30 มิ.ย. 2021 เวลา 11:50 • ธุรกิจ
รู้จัก Vinamilk ผู้ผลิตนมสัญชาติเวียดนาม ที่ใหญ่กว่า CPF
1
รู้ไหมว่า บริษัทนมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามมีมูลค่ามากกว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรในประเทศไทย
2
บริษัทนี้ชื่อว่า “Vinamilk” ที่น่าสนใจคือ
หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Vinamilk คือบริษัทของคนไทยอีกด้วย
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Vinamilk หรือชื่อเต็มคือ Vietnam Dairy Products Joint Stock Company ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 โดยบริษัท Southern Coffee-Dairy ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลที่ไปซื้อกิจการมาจากบริษัทเอกชนอีกที
Vinamilk เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2003
โดยปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Vinamilk คือ
- กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของเวียดนาม (State Capital Investment Corporation) ถือหุ้นอยู่ 36.0%
- กลุ่มบริษัท F&N ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นอยู่ 20.0%
- Jardine บริษัทโฮลดิงจากสิงคโปร์ ถือหุ้นอยู่ 10.6%
- ผู้ถือหุ้นรายย่อย ถือหุ้นอยู่ 33.4%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติที่สนใจลงทุนในหุ้น Vinamilk ไม่สามารถซื้อหุ้นของบริษัทได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Holding Limit) ให้ถือได้ไม่เกิน 49%
1
ที่เป็นแบบนี้ เพราะรัฐบาลเวียดนามเกรงว่า ถ้านักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อาจทำให้เข้ามามีอิทธิพลกับการดำเนินงานของบริษัทมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์นี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้วในปี 2016 โดยอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถือหุ้นในบริษัทได้สูงสุด 100%
แต่ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่สุดก็ยังเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของเวียดนามอยู่ดี
 
ปัจจุบัน Vinamilk ทำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนมรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีโรงงานผลิตนม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 15 แห่ง กระจายอยู่ทั้งในเวียดนาม กัมพูชา และสหรัฐอเมริกา
3
สินค้าของบริษัทที่ผลิตออกมาขายนั้นมีมากกว่า 250 รายการ เช่น นมพร้อมดื่ม, นมผง, โยเกิร์ต, นมข้นหวาน, ครีมเทียมข้นหวาน, ไอศกรีม, ชีส, นมถั่วเหลือง
รู้ไหมว่า ผลิตภัณฑ์นมหลายชนิดของ Vinamilk ครองส่วนแบ่งในสัดส่วนที่สูงในเวียดนาม เช่น
โยเกิร์ต 83%
นมข้น 79%
นมเหลว 59%
นมผง 42%
Cr.bangkokpost
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Vinamilk มีความได้เปรียบในการทำธุรกิจคือ การที่บริษัททำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนม ครอบคลุม “ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” โดยเริ่มตั้งแต่
3
- มีฟาร์มโคนมของตัวเอง รวมไปถึงการทำสัญญาซื้อขายนมจากฟาร์มจากเครือข่ายเกษตรกร
- มีโรงงานผลิตเป็นของตนเองหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- มีระบบกระจายสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้วางขายได้หลายช่องทาง ตั้งแต่ร้านค้าปลีกดั้งเดิม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โรงแรม และร้านอาหาร
ปัจจุบัน สินค้าของบริษัทมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศถึง 55 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วยที่ Vinamilk เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2016
รายได้และกำไรของ Vinamilk
ปี 2018 รายได้ 73,600 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 79,000 ล้านบาท กำไร 14,800 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 83,600 ล้านบาท กำไร 15,700 ล้านบาท
แม้ว่าปีที่ผ่านมา วิกฤติโควิด 19 จะทำให้เศรษฐกิจเวียดนามโตได้เพียง 2.9% ต่ำสุดในช่วงปี 2011-2020 แต่ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทก็ยังสามารถเติบโตได้ประมาณ 6%
1
ซึ่งบริษัทก็ให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้เริ่มหันมาบริโภคนมและโยเกิร์ตกันมากขึ้น
 
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ในปี 2019 ข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่าเวียดนาม เป็นประเทศที่คนบริโภคนมยังถือว่าอยู่ในอัตราต่ำ เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ
1
- คนเกาหลีใต้ บริโภคนม 42.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนไทย บริโภคนม 33.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนมาเลเซีย บริโภคนม 25.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนจีน บริโภคนม 22.3 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนเวียดนาม บริโภคนม 21.8 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
นอกจากนี้ อีกกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้นักลงทุนหลายคนเชื่อว่าธุรกิจของ Vinamilk มีโอกาสเติบโต เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่ายังเติบโตในระดับสูง
1
โดยข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6.5-7.5% ต่อปี ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2030
เมื่อรวมกับการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ
การดื่มและทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
และตลาดผู้บริโภคของเวียดนาม ที่มีประชากรมากถึง 98 ล้านคน
ธุรกิจผลิตนมของ Vinamilk ก็ดูจะมีโอกาสให้เติบโต ได้อีกไม่น้อย
1
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในปี 2015 มูลค่าบริษัท Vinamilk เท่ากับ 127,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ Vinamilk เพิ่มขึ้นมาเป็น 250,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมาเกือบ 1 เท่าตัว
2
ทำให้ไม่เพียงแต่ Vinamilk ถือเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียน ที่มีขนาดใหญ่รายหนึ่งในตลาดหุ้นเวียดนาม
แต่ยังใหญ่กว่าหุ้นของบริษัท CPF ที่มีมูลค่า 220,000 ล้านบาท ในวันนี้..
1
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
โฆษณา