-ถ้าลองไล่อัลบั้มที่ผ่านมา เหมือนเราได้เส้นทางชีวิตของแร็ปเปอร์วัยเพียงแค่ 22 แบบ step by step ของแร็ปเปอร์สร้างเนื้อสร้างตัวจริงๆ Die a Legend เป็นการพยายามหลุดพ้นถึงวิถีชีวิตชาวแก๊งค์ที่อันตรายจนสูญเสียคนรอบข้างไปทีละคน The GOAT คล้ายๆไอ้หนุ่มเกิดใหม่ในวงจรใหม่ที่มอบชีวิตที่ดีกว่า ทั้งนี้ก็ยังระลึกถึงกำพืดตัวเองอยู่เสมอ Hall of Fame เข้าสู่หนทางแร็ปสตาร์ผู้มีชื่อเสียงอย่างจริงจัง ต่อให้ยังไม่เข้าหอเกียรติยศ แต่เขารับรู้ได้แล้วว่าความไปได้ไกลของเขาถือเป็นชัยชนะอันหอมหวานไปแล้ว โดยไม่ต้องเข้าหอเกียรติยศก็ได้
-การเลือกเพลงปล่อยซิงเกิ้ลนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเป็นการเกริ่นนำคร่าวๆว่าจะเล่าชีวิตไปในทางไหน สังเกตจากซิงเกิ้ลที่ได้อันดับ 1 ใน Billboard Hot 100 อย่าง RAPSTAR เป็นความชัดเจนของการประกาศความสำเร็จว่า ต่อจากนี้กูจะยึดการเป็นแร็ปสตาร์เป็นที่ตั้งแล้วนะ copped a BMW, new deposit, I picked up another bag / Like fuck it, I'ma count while I'm in it / I hear planes flyin', crowds screamin', money counters, chains clangin' / Shit, I guess that's how it sound when you winnin' ในท่อนฮุกสื่อถึงความสำเร็จของไอ้เด็กหนุ่ม chi-town ที่ได้ทั้ง BMW นั่งนับเงินเพลินๆ ได้ยินเสียงเครื่องบินเจ็ท สร้อยคอกรุ๊งกริ้งได้ไพเราะขึ้น แสดงถึงชัยชนะของคนที่ถีบตัวเองจากมุมมืดๆได้ จุดน่าสังเกตอีกอย่างคือเอ็มวีเพลงนี้มีสัญลักษณ์ถ้วย รูปปั้นตัวเอง เป็นการสื่อ easter egg ที่ลิ้งค์กับปกอัลบั้มราวกับว่าเค้าวางแผนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ พูดอย่างติดตลกเลยก็คือถ่ายเอ็มวีเสร็จปุ๊ป ถ่ายปกอัลบั้มแม่งเลย ไม่เปลืองต้นทุนค่าคอสตูมด้วย
-แทร็คที่สาม No Return ต่อเนื่องจาก RAPSTAR ที่ว่าด้วยการยึดเป้าหมายชีวิตของการเป็นแร็ปสตาร์ แต่คราวนี้เขาขอยึดมั่นถึงการไม่ขอกลับไปสู่วิถีชีวิตแบบเดิมตามที่ชื่อเพลงต้องการจะสื่อ มาในโทนจริงจัง โดดเด่นลวดลายสีไวโอลิน ยังมี The Kid LAROI มาจัดท่อนฮุกด้วย พร้อมรุ่นพี่ Lil Durk มาจัดแร็ปให้ Epidemic เป็นความปลงจากการสูญเสียเพื่อนร่วมแก๊งค์ในอดีตที่เกิดขึ้นจากภาวะที่ต้องกักตัว ทั้งนี้ Polo ก็ปฏิญาณตนไม่กลับไปใช้ชีวิตแสนอันตรายเพราะเห็นแก่ลูกชายของเขา ข่มใจสู้กับไลฟ์สไตล์ที่เป็นพิษใน Toxic ที่มีอยู่ท่อนนึงที่เขาระลึกถึง Juice WRLD ด้วยว่า การจากไปอย่างกระทันหันของเพื่อนจากภาวะ overdose ทำให้เขาตัดสินใจเลิกยา Legends never die, you the reason I stopped poppin’ Percs
-ไล่ตั้งแต่การอยากปาร์ตี้เฉลิมฉลองทั้งคืน ลืมความทุกข์ชั่วขณะในเพลง Party Lyfe ที่ได้ DaBaby มาร่วมแจม โชว์ความ flex และ Wealthy ณ ปัจจุบันจากที่เคยสูญเสียบางอย่างกับรุ่นพี่ Young Thug ในเพลง Losses การถามหามิตรภาพที่ยั่งยืนนอกเหนือจากชื่อเสียงเงินทองในเพลง Fame & Riches ร่วมด้วย Roddy Ricch ดวลแร็ปกับ Lil Wayne ด้วยบทสนทนารุ่นพี่รุ่นน้องในวงชาวแก๊งค์อย่าง GANG GANG และ For the Love of New York ที่เตรียมมากะเอาใจสายเมนสตรีมโดยเฉพาะด้วยการใช้ท่วงทำนองของ Dancehall และการอ้างอิงถึงบ้านเกิดของแขกรับเชิญ Nicki Minaj แบบออกนอกหน้า ทั้งๆที่เจ้าตัวก็ไม่ได้มาจาก New York ด้วย เหมือนเป็นการพรรณนาสไตล์คนนอกถิ่นเสียมากกว่า
-ผมยังคงชอบ The GOAT มากที่สุด แต่ก็อัพเกรดจาก Die a Legend เยอะพอสมควรจนเทียบเท่าฮิปฮอปเมนสตรีมได้อย่างสมศักดิ์ศรีไอ้เด็กหนุ่ม Chi-Town ที่อุตส่าห์หอบความฝันและเรื่องเล่ามาเต็มกระเป๋า เอาออกมาสะท้อนความจริง ไม่ขายฝันไปเรื่อย ก็หวังว่าพอก้าวถึงจุดที่มีชื่อเสียงเต็มขั้นแล้ว จะไม่ถูกสิ่งยั่วยุกลืนกินเสียก่อน
ผมว่าเขาฉลาดพอที่จะไปได้ไกล
Top Tracks: Painting Pictures, RAPSTAR, No Return, Epidemic, GNF (OKOKOK), Go Part 1, Heart of Giant, So Real, Clueless, Bloody Canvas