยภาคภูมิใจที่เคยควบคุมโรคดีที่สุดในโลกเป็นประเทศตัวอย่างของ WHO กำลังจะกลายเป็นประเทศที่น่าอับอาย ตัวเลขระบาดรายวันสูงมากกว่า 5000 รายต่อวัน แถมมีการตัดการทำมาหากินของคนไทยอีก ผมรู้สึกกระเทือนใจที่มีคนไทย ฆ่าตัวตายเพราะตกงานไม่มีรายได้ ในขณะการระบาดรุนแรงในปัจจุบันเริ่มกระทบกับการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง โรงพยาบาลสนามเริ่มเต็ม ไอซียูและโรงพยาบาลสนามไม่เพียงพอ
ผมว่า covid-19 มันเป็นโรคที่มาจัดระเบียบ และเปิดโปงหน้ากากของมนุษย์ มันจะมาจัดการพวกอวดดี ประมาท บางโรงงาน ตลาด หรือแคมป์คนงานที่มีระบบการจัดการไม่ดี โรค covid-19 ก็มาจัดการซะ
ที่ผมทราบข่าวมาคือ มีนโยบาย ตรวจน้อยเจอน้อย และโรงพยาบาลปฏิเสธการตรวจ covid-19 เพราะถ้าตรวจเจอโรงพยาบาลนั้นต้องรับผิดชอบในการหาเตียงให้ผู้ป่วย ถ้าเป็นจริง covid-19 อนาถแล้ว ความคิดแบบนี้ยิ่งน่าอนาถ
covid-19 มันอยากให้ยอมรับความจริงซะ และต่อสู้กับมัน
สำหรับในตลาดหุ้น ผมมองว่า มันก็ยังอยู่ในกรอบของขาขึ้น ฟังคุณพิชัย จาวลาพูด ท่านบอกว่าถ้ามีการปรับฐาน ก็ปรับไม่แรง แต่ในที่สุดมันก็ขึ้น และเป้าหมายท่านมองไว้ถึง 2000-2200 จุด และถ้าถึง 1800 จุดให้มีความระมัดระวัง
ในขณะที่ทุกคนส่วนใหญ่มีความกลัว สิ้นหวัง จะมีคนกลุ่มน้อยที่กล้าสวนกระแส และร่ำรวย ส่วนคนส่วนใหญ่ที่ไม่มั่นใจและกลัว จะขาดทุนหรือไม่รวย ดังนั้นเราควรอยู่ที่ศรัทธา จังหวะหุ้นขึ้นจะมีเพียง 20% จังหวะหุ้นลงจะมีถึง 80% อันนี้เรื่องธรรมดามาก
ถ้าดูทางเทคนิค มันก็ยังอยู่ในกรอบขาขึ้นในเวฟ 3
เป้าหมายส่วนตัวผมคือ 1650 ก่อน ส่วนตัวแนวรับอยู่ที่ 1560 แนวรับถัดไปน่าจะอยู่ที่เส้นเฉลี่ย 120 วัน ประมาณ 1530 โดยส่วนตัวให้ดูหุ้นรายตัวด้วย หาจังหวะซื้ออย่างใจเย็นช่วงกลับตัว ไม่เสียกำลังใจ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
