1 ก.ค. 2021 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เช็คมูลค่าตลาด 10 หมวดธุรกิจ
ที่เพิ่มสูงสุด ณ สิ้น มิ.ย.64 (Outperform)
และแล้วครึ่งแรกของปี 2564 ก็ผ่านไปแล้วนะครับ บอกเลยว่าไปครึ่งปีที่วิกฤตหนักจริง ๆ จากปัญหารุมเร้าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอเอาใจช่วยให้ทุกคน ผ่านผ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้นะครับ
.
ในส่วนตลาดหลักทรัพย์ สรุป Performance ณ สิ้นวันทำการเดือน มิ.ย. 2564 (30-6-2564) ที่ผ่านมา SET ปิดที่ 1,587.79 เพิ่มขึ้น 138.44 จุด หรือเพิ่มขึ้น 9.6% จากปิดสิ้นปี 2563 (1,449.35)
.
โดยความเคลื่อนไหวในช่วงครึ่งปีแรกของ SET มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงไตรมาส 1 (ม.ค.-มี.ค.) จากสิ้นปีที่ 1,449.38 ปิดที่ 1,587.21 (มี.ค.64) ประมาณ 9.5% หลังจากนั้นในช่วงไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.) กลับไม่ไปไหนเลย วิ่ง Sideway อยู่ระหว่าง 1580-1590 จุด ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หนักหน่วง
.
โดยมูลมูลค่าตลาด มิ.ย.2564 (Market Cap.) ปิดที่ 18.25 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1.88 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.5 % จากปิดสิ้นปี 2563 (16.36 ล้านล้านบาท)
.
ซึ่งแม้มูลค่าตลาดโดยรวมจะปรับขึ้น 11.5% แต่ยังมีบางหมวดธุรกิจที่มีมูลค่าตลาด เพิ่มสูงถึง 81% สูงกว่ามูลค่าตลาดโดยรวมมาก โพสนี้จึงจะมาเช็คมูลค่าตลาดในหมวดธุรกิจ ที่ปรับตัวสูงสุด 10 อันดับแรก และยังเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดโดยรวม (Outperform)
.
(ตารางเรียงลำดับจาก %เพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเที่ยบกับสิ้นปี 2563)
.
1. เหล็ก
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน มิ.ย.64 เท่ากับ 83,843 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 81.2% หรือเพิ่มขึ้น 37,581 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 46,262.00 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -8.6 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : TSTH (+152%), GJS (+106%),INOX (+193%)
.
2. กระดาษและวัสดุการพิมพ์
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 13,715 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 62.3% หรือเพิ่มขึ้น 5,265 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 8,450.00 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -6.6 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : UTP (+62%)
.
3. บรรจุภัณฑ์
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 350,753 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 40.5% หรือเพิ่มขึ้น 101,063 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 249,690.00 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 9.5 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : SCGP (+49%), PTL (+15%), SITHAI (+117%)
.
4. ธุรกิจการเกษตร
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 110,008 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 33.8% หรือเพิ่มขึ้น 27,787 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 82,221.00 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -2.5 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : STA (+53%), NER (+62%), TWPC (+42%)
.
5. ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 20,714 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 33.7% หรือเพิ่มขึ้น 5,224 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 15,490.00 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.5 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : KYE (+26%), MODERN (+33%), AJA (+158%)
.
6. ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 923,382 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 27.5% หรือเพิ่มขึ้น 199,328 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 724,054.00 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.8 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : DELTA (+19%), KCE (+86%), HANA (+79%)
.
7. บริการเฉพาะกิจ
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 18,807 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 26.6% หรือเพิ่มขึ้น 3,955 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 14,852.00 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.8 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : BWG (+79%), GENCO (+129%), SO (+29%)
.
8. การท่องเที่ยวและสันทนาการ
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 106,651 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 26.6% หรือเพิ่มขึ้น 22,382 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 84,269.00 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 7.6 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : CENTEL (+39%), ERW (+43%), SHR (+37%)
.
9. บริการรับเหมาก่อสร้าง
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 135,803 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 26.3% หรือเพิ่มขึ้น 28,240 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 107,563.00 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -8 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : ITD (+114%), CK (+13%), UNIQ (+57%)
.
10. ยานยนต์
โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค.64 เท่ากับ 79,733 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 24.4% หรือเพิ่มขึ้น 15,638 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 64,095.00 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 5.2 %
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : SAT (+35%), HFT (+73%), AH (+39%)
.
.
❗ หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ
.
Reference
.
#หุ้นOutperform
#การลงทุน
#iYomBizInspiration
.
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
โฆษณา