Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Kawinwach Thanuntanaset
•
ติดตาม
29 มิ.ย. 2021 เวลา 08:42 • การศึกษา
Ep:2 สภาพคล่อง(Liquidity) และ ความมั่งคั่ง(Wealth)
ในโลกของการเงินมีคำศัพย์อยู่ 2 คำ ที่ผมรู้จักแรกๆเลย คือคำว่า สภาพคล่องและความมั่งคั่ง ผมมองว่าคำสองคำนี้ น่าจะถือได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญเริ่มต้นเลยก็ได้ มาดูความหมายของคำว่า สภาพคล่องและความมั่งคั่งในนิยามของผมกันสักหน่อยนะครับ
สภาพคล่อง (Liquidity) คือ สภาวะที่ชีวิตประจำวันของเรานั้น มีเงิน เหลือกิน เหลือใช้ และเหลือออม ไม่ต้องหยิบยืมใคร
ออมในที่นี้ ถ้าตามสูตรการออมที่ดีขั้นต่ำควรจะอยู่ที่ 10-20% ของรายรับรวม
ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องออมถึง 10-20% ก็ได้นะครับ ส่วนตัวของผมเองเริ่มต้นการออมเงินในจำนวนเงินหลักร้อย ช่วงนั้นหนี้เยอะครับ ค่อยๆใส่ทีละเดือน ทีละเดือน ในตอนนั้นคิดแค่ว่า ออมน้อยก็ได้ออมและน่า ไม่ได้ไปสนใจตัวเงินมากนัก ออมเท่าที่ไหวก็พอ พอเริ่มออมไปเรื่อยจนเงินก้อนเล็กมันดูใหญ่ขึ้นแล้วก็รู้สึกดีต่อใจจริงๆครับ ฮ่าๆ
https://moneycoach.co.th/3main/
ความมั่งคั่ง (Wealth) คือ สภาพคล่องที่สะสม(สั่งสม)จากเงินออมและเก็บไว้ในรูปแบบของสินทรัพย์ต่างๆ เราจะวัดได้จาก มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ์(ความมั่งคั่งสุทธิ์)ครับ
เราจะเห็นได้ว่าความมั่งคั่งของเรานั้น มีผลมาจากสภาพคล่องที่ดีหรือการบริหารเงินที่ดีในแต่ละเดือน
อย่างไรก็ดี สูตรการออมในยุคก่อนๆเราจะบอกว่า
เงินเดือน - รายจ่าย - กินใช้ = เหลือออม (พูดง่ายๆก็คือ จ่ายก่อนค่อยเอาไปเก็บ) แต่ในปัจจุบันนี้เราถูกกระตุ้นด้วยการตลาดใหม่ๆโฆษณาส่วนลดที่เร้าใจ รอบๆตัวของเรา และนั้นก็ทำให้การที่จะถือเงินให้ครบในแต่ละเดือน ตลอดจนบริหารให้เหลือจนมีเงินออมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น
สูตรการออมที่ตัวผมใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ
เงินเดือน - เงินออม - รายจ่าย = กินใช้ในแต่ละเดือน
วิธีที่ผมใช้เป็นประจำจะมีอยู่ 3 วิธี ลองดูกันนะครับ
1. หักออมก่อนใช้จ่ายอัตโนมัติ (ATS)
ระบบธนาคารเดี๋ยวนี้ค่อนข้างที่จะสะดวกกว่าสมัยก่อนเท่าตัวเลยนะครับ จากสมัยก่อนจะฝากเงินแต่ละที เราต้องถือเงินและเดินไปธนาคารพร้อมสมุดบัญชี เดี๋ยวนี้แค่โทรศัพท์เครื่องเดียวก็เรียกได้ว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว
2. สะสมเศษเหรียญ
ทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน จะมีบ้างวันที่ผมเหลือเศษเงินที่ใช้จากการซื้อกาแฟ ค่าข้าวและค่าขนม นำมาหยอดกระปุก 2 บาท 5 บาท 10 บาท ภายใน2-3 เดือน เศษเงินเล็กๆ หลักหน่วย เติบโตมาจนเป็นหลักร้อยและหลักพัน และเศษเหรียญเล็กนี้ก็กลับกลายมาเป็นเงินสมทบ เงินออมของเราได้เป็นอย่างดีเลยละครับ
3. หักภาษี ทุกครั้งเวลาที่ซื้อของฟุ่มเฟือย
เราสามารถฟุ่มเฟือยได้นะครับ มนุษย์เราก็ต้องมีของที่อยากมีอยากได้เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่การฟุ่มเฟือยของเราจะต้องไม่เกินตัวนะครับอันนี้สำคัญเลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอยากซื้อโทรศัพท์ใหม่ในราคา 30,000 บาท ผมก็หักภาษี 50 บาท 100 บาท หรือจนๆหน่อยก็อาจจะเป็น 10 บาทหรือ 20 บาท เอาไปหลอดกระปุก อันนี้แล้วแต่เราเลยครับ
ในโลกของการเงินมีคำพื้นฐานอยู่ 2 คำ นั้นก็คือคำว่า
สภาพคล่องและความมั่งคั่ง พูดง่ายๆก็คือ มีเงินเหลือกิน เหลือใช้ และเหลือออม จากนั้นก็ค่อยๆสะสมจนมีความมั่งคั่ง และทั้งหมดนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากคำว่า “การออม”
ดังคำในหนังสือ money 101 กล่าวไว้ว่า “เริ่มเหลือ ก็เริ่มรวย”
ลองดูกันนะครับ 😁😁
https://moneycoach.co.th/3main/
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย