5 ก.ค. 2021 เวลา 14:47 • ประวัติศาสตร์
ตำนานนกเรเวนกับหอคอยแห่งลอนดอน
นกเรเวน (Ravens) เป็นนกตระกูลอีกาประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเลี้ยงไว้เป็นอย่างดีที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนนับเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว พวกมันถูกเรียกว่าเป็น ‘ผู้พิทักษ์แห่งหอคอยแห่งกรุงลอนดอน’ เหตุเพราะมีคำทำนายว่า
“หากนกเรเวนจากจรไปจากหอคอยแห่งลอนดอน อาณาจักรจะล่มสลาย…”
จึงถือได้ว่านกเรเวนเป็นสัตว์เลี้ยงหมายเลขหนึ่งประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอน
4
(Image: Getty/Leon Neal/Inews)
• ตำนานเล่าว่า…
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า อาณาจักรกับหอคอยแห่งกรุงลอนดอนจะถึงแก่กาลล่มสลายหากนกเรเวนจำนวน 6 ตัวออกไปจากป้อมปราการโบราณแห่งนี้
จุดเริ่มต้นของตำนานนี้เกิดขึ้นในสมัยกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สจ๊วร์ต เหตุเกิดมาจากจอห์น แฟลมสตีด (John Flamsteed) โหราจารย์ของพระองค์ผู้ทำหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตดวงดาวประสบความเดือดร้อน เขาร้องเรียนต่อกษัตริย์ว่าบรรดานกเรเวนมาขัดขวางกิจการงานในหน้าที่ของเขาที่คอยสังเกตการณ์อยู่ในส่วนที่เรียกว่า ‘หอคอยขาว’ (White Tower) นกเรเวนเหล่านี้ชอบบินมาบดบังทัศนียภาพการส่องกล้องดูดาวของเขา
ด้วยเหตุนี้ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 จึงมีพระบัญชาให้ฆ่านกเรเวนเสีย แต่มีผู้มาเตือนพระองค์ว่าหากฆ่านกเรเวนไปจนไม่มีพวกมันหลงเหลืออยู่ในหอคอยแห่งกรุงลอนดอนนี้ มงกุฎของพระองค์จะร่วงหล่นลงพสุธา (หมายถึงระบอบกษัตริย์จะล่มสลาย) และตัวหอคอยแห่งกรุงลอนดอนก็จะพังทลายกลายเป็นฝุ่นผงลงมา (หมายถึงจะเกิดหายนะจนราชอาณาจักรแตกสลาย)
แต่บ้างก็ว่าจอห์น แฟลมสตีด เกรงว่านกเรเวนที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนจะถูกฆ่า เพราะเมื่อเกิดไฟไหม้กรุงลอนดอนครั้งใหญ่ที่เรียกกันว่า Great Fire of London เมื่อปี 1666 พวกมันถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น (เพราะเชื่อว่านกเรเวนเอาเศษขยะต่าง ๆ เข้ามาจนทำให้เกิดไฟไหม้) ผู้รอดชีวิตจากไฟไหม้จึงตามฆ่านกเรเวนด้วยความแค้น จอห์น แฟลมสตีด จึงมาทูลกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 สั่งให้ระงับมิให้กระทำการดังกล่าว เพราะการฆ่านกเรเวนจะนำความโชคร้ายมาแก่กษัตริย์และอาณาจักร
3
แต่บางเวอร์ชั่นก็ระบุว่าเป็นกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 ที่ต้องการฆ่านกเรเวนที่มารบกวนบังทัศนียภาพกล้องส่องดูดาวประจำหอดูดาวที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอน แต่กลายเป็นตัวจอห์น แฟลมสตีด ที่มายับยั้งพระองค์ไว้ว่าการฆ่านกเรเวนนั้นจะทำให้เกิดโชคร้าย โดยเตือนว่าหอคอยแห่งกรุงลอนดอนจะล่มสลายและกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 จะสูญสิ้นอาณาจักรของพระองค์ไป ดังนั้นกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 เลยสั่งให้ย้ายหอดูดาวไปไว้ที่กรีนนิชที่พระองค์สั่งให้สร้างขึ้น แล้วนกเรเวนได้อยู่ในหอคอยแห่งกรุงลอนดอนต่อ
1
