แสงและเงา (Light & Shadow)
"แสง" ทำให้เกิด "เงา"
เงา ทำให้วัตถุดูเป็นสามมิติ
เงา ทำให้เห็นรูปทรง (Form) และพื้นผิว (texture) ของวัตถุ
เงา ทำให้เกิดลวดลายของเงาตกกระทบ (cast shadow)
การทำความเข้าใจแสง จะทำให้เราใช้เงาในการสร้างสรรค์ภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วงกลมทางซ้าย: แสงสว่างเท่ากันทั้งหมด ภาพที่ได้จะดูแบนเป็น 2 มิติ
วงกลมทางขวา: มีแสงหลัก (key light) ทำให้เกิดไฮไลท์ (highlight) และเงา (shadow) รวมทั้งเงาตกกระทบ (cast shadow) ภาพที่ได้จะดูเป็น 3 มิติ
ภาพนี้ถ่ายย้อนแสง ทำให้ฝั่งด้านนี้ (ฝั่งที่เรามองเข้าไป) ได้รับแสงน้อย จึงไม่เกิดเงาที่ทำให้เห็นเส้นสายของกู่บรรจุอัฐิ (สีขาว) ภาพของกู่บรรจุอัฐิจึงดูแบน
ภาพทางซ้าย: สภาพแสงอ่อน (ดวงอาทิตย์โดนเมฆบัง)
ภาพทางขวา: สภาพแสงเข้ม (ดวงอาทิตย์โผล่พ้นเมฆ)
ผมถ่ายทั้ง 2 ภาพในเวลาใกล้เคียงกัน ที่สภาพแสงต่างกัน เพียงแค่รอให้ดวงอาทิตย์โดนเมฆบังกับโผล่พ้นเมฆ แล้วนำมาเปรียบเทียบกันเพื่อให้เห็นความแตกต่าง ว่าแสงและเงาส่งผลต่อภาพถ่ายอย่างไร
ดูแล้วรู้สึกว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ
ภาพทางซ้ายที่แสงอ่อนจะเห็นรายละเอียดของวัตถุครบถ้วน แต่จะไม่ค่อยโดดเด่น เพราะสภาพแสงโดยรวมดูเท่ากัน ภาพจึงดูค่อนข้างแบน
ภาพทางขวาที่แสงแดดแรงกว่า จะสูญเสียรายละเอียดบางส่วนไปบ้าง แต่ดูโดดเด่นและดึงดูดกว่า ถือว่าภาพดูมีมิติกว่า
แต่ไม่ได้หมายความว่ามีภาพใดแย่กกว่ากัน เพราะการเลือกใช้แสงและเงาจะขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำภาพนั้นไปใช้งานในวัตถุประสงค์ใด
อย่างทั้ง 2 ภาพนี้แม้จะดูใกล้เคียงกัน แต่ความเข้มของแสงหลัก (key light) ที่ต่างกันทำให้ภาพเจดีย์ทางขวาที่มีแสงเข้มกว่า เกิดความต่างของไฮไลท์และเงาชัดเจน สร้างจุดเด่นและดึงดูดการมองได้ดีกว่า
ในภาพนี้ เงาทำให้เราเห็นลักษณะของพื้นผิว (texture) ที่ส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ชม
อย่างเส้นรอบแผ่นกระเบื้องแต่ละแผ่น (outline) ที่เรียงตัวกันอย่างสม่ำเสมอ และมีเส้นเงาดำใหญ่จากการซ้อนชั้นของหลังคา ทำให้เกิดเส้นแบ่งสายตา
ถ้าจะบอกว่าหัวใจของการถ่ายภาพคือ "แสง" และ "เงา" ก็ไม่ถือกว่าเกินไปนัก
การสังเกตแสงและเงาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาของวัน จะช่วยให้เราพบช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุดของวันได้ ลองสังเกตกันดูนะครับ ^^
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
