เห็นความลังเลใจไม่ยอมปลดนิชิโนะเสียที ของพล.ต.อ.สมยศ ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรในใจ ผลงานแบบนี้ ฟอร์มแบบนี้ มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเก็บไว้เป็นโค้ชต่อ? วิเคราะห์บอลจริงจังขอตั้งคำถามไว้
ผมประกาศตัวอย่างชัดเจน ตั้งแต่ไทยแพ้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้วครับ ว่าอากิระ นิชิโนะ ต้องออกไป
ผมไม่ได้เกลียดนิชิโนะเป็นการส่วนตัว แต่ในเมื่อบรรทัดฐานที่นายกฯ สมาคมตั้งเอาไว้ คือผู้จัดการทีมคนไหน ที่ไม่สามารถทำทีมชาติก้าวหน้าได้ ต้องโดนปลดออก ก็ควรทำแบบนั้นกับทุกคน ไม่ใช่แค่เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือมิโลวาน ราเยวัช แต่ต้องรวมถึงนิชิโนะด้วย
ที่ผ่านมา ผมปกป้องคุณสมยศ พุ่มพันธ์ม่วงมาตลอด ว่าอย่างน้อยเขาก็จัดสรรระบบสมาคมได้ดีกว่ายุคบังยี มีความโปร่งใสมากขึ้น
ใช่ เรื่องความโปร่งใสก็สำคัญ แต่เราปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่าภารกิจอันดับหนึ่งที่แท้จริงของสมาคมฟุตบอล ก็คือ "ฟุตบอล" ตามชื่อสมาคมเลย ถ้าคุณทำให้ฟุตบอลทีมชาติพัฒนาไม่ได้ แล้วมันจะมีความหมายอะไร
ความนิยมของฟุตบอลในประเทศ มันมีจุดเริ่มต้นจากทีมชาติชุดใหญ่ทั้งนั้น เมื่อทีมชาติชุดใหญ่ผลงานดี อานิสงส์ก็กระจายไปสู่ฟุตบอลลีก และฟุตบอลระดับเยาวชนด้วย คนที่ปกติดูบอลบ้าง ไม่ดูบอลบ้าง ก็หันมาเข้าสนามมากขึ้น หันมาดูถ่ายทอดสดมากขึ้น
แต่เมื่อทีมชาติชุดใหญ่พัง ความนิยมก็เสื่อมถอย ไม่สามารถดึงแฟนบอลกลุ่มใหม่ๆ ให้มาสนใจฟุตบอลไทยได้อีก
ถ้า พล.ต.อ. สมยศ ยังเก็บนิชิโนะไว้ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว มันเหมือนคุณแค่ถือทิฐิอยากจะพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูกแค่นั้น โดยไม่ได้ดูสภาพความเป็นจริงเลยว่า ทีมชาติไทยตอนนี้ กลายเป็นตัวโจ๊กของอาเซียนไปแล้ว ลองเข้าไปในเพจข่าวเวียดนามสิครับ เราโดนล้อสนุกเลยนะครับ
จากทีมแชมป์กลุ่มแบบไร้พ่าย เมื่อ 4 ปีก่อน กลายมาเป็น "อันดับ 4" หรือรองบ๊วยของกลุ่ม และเป็นทีมเดียวที่เสียแต้มให้บ๊วยอินโดนีเซีย
ผลงานแบบนี้ยังจะแก้ตัวอะไรได้อีกหรือ ถ้าหากทุกความผิดพลาด เราหาข้ออ้างไปซะหมด โลกนี้ก็คงไม่มีคนทำผิดกันแล้วล่ะ
นี่ไม่ใช่อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น แต่เมื่อหักลบแล้ว ไม่มีชอยส์อื่น ที่ดีไปกว่าการปลดนิชิโนะอีกแล้ว และนี่คือเหตุผลของผมครับ
[ 1- ไม่ชนะใคร 8 เกมติดต่อกัน ]
นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ที่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไม่ชนะใคร 8 เกมติดต่อกัน โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในช่วงปี 1996 คาบปี 1997 ซึ่งเฮดโค้ชชุดนั้นคือ อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ จากนั้นมา จะดีจะร้าย ทีมชาติไทยก็ต้องมีชนะสลับแพ้ คือไปแพ้ทีมใหญ่ๆ ในเอเชีย แต่พอมาเจอทีมอาเซียน ก็เก็บชัยชนะได้
แต่ในยุคนิชิโนะ รอยแผล 25 ปีก่อน ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อไทยไม่ชนะใครเลย
- แพ้ มาเลเซีย 2-1
- เสมอ เวียดนาม 0-0
- แพ้ โอมาน 1-0
- เสมอ ทาจิกิสถาน 2-2
- แพ้ อุซเบกิสถาน 4-1
- เสมอ อินโดนีเซีย 2-2
- แพ้ ยูเออี 3-1
- แพ้ มาเลเซีย 1-0
ในยุคของอาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ที่เราไม่ชนะ 8 นัด เราเจอคู่แข่งคือ บัลแกเรีย, ซาอุฯ , อิหร่าน, อิรัก, ญี่ปุ่น, สวีเดน 2 นัด และ เกาหลีใต้ คือดูจากชื่อชั้นของคู่ต่อสู้ ก็พอเข้าใจได้ ว่าทำไมเราไม่ชนะ พวกนั้นคือระดับท็อปจริงๆ
แต่ในคราวนี้ ไม่ใช่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซาอุฯ แต่เป็น มาเลเซียกับอินโดนีเซีย ถามหน่อยว่าเราจะเอาอะไรมาพอใจหรือ
อินโดนีเซียที่โดนคู่แข่งยิง 4-5 ลูกทุกเกม เสมอไทย 2-2 และมาเลเซียที่โดนยูเออีตบ 4-0 เอาชนะไทย 2 เกมซ้อน คือผมคิดว่าแฟนบอลไทยไม่ได้ขอร้องอะไรมากนะ แค่ชนะทีมจากชาติอาเซียน ไม่ตกต่ำขนาดตามหลังเวียดนามกับมาเลเซียแบบนี้ ให้กันไม่ได้เลยหรือ
[ 2- จัดตัวเละ ]
การเลือกผู้เล่นของนิชิโนะ เต็มไปด้วยคำถามสารพัด ซึ่งหาคนตอบไม่ได้ ว่าทำไมเขาเลือกแบบนั้น เออร์เนสโต้ ภูมิภา ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าในลีกเล่นอย่างไร บุกอย่างเดียว เกมรับไม่เอาเลย คือในลีกอาจจะพอไหว แต่พอมาในเกมทีมชาติที่ต้องการความละเอียดมากๆ เขาเป็นรูรั่วที่มีส่วนให้ไทยเสียประตูทุกนัด นัดล่าสุดก็ทำเสียจุดโทษ
โค้ชธง-ธงชัย สุขโกกี แนะนำว่า เออร์เนสโต้ ถ้าจะเล่นกับทีมชาติต้องดันไปเล่นปีกเลย เอามายืนแบ็กซ้ายไม่ได้ เพราะในระบบหลัง 4 คน หน้าที่หลักของแบ็กซ้ายคือต้องป้องกันดีก่อน แต่เออร์เนสโต้แค่ประกบหนึ่งต่อหนึ่งยังเอาไม่อยู่ มีแต่จะเป็นบ่อน้ำมันมากกว่า
หรือตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ก็เกิดคำถามว่า ทำไมพรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังทีมรองแชมป์ไทยลีก ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว (5 เกมหลังสุดในลีกของบุรีรัมย์ เก็บคลีนชีทไป 5 นัด) แต่เลือกใช้งาน 2 เซ็นเตอร์แบ็ก อย่างสุพรรณ ทองสงค์ (สุพรรณบุรี - รอดตกชั้นวันสุดท้าย) กับ สถาพร แดงสี (ตราด-ตกชั้น) มีเหตุผลอะไรที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆไหม ว่าทำไมต้องเลือก 2 คนนี้ก่อน
ในเกมกับมาเลเซีย เออร์เนสโต้เจ็บ และด้วยความที่ตัวสำรองไม่มีแบ็กซ้าย เพราะนิชิโนะไม่ใส่มาเลยสักคน ถ้าคิดด้วยคอมม่อนเซนส์ ก็ควรจะเอาพรรษาลงไปยืนเซ็นเตอร์คู่กับสุพรรณซะ แล้วถ่างสถาพรไปยืนแบ็กซ้ายแทน แต่นิชิโนะ เลือกถอยฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ไปเล่นเซ็นเตอร์แทนซะงั้น แล้วเอาสารัช อยู่เย็นมาเล่นกลางแทน
คือการเอากองกลางมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก คุณจะใช้ได้ ก็ต่อเมื่อคุณคิดว่าเซ็นเตอร์แบ็กสำรอง ฝีเท้าไม่ไหวจริงๆ เหมือนตอนแรกๆ ที่คล็อปป์เลือกใช้ฟาบินโญ่มายืนเซ็นเตอร์ แทนที่จะใช้รีส วิลเลียมส์ ซึ่งนี่แหละ คือสิ่งที่นิชิโนะมองเห็นในตัวพรรษา ว่าถ้าจะให้พรรษาลง ใช้ฐิติพันธ์เล่นซะยังดีกว่า
ช่วงท้ายเกมกับมาเลเซีย ผมดูอย่างอึดอัดใจมากเลย เล่นสะเปะสะปะเหมือนคนเมาหมัดไปหมดแล้ว นิชิโนะยิ่งแก้เกมยิ่งเละ ไม่มีไอเดียในการเข้าไปในเขตโทษคู่แข่งเลยด้วยซ้ำ ไม่แปลกใจเลยจริงๆที่สุดท้ายจบด้วยความพ่ายแพ้ คือทรงมันไม่มีเลย
ยังไม่นับการจัดตัวอันน่าขัดใจ อีกมาก ในเกมก่อนหน้านี้ เช่นการเปลี่ยนแผงหลัง 3 จาก 4 ตัว จากเกมชนะยูเออี มาแพ้มาเลเซีย ส่งเอาเอเลียส ดอเลาะที่ไม่เคยเล่นทีมชาติแม้แต่เกมเดียวลงตัวจริง
ตั้งแต่อุ่นเครื่องมา 3 นัด บวกกับอีก 3 เกมของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นิชิโนะหา 11 ตัวจริง ที่ดีที่สุดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องชนะเลย แค่หาไลน์อัพ และแผนที่เหมาะกับทีมชาติเขายังทำไม่ได้เลย
การจัดตัวเหมือนลองทีมตลอดเวลา นี่ลองจนเราตกรอบเป็นรองบ๊วยไปแล้วนะ จะให้ลองไปอีกถึงไหน
[ 3- คุณภาพนักเตะไทยก็ได้แค่นี้ - หรอ? ใช้งานหรือยังล่ะ ]
คนที่เคยด่าซิโก้เอาไว้ว่าใช้ระบบลูกรัก ใช้เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ใช้มงคล ทศไกร ใช้ ธนา ชะนะบุตร มาคราวนี้ เห็นนิชิโนะทำตอนใส่เอกนิษฐ์ ปัญญา ลงเล่นตัวจริงใน 2 เกมแรก ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ซีซั่นนี้เอกนิษฐ์ลงครบ 90 นาที แค่ 4 นัด แต่นิชิโนะก็ยังไว้ใจ ให้ลงเล่นในสองเกมที่สำคัญที่สุด
ถ้าวิเคราะห์ว่าทำไม นิชิโนะ ถึงต้องใช้เอกนิษฐ์ คำตอบคือ เขาไม่ได้สนใจฟุตบอลไทยมากพอ ดังนั้นก็เลยใช้ตัวผู้เล่นที่คุ้นเคย ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเพลย์เซฟมากกว่า
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ดาวแอสซิสต์ไทยลีก คงได้เห็นในเกมกับมาเลเซียไปแล้วว่าจี๊ดจ๊าดและสร้างประโยชน์แค่ไหน เช่นเดียวกับ ฉัตรชัย บุตรพรหม นายทวารที่เสียประตูน้อยสุดในลีก พอได้ลงในเกมกับมาเลเซีย ก็เล่นได้ดีมาก และเกือบเซฟจุดโทษได้ด้วย ถ้าไม่โดนประชาชนด่า สองคนนี้จะได้ลงไหม
แต่ก็มีอีกหลายคน ที่พลาดโอกาสไป ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม กองหน้าคนไทยยิงเยอะสุดในลีก ไม่ได้เล่นฟุตบอลโลกแม้แต่นาทีเดียว ทั้งๆที่แนวรุกไทยฝืดขนาดนี้เนี่ยนะ? หรือสันติภาพ จันทร์หง่อม แบ็กขวาที่สม่ำเสมอที่สุดในฤดูกาลนี้ ก็ไม่ได้ลงเช่นกัน
สมาคมฯ ยอมจ่ายค่าเดินทางค่าโรงแรม ให้ผู้เล่นทั้งหมด 42 คน เอาไปยูเออีด้วย แต่นิชิโนะใช้งานจริงๆ ก็ไม่กี่คน คนเก่งๆที่เล่นดีมากๆในไทยลีก ไม่ได้รับโอกาสเลย
อย่าบอกเลยว่า คุณภาพนักเตะไทยได้แค่นี้ คือผมยอมรับได้นะ ถ้าบอกว่าคุณภาพเราด้อยกว่ายูเออี แต่ถามว่าแม้แต่อินโดฯ กับ มาเลเซีย เราก็คุณภาพด้อยกว่าเขาหรอ? ทั้งๆที่ ไทยลีก มีค่าสัมประสิทธิ์เอเอฟซี อันดับหนึ่งในอาเซียน แต่ทำไมผลผลิตจากไทยลีก เอามารวมกันในทีมชาติแล้วเละกว่าใครเพื่อน
คำตอบง่ายๆ คือโค้ชดึงศักยภาพของนักเตะไม่ได้ไง ถ้ามาโทษแต่นักเตะ แล้วเราจะจ้างโค้ชแพงๆเดือนละ 2-3 ล้านบาททำไม รวมแล้วที่จ่ายไปก็หลายสิบล้านแล้ว ที่เราจ่ายแพงๆ ก็เพื่อคาดหวังให้โค้ชแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วดึงศักยภาพของตัวที่มีอยู่ออกมาได้ ไม่ใช่หรือ
[ 4- นิชิโนะ ปัจจุบันอายุ 66 ปี แล้วนะ ]
อากิระ นิชิโนะ มีอายุ 66 ปีแล้ว ถามจริงๆ ว่าเราใช้คำว่า "ฝากฝังอนาคตระยะยาว" ไว้กับเขาได้อย่างนั้นหรือ อย่างมากอีก 1-2 ปี เขาก็คงรีไทร์แล้ว คำถามคือ เราจะรออะไรล่ะ ในเมื่ออีกไม่นานเขาก็ต้องไปอยู่ดี ทำไมไม่เปลี่ยนวันนี้เลย
เมื่อผลงานเป็นแบบนี้ ก็เหมาะสมแล้วที่จะปลดออก แล้วหาโค้ชคนใหม่แทน ยิ่งในเทรนด์ฟุตบอลปัจจุบัน เราเห็นได้เลยว่า มีการทดลองเอาโค้ชคนหนุ่มเข้ามาคุมทีมกันทั้งนั้น คนที่เข้าใจฟุตบอลไทยจริงๆ คนที่มีไอเดียใหม่จริงๆ พร้อมจะพาทีมชาติก้าวไปข้างหน้า
ถ้าพล.ต.อ.สมยศ คิดว่าซิโก้ไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไร ก็ลองคนอื่นดู ประเทศไทยมีโค้ชระดับโปรไลเซนส์ถึง 29 คน เช่น โค้ชแบน-ธชตวัน ศรีปาน, โค้ชโต่ย-ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย, โค้ชอ้น-รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ฯลฯ มีตัวเลือกมากมายจริงๆ หรือถ้าไม่เอาโค้ชไทย ก็รับรองได้ว่า มีโค้ชต่างชาติพร้อมใจส่ง CV มาให้พิจารณาเป็นสิบแน่ๆ
ผมหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ ว่าทำไมต้องไปยึดมั่นกับนิชิโนะขนาดนั้น ทำไมต้องให้โอกาสอีก ทั้งๆที่ทีมตกรอบขนาดนี้ ถ้าจะเริ่มนับหนึ่ง นับกับคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ
หรือว่าสมาคมแค่ไม่อยากจ่ายเงินชดเชยค่าฉีกสัญญา หรือคิดว่าอุตส่าห์จ่ายเงินเดือนไปแล้วสิบๆล้าน จะรู้สึกเสียดายถ้าต้องปลดทั้งๆที่ยังไม่สำเร็จอะไรเลย ถ้าเป็นกรณีนี้ ก็บอกสังคมไปตรงๆเลยก็ได้นะ
[ 5- การให้โอกาสต้องมาพร้อมผลงาน ]
มีคนบอกว่า ถ้าเราเปลี่ยนโค้ชบ่อยๆ แล้วเมื่อไหร่ เราจะหยุดนิ่งอยู่กับใครสักคนได้ ประโยคนี้ ก็มีส่วนจริงอยู่ แต่สิ่งที่จริงกว่า คือการให้โอกาสใครก็ตาม ต้องพอมีหลักฐานว่า เมื่อให้โอกาสไปแล้ว มันมีแนวโน้มจะเวิร์ก
หลังจบยูโร 2012 ฝรั่งเศสแยกทางกับโลรองต์ บลองค์ แล้วแต่งตั้งดิดิเยร์ เดสช็องป์ เป็นเฮดโค้ชแทน รายการแรกของเดสช็องป์คือฟุตบอลโลก 2014 เขาพาทีมจบที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากนั้นยูโร 2016 เดสช็องป์ พาทีมจบรองแชมป์
จะเห็นได้ว่า ผ่านมา 2 ทัวร์นาเมนต์ ก็ยังไม่มีแชมป์ แต่ทำไมสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสถึงให้โอกาสต่อ เพราะเขาเห็นทิศทางที่ดีไง โค้ชรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทีมมีทรง และมีผลงานโอเค ขาดแค่จิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ ที่จะประสบความสำเร็จแค่นั้น และสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์ที่ 3 ฝรั่งเศสก็ได้แชมป์โลก
เช่นเดียวกับอังกฤษ ทำไมให้แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นโค้ชต่อในยูโรครั้งนี้ ก็เพราะในฟุตบอลโลกจบอันดับ 4 ได้น่ะสิ คือการให้โอกาสสามารถทำได้ แต่คุณต้องมีผลงานรองรับด้วย ไม่ใช่ว่าตกรอบไม่เป็นท่า ก็ให้โอกาสกันไปเรื่อยๆ ทำยังกับว่า โลกนี้ไม่มีทรัพยากรบุคคลที่ดีกว่านี้อีกแล้วอย่างนั้นแหละ
[ เอาต์หรือเซฟ? ]
ผมอ่านความเห็นของฝั่ง #เซฟนิชิโนะ เช่นกันนะครับ เหตุผลในมุมนั้นคือ
1- นิชิโนะ พาทีมชาติไทยเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของ u-23 ชิงแชมป์เอเชีย ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (แต่ไม่ได้ไปชิงแชมป์โลก)?
- ผมก็เข้าใจได้นะ แต่กับรายการอื่นๆ อย่างซีเกมส์เขาก็ทำตกรอบแรก หรือทีมชาติชุดใหญ่ เขาก็จบรองบ๊วย หักลบแล้ว ข้อเสียมากกว่าข้อดีครับ
2- ฟอร์มทีมชุดใหญ่ก่อนโควิดถือว่าโอเค?
- อืม โอเค 2 นัด คือเกมชนะอินโดนีเซีย และชนะยูเออี แต่หลังจากนั้นมาก็เริ่มเห็นลางร้าย ตั้งแต่แพ้มาเลเซีย ไปจนเสมอเวียดนาม
3- เจอปัญหาโควิด-19 ตอนเก็บตัว แถมนักเตะตัวหลักถอนหลายคน?
- ก็จริงที่ศักยภาพเราลดลงไป แต่อย่างที่ผมบอก คู่แข่งเขาก็ไม่ได้พร้อมหรอกนะ อย่างเกมกับอินโดนีเซีย เขาส่ง u-23 มาเกินครึ่งทีม กองหลังทั้งแผงของเขา ติดทีมชาติรวมกันไม่ถึง 3 นัด แถมไม่มีลีกให้เล่นมา 1 ปี อินโดนีเซียคือ ทีมที่คนอื่นถลุงกันสนุกสนาน แต่เราชนะไม่ได้ จะโทษเรื่องการขาดหายของตัวหลักอย่างเดียวได้หรือ
โดยรวมก็เข้าใจมุมของคนฝั่งเซฟนิชิโนะนะครับ แต่ในครั้งนี้ผมว่า นิชิโนะเอาต์ สมเหตุสมผลมากกว่า
บทสรุปในเรื่องนี้ ผมว่าโลกฟุตบอลก็แบบนี้ครับ ทุกทีมต้องตามหาโค้ชคนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่เหมาะกับทีมของเราจริงๆ
ทีมระดับโลกล้มเหลว เขาก็ปลดโค้ชกันทั้งนั้น แล้วทำไมนิชิโนะต้องมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นล่ะครับจริงไหม คุณทำทีมไม่ถึงเป้าหมาย ก็เอาคนอื่นมาทำแทน แค่นั้น
ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวของนิชิโนะ เรื่องมาตัวคนเดียวไม่เอาทีมงานมาด้วย เรื่องที่เขาชอบกลับบ้านหลายเดือนติดกัน อันนั้นผมไม่คิดจะก้าวก่าย คุณจะทำอะไรก็ได้ ถ้าคิดว่าดีที่สุด และสามารถไปถึงเป้าหมายได้
นอกสนามคุณจะทำอะไรก็ทำไป แต่ผลงานในสนามจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง และวันนี้ผลการแข่งขันก็เป็นคำตอบของทุกอย่างแล้ว
สำหรับคนที่คาดหวังให้ประเทศไทยอยู่จุดเดิม ได้เท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น ตกรอบก็ไม่เป็นไร ก็สามารถคิดได้นะครับ แต่คุณก็ไปห้ามคนที่เขาอยากเห็นทีมชาติไทย ก้าวหน้าไปมากกว่านี้ไม่ได้เหมือนกัน
ผมคิดว่าแฟนบอลไทยเกือบทุกคน เมื่อเห็นเราจบรองบ๊วยของกลุ่ม เรารู้สึกอับอายนะครับ จากเจ้าอาเซียน จากที่เคยเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย กลายมาเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ให้คนอื่นหัวเราะขบขัน
ยิ่งกว่าความอาย คือความเจ็บปวด จากที่เคยขึ้นไปท้าทายทีมใหญ่ในเอเชีย แต่มาวันนี้ต้องร่วงไปไกลยิ่งกว่าเดิมอีก บวกด้วยอนาคตที่มืดมนหนทาง ไม่รู้จะเห็นแสงสว่างตอนไหน
และถ้าถึงจุดนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังไม่รู้สึกอะไร และไม่ Take Action อะไรสักอย่าง เอาแต่ให้กำลังใจกันเองแบบกลวงๆ โดยมองไม่เห็นปัญหา
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเราจะมีนายกฯ สมาคมไปทำไม
#OUT
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