สรุปว่าไม่ว่าจะเวอร์ชั่นไหน พอเมื่อได้สดับรับทราบแล้ว กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 จึงทรงเปลี่ยนพระทัย พระองค์จึงออกพระราชบัญญัติว่าจะต้องเก็บนกที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนไว้อย่างน้อย 6 ตัวตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหายนะขึ้น นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงบัดนี้ นกเรเวนที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนจึงถูกดูแลและคุ้มครองเป็นอย่างดี และพวกมันถูกเรียกว่า “The Unkindness”
1
แต่นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าตำนานเรื่องนกเรเวนนี้เกิดขึ้นจากการสร้างจินตนาการขึ้นในยุควิกตอเรียน เพราะมีหลักฐานอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรชิ้นแรกที่ปรากฏการเลี้ยงนกเรเวนให้อยู่แต่ในหอคอยแห่งกรุงลอนดอนเป็นรูปภาพในปี 1883
1
นอกจากนี้ มีตำนานของชาวเวลช์ที่เก่าแก่กว่านี้ที่เล่าขานเกี่ยวกับนกเรเวนก่อนที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนจะถูกสร้างขึ้น ซึ่งเล่าว่าผู้นำกลุ่มพวกไอริชชื่อว่า Matholwch ได้กระทำมิดีมิร้ายต่อเจ้าหญิงผู้หนึ่งชื่อว่า Branwen พี่ชายของเจ้าหญิงที่ชื่อว่า Brân ฉายาว่า ‘บรานผู้ได้รับการอำนวยพร’ (ผู้เป็นกษัตริย์ของเหล่าเผ่าบริตัน คือคนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในเกาะอังกฤษ) จึงทำสงครามกัน และสั่งให้ลูกน้องตัดหัวตัวเองแล้วเอามาฝังไว้ใต้จุดที่เรียกว่า The White Hill (ซึ่งต่อมาตรงจุดนี้ก็คือที่สร้างหอคอยแห่งกรุงลอนดอนขึ้นมา) โดยให้หัวหันหน้าไปทางฝรั่งเศสเพื่อเป็นยันต์กันการรุกรานบริเตนจากต่างชาติ
1
คำว่า Brân เป็นภาษาเวลช์สมัยใหม่ที่ใช้เรียกนกเรเวน แล้วในตำนานของชาวเคลท์เชื่อว่านกเรเวนนั้นมีคุณลักษณะที่เป็นนกวิเศษและสามารถให้การปกปักรักษาสถานที่ได้ ซึ่งตำนานว่าหัวของบรานถูกฝังไว้ตรงจุดนี้เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์รักษาดินแดนคงจะสืบเนื่องอิทธิพลให้กับตำนานในยุคต่อมาที่นกเรเวนถูกเชื่อว่ามีไว้พิทักษ์รักษาอาณาจักรและหอคอยแห่งกรุงลอนดอน
ตำนานนี้ที่สืบทอดความเชื่อว่าอังกฤษจะล่มสลายหากไม่มีนกเรเวนเหลืออยู่ที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนมาปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อปี 1944 เพราะในช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วนกเรเวนถูกใช้เป็นตัวกำหนดจุดสำหรับเครื่องบินเพื่อทิ้งระเบิดในปฏิบัติการรบแบบสายฟ้าแลบของเยอรมนี จึงทำให้นกเรเวนที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนทั้งหมดต้องตายเพราะถูกระเบิดหรือไม่ก็เพราะความเครียด เหลือรอดชีวิตเพียง 3 ตัว คือ Gripp, Mabel และ Pauline แต่ต่อมา 2 ตัวหลังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
2
ชะตากรรมของหอคอยแห่งกรุงลอนดอนมาถึงจุดต่ำสุด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงใหม่ ๆ เมื่อนกเรเวนตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่คือ Grip ได้ละทิ้งหอคอยแห่งกรุงลอนดอนไป เป็นเพราะการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องในกรุงลอนดอนช่วงสงครามจึงทำให้มันทนอยู่ไม่ได้ พอเป็นเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิลล์ จึงได้สั่งให้ต้องเพิ่มจำนวนประชากรนกให้ถึงหลักหกตัวให้ได้
1
มีการเกณฑ์นกเรเวนมาประจำการอยู่ที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนดังเช่นทหาร และมีการออกบัตรประจำตำแหน่งให้กับนกเรเวนเหมือนทหารหรือตำรวจด้วย ดังนั้น หากตัวใดประพฤติตนไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่นกเรเวนตัวนั้นจะถูกปลดประจำการ
รูปวาดนกเรเวนที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอน ในหนังสือกลอนของเด็กชื่อว่า London Town ตีพิมพ์เมื่อปี 1883 (Image: Wikipedia)
• มาทำความรู้จักกับเหล่านกเรเวน
จากตำนาน จึงเกิดธรรมเนียมการเลี้ยงนกเรเวนไว้ที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอน อย่างน้อยต้องมี 7 ตัว โดยตัวที่ 7 นั้นสำรองไว้ ซึ่งปัจจุบันพวกมันมีชื่อว่า
1. Jubilee
2. Harris
3. Gripp
4. Rocky
5. Erin
6. Poppy และ
7. Georgie
1
ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปี มีนกเรเวนตัวที่ชื่อว่า Merlina ได้หายตัวไป เชื่อกันว่ามันน่าจะตายไปแล้ว แต่ก็มีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม เป็นลูกนกเรเวนชื่อว่า Edgar กับ Branwen ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากกิจกรรมโหวตตั้งชื่อให้กับลูกนก โดยจะมีการเพาะพันธุ์นกเรเวนไว้เพื่อมั่นใจว่าจะมีนกเรเวนอยู่ที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนอย่างต่อเนื่องมิได้ขาดหายไปไม่น้อยกว่า 6 ตัว
ด้วยตำแหน่งแห่งที่ ‘ผู้พิทักษ์แห่งหอคอยแห่งกรุงลอนดอน’ ชีวิต ณ หอคอยแห่งกรุงลอนดอนของพวกมันจึงสะดวกสบายมาก ในตอนกลางวันพวกมันสามารถออกมาเตร็ดเตร่ในอาณาบริเวณภายใต้กำแพงของหอคอยแห่งกรุงลอนดอนได้อย่างอิสระ แถมมีตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองถึง 4 จุดภายในอาณาเขตของหอคอยแห่งกรุงลอนดอนนี้ โดยอยู่ข้าง ๆ ส่วนที่เรียกว่าหอเวกฟีลด์ (Wakefield Tower)
แถมพวกมันยังมีผู้ดูแลส่วนตัวอีกต่างหาก เรียกว่า Ravenmaster หรือ นายแห่งนกเรเวน ซึ่งจะมีหน้าที่ดูแลคอยให้อาหารหลักและอาหารว่าง ซึ่งนกเรเวนจะฟังคำสั่งและตอบสนองต่อ Ravenmaster เพียงคนเดียวเท่านั้น
1
ผู้ดูแลนกราเวนที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนจะให้อาหารพวกมันวันละ 2 ครั้ง ปริมาณวันละ 6 ออนซ์ โดยมื้อเย็นของมันค่อนข้างจะพิเศษเพราะมีเมนูเป็นหนู เนื้อไก่ และเนื้อดิบที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี แถมยังมีของหวานเป็นอาหารเสริมคือบิสกิตชุบเลือดด้วย และในแต่ละอาทิตย์พวกมันจะได้กินไข่ 1 ครั้ง นาน ๆ ทีก็จะมีลาภปากได้กินกระต่ายทั้งตัว แถมพวกมันยังแอบไปกินเศษอาหารเหลือจากห้องครัวประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนด้วย อาหารโปรดของพวกมันที่เป็นเมนูของคนคือขนมปังทอด
ในบางครั้งบางคราว ขนหลักและขนรองในปีกที่ใช้ในการบินของนกเรเวนจะถูกคนดูแลเล็มออกเพื่อไม่ให้มันบินหนีหายไปไหนได้ไกล ซึ่งการเล็มขนนกที่ว่านี้ไม่ได้เป็นกระบวนการทารุณนกที่ทำให้มันเจ็บปวดหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด นกเรเวนทุกตัวจะยังคงบินได้อยู่แต่ก็จะมีการจัดการขนของมันอย่างระมัดระวัง
1
ขนาดพวกมันถูกเล็มขนปีกไปแล้ว ก็ยังเคยมีเหตุการณ์ที่นกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนบินหนีไป เช่น เคยมีนกเรเวนชื่อว่า Muninn ที่บินหนีไปถึงเมืองกรีนนิชแล้วมีประชาชนนำเอามันมาคืนให้ หรือในปี 1981 นกเรเวนตัวที่ชื่อว่า Grog บินหนีหายไป และมีคนเห็นมันเป็นครั้งสุดท้ายนอกผับแถวอีสต์เอนด์ที่ชื่อว่า Rose and Punchbowl หลังจากที่ทำหน้าที่ประจำอยู่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนมานานนับ 21 ปี มันคงอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
นอกจากบินหนีหายแล้ว นกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนยังถูกปลดออกจากงานได้ด้วย ถ้าประพฤติตนไม่ดี เช่นในปี 1986 นกเรเวนตัวที่ชื่อว่า George เคยถูกปลดเพราะมันไปทำลายสายอากาศทีวี 5 อันภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์เข้า ซึ่งมีการไล่ออกอย่างเป็นทางการว่า
“ในวันเสาร์ที่ 13 เดือนกันยายน ปี 1986 นกเรเวน George ที่ขึ้นบัญชีเป็นนกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนเมื่อปี 1975 ถูกนำไปประจำการที่สวนสัตว์ Welsh Mountain Zoo เนื่องจากประพฤติตนไม่เป็นที่พึงพอใจ ดังนั้นจึงไม่ต้องมาทำงานรับใช้อีกต่อไป”
นกประเภทนี้ฉลาดมาก และพวกมันมีบุคลิกเฉพาะเป็นของตัวเอง พวกมันสามารถเลียนเสียงได้ เล่นเกมได้ และหาวิธีแก้ปัญหาได้ แถมยังอายุยืนด้วย นกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนที่อายุยืนที่สุดชื่อว่า Jim Crow มันตายเมื่อตอนที่มีอายุได้ 44 ปี
ผู้ดูแลนกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอน (Image: PA/Evening Standard)
• เรื่องน่ารู้อื่น ๆ เกี่ยวกับผู้พิทักษ์แห่งหอคอยแห่งกรุงลอนดอน
- เล่ากันว่าในวันที่ประหารชีวิตแอนน์ โบลีนเมื่อปี 1536 แม้กระทั่งนกเรเวนยังยืนสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว ณ ตรงกำแพงล้อมหอคอย พวกมันพากันจ้องไปยังฉากการตัดหัวที่ราชินีแอนน์ โบลีน กำลังจะถูกปลิดชีวิต
- ในตอนที่มีการประหารชีวิตเลดี้เจน เกรย์ เมื่อปี 1554 ที่เล่าขานกันว่าเป็นราชินีของราชวงศ์ทิวเดอร์ผู้ครองบัลลังก์ได้เพียง 9 วันนั้น นกเรเวนที่หอคอยทำตัวร้ายกาจด้วยการไปจิกกินดวงตาจากศีรษะที่ถูกตัดคอของเลดี้เจน เกรย์
- เชื่อกันว่าช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นกเรเวนที่ชื่อว่า Mabel นั้นถูกลักพาตัวไป แต่ไม่ได้มีการพิสูจน์ว่ามันถูกลักพาตัวไปจริงหรือไม่
- งานของพวกมันในการปกป้องกษัตริย์และประเทศชาติเป็นงานที่จริงจัง ดังนั้นหากนกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนตัวใดประพฤติตนไม่เหมาะสมหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พวกมันสามารถถูกปลดออกจากตำแหน่งนี้ได้ ดังเช่นที่เกิดกับเจ้า George ที่ถูกปลดหลังจากดำรงตำแหน่งนี้มานานถึง 11 ปี และถูกอัปเปหิไปอยู่ที่สวนสัตว์แทน
- นกเรเวนที่ชื่อว่า Hugine และ Jackie ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1996 ด้วยข้อหา “ประพฤติตัวไม่เหมาะสมต่อผู้อยู่อาศัยในหอคอยแห่งกรุงลอนดอน” เนื่องจากพวกมันไม่สามารถสงบจิตสงบใจอยู่นิ่งเฉยได้ภายหลังฤดูกาลผสมพันธุ์
1
- มีนกเรเวนชื่อว่า Bran ผู้ถูกขนานนามว่าเป็น “สัตว์เดรัจฉานโดยสมบูรณ์แบบแห่งมวลปักษาผู้ซึ่งเกลียดมวลมนุษย์ทั้งปวง” และถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อทศวรรษที่แล้ว เหตุเพราะมีพฤติกรรมป่าเถื่อนใช้ความรุนแรง ครั้งหนึ่งมันเคยไปทำร้ายช่างกล้องรายการทีวีเข้า มันจึงถูกตั้งฉายาโดยเหล่าเจ้าหน้าที่ประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนว่า ‘Bran the Thug’ หรือ ‘เจ้าแบรนอันธพาล’
1
- ถึงแม้จะถูกเล็มขนไม่ให้บินหนีหายไปไกล ๆ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานการหายตัวของนกเรเวนไปได้ นอกจากกรณีที่เล่าไปก่อนหน้านี้แล้วยังมีกรณีอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ในปี 1896 มีรายงานว่านกเรเวน 2 ตัวหนีไปอยู่ที่โดมของวิหาร St Paul แล้วไม่กลับมาอีกเลย หรือในปี 1946 นกเรเวนที่ชื่อ Gripp จู่ ๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากทำหน้าที่พิทักษ์หอคอยแห่งกรุงลอนดอนมานานถึง 17 ปี
- เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี 1995 มีนกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอนชื่อว่า Charlie ถูกฆาตกรรมโดยสุนัขดมกลิ่นของตำรวจ ซึ่งฆาตกรเป็นสุนัขสายพันธุ์สแปเนียลที่ชื่อว่า Charlie เช่นเดียวกัน
- มีเรื่องเล่าว่าเมื่อ James Crow ซึ่งเป็นนกเรเวนที่ประจำอยู่ที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนมาอย่างยาวนานและเป็นที่รักของคนในนั้นได้ตายลงไป เจ้า Edgar Sopper เมื่อเห็นว่าการตายของเพื่อนทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย มันจึงแกล้งตายบ้างเพื่อเรียกร้องความสนใจ ผู้ดูแลนกเรเวนคิดว่ามันตายจริง แต่พอตอนที่จะเอาศพมันขึ้นมามันจิกมือผู้ดูแลแถมยังกรีดเสียงหัวเราะ(ในแบบนก)ใส่ผู้ดูแลด้วย ในทำนองเดียวกันนี้ นกอีกตัวที่ชื่อ Merlin ก็สร้างความตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยการแกล้งตายเพื่อเรียกร้องความสนใจเช่นเดียวกันด้วย
2
- เมื่อปี 1990 ที่อนุศาสนาจารย์ชื่อว่า Norman Hood เสียชีวิตในห้องของตัวเองตรงที่ทำงานประจำอยู่ในพื้นที่ของหอคอยแห่งกรุงลอนดอน นกเรเวนรู้ว่า Norman Hood เสียในห้อง พวกมันจึงมารวมตัวกันที่ส่วนที่เรียกว่า Tower Green ที่อยู่ใกล้ ๆ โบสถ์ภายในหอคอยแห่งกรุงลอนดอน พวกมันพากันส่งเสียงร้องเรียก จากนั้นก็พากันเงียบ ราวกับว่าพวกมันกำลังไว้อาลัยให้แก่อนุศาสนาจารย์ผู้นี้
- นอกจากอาหารที่มันได้รับประจำจากผู้ดูแลและคอยไปคุ้ยเขี่ยจากถังขยะนอกครัวของหอคอยแห่งกรุงลอนดอนแล้ว สมัยที่ยังไม่เกิดโรคโควิด 19 ระบาด พวกมันยังได้ลาภปากมาจากอาหารของนักท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องคอยเตือนว่าห้ามให้อาหารพวกมันเองโดยตรงมิฉะนั้นจะถูกมันจิกเอาได้ เพราะพวกมันจะนึกว่าอาณาบริเวณที่พวกมันครอบครองอยู่ถูกคุกคาม ซึ่งมีข่าวว่าพอนักท่องเที่ยวหายไปเพราะโรคระบาดนกเรเวนก็บินไปหากินเอาข้างนอกด้วย
1
- แต่ก่อนหากนกเรเวนตาย หาย หรือถูกปลด ก็จะมีการนำนกเรเวนจากแหล่งอื่นมาแทนที่ แต่เมื่อมีกฎหมายห้ามนำนกเรเวนป่ามาจากแหล่งอื่น ดังนั้นช่วงปี 2018-2019 ทางหอคอยแห่งกรุงลอนดอนจึงเริ่มมีโครงการเพาะพันธุ์นกเรเวนเองเป็นการภายใน โดย George เป็นนกเรเวนตัวแรกในรอบ 30 ปีที่เกิดภายในหอคอยแห่งกรุงลอนดอนโดยไม่ได้ถูกนำมาจากแหล่งอื่น
- โครงการเพาะพันธุ์นกเรเวนนี้แท้จริงแล้วมีมาตั้งแต่ปี 1987 (แต่เป็นการเพาะพันธุ์ภายนอกหอคอยแห่งกรุงลอนดอนแล้วนำมาทดแทนเมื่อนกไม่ครบจำนวน 6 ตัว) ซึ่งคู่ของนกเรเวนที่ชื่อ Charlie กับ Rhys ทำสถิติมีลูกนกถึง 17 ตัว
ภาพนกเรเวนที่อยู่ตรงส่วนลานประหารในอดีตที่เรียกว่า Tower Green ซึ่งอยู่ข้างหน้าโบสถ์ St. Peter’s Chapel (Wikipedia)
แนะนำคลิปชีวิตนกเรเวนประจำหอคอยแห่งกรุงลอนดอน:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา