2 ก.ค. 2021 เวลา 05:15 • กีฬา
Blof Story — ผู้เล่นที่หายไป ผู้เล่นที่เล่นด้วยใจ
ในบทความนี้ขออนุญาตเกาะกระแสฟุตบอลทีมชาติที่มีรายการเตะกันใน 2 ทวีปใหญ่อย่างยุโรป และอเมริกาใต้อยู่ในขณะนี้
โดยผมจะขอหยิบยกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องราวสั้นๆที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง ของกองหน้าทีมชาติ Italy อย่าง Fracessco Totti กองหน้าที่หลายๆคนเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ไม่ใช่เพราะความเก่งกาจในสนามของเจ้าตัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นนิสัยส่วนตัวที่แสดงความเป็นชายแบบสุดๆ ที่ดูโคตรเท่แบบติดอารมย์ Bad Boy นิดๆ
เช่นการเป็น One Man One Club จนได้รับฉายาว่าเจ้าชายหมาป่า พร้อมให้สัมภาษณ์ออกสื่อแบบตรงๆอยู่หลายครั้งที่แสดงถึงตัวตนของเขาอย่างชัดเจน
ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัภาษณ์ออกสื่อถึงความจงรักภักดีต่อสโมสรของเขาไว้ว่า “ผมเคยนอกใจแฟนของผมทุกคน แต่ผมจะไม่มีวันนอกใจ(ย้าย)จาก Roma ผมจะไม่มีวัน”
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักเขาแค่ได้อ่านถึงตรงนี้ก็น่าจะสนใจในตัวนักบอลคนนี้ขึ้นมาแล้วใช่มั้ยครับ
เรื่องราวนี้ต้ององย้อนไปเมื่อปี 2006 ช่วง 2-3 เดือนก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นที่ประเทศ Germany Totti มีอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่กระดูกหัวเข่า (Fibula) ซ้าย ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้เขาไม่มีชื่อติดโผไปร่วมแข่งกับทัพอัซซูรี่
แต่มันไม่สามารถหยุดกองหน้าวัย 30 ปีกับการรับใช้บ้านเกิดของเขาได้ เขายืนยันกับทีมว่าเขามีความจำนงที่จะเล่นให้ทีมในรายการอันทรงเกียรตินี้
ก่อนที่ Marcello Lippi จะเรียกเขามีชื่อติดไปด้วยทั้งๆที่รู้ว่านักเตะที่เขาเลือกไปมีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่ และไม่พร้อมจะลงเล่นด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ 100 %
อย่างไรก็ตามเมื่อศึกฟุตบอลโลกเริ่มขึ้นในปีนั้นเขาก็ลงกำศึกให้ Italy เกือบทุกเกมตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนรอบชิง และยังมีส่วนร่วมกับ 5 ประตูไม่ว่าจะเป็นจากการยิงด้วยตัวเองหรือแอสซิสให้เพื่อน จากประตูที่ทีมทำได้ทั้งหมด 12 ประตู
ซึ่งผลสุดท้ายของการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้ เป็นที่มาของการที่เขาได้รับเกียรติสูงสุดที่นักฟุตบอลจะได้รับ หลังสามารถคว้าแชมป์โลกได้ในปีนั้น ซึ่งถือเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 4 ของทีมชาติ Italy
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องราวที่ขัดกับหลักทางวิทยาศาสตร์อย่างสิ้นเชิง ยิ่งเป็นบอลสมัยใหม่ที่วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามามีบทบาทและชี้วัดได้ชัดเจนขึ้นว่าใครพร้อม หรือไม่พร้อมในการลงเล่น
แต่เรื่องราวของ Totti ในครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่ากล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย ไม่ใช่กล้ามเนื้อขา หรือแขน แต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นกล้ามเนื้อเล็กๆที่เรียกว่าหัวใจต่างหากที่มันควบคุมความคิด และกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย
น่าเสียดายที่ฟุตบอลปัจจุบันผู้เล่นแบบนี้เหลือน้อยลงทุกที “ผู้เล่นที่เล่นด้วยใจ”
บทความโดย Piya Phillip Siribothi
โฆษณา