Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ขนอุยฯ เล่าเรื่อง
•
ติดตาม
2 ก.ค. 2021 เวลา 16:54 • ไลฟ์สไตล์
ออกไป"เตะ" ขอบฟ้า......
ด้วยความไม่ประสีประสาของคน... บางทีเราก็ละเลยศักยภาพของตน เพียงเพราะคิดแต่ว่า....เราคงจะทำมันไม่ได้
อย่าว่าแต่จะออกไปแตะขอบฟ้า ที่ถูกสะกดด้วยสระแอเลย ต่อให้สะกดด้วยสระเอ คนเราก็จักสามารถกระทำได้เช่นกัน หากเป้าหมายได้.ขั้นตอนถูก
แต่คนส่วนใหญ่บนโลก... มักตั้งเป้าโดยที่ไม่ยึดโยงกับขั้นตอน ก็ตั้งมันไปลอยๆแบบนั้น....ถ้าทำได้ก็เก่ง แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร
ดังนั้น.. ก่อนจะออกไปแตะขอบฟ้าหรือขอบโลก.. เรามีต้นถั่วที่จะสามารถป่ายปีนขึ้นไปกันได้รึยัง
หรือแม้แต่.. เราจะอาศัยตึกสูงระฟ้าที่ว่าสูงที่สุด...มาเป็นสะพานเชื่อมพื้นดินและดวงดาว แล้วเรารู้ไหมว่ามันยังห่างจากขอบฟ้าอีกกี่โยชน์กัน
การจะไปแตะที่ขอบฟ้า... คำพูดมันดูสวยหรู แต่ก็งงว่าพวกคุณๆจะออกไปแตะมันทำด๋อยอะไรกัน...
เออนั่นสิ... กูจะออกไปแตะมันทำไม..
ปัจจุบันองค์การนาซ่า... มองว่าขอบโลก มันไปง่ายเสียกว่าการหาซื้อของในเซเว่นตามต่างจังหวัดเสียอีก
เพราะเป้าหมายของเขา เกินกว่าที่เราจะเข้าใจ ว่าทำไม.. มึงจึงอยากรู้นักกับเรื่องที่ดูไกลตัวเป็นอันมากเช่นนี้
นี่ก็นั่งคิดเล่นๆ.. ว่าหากบุคลากรของนาซ่า หันมาสนใจในกายวิภาคและชีวภาพของคนบนโลกมากกว่านี้ บางทีมันน่าจะมีเทคโนโลยีอันใด ที่จะช่วยให้มนุษย์บนโลกไม่ต้องอดๆอยากกันแบบนี้
เอาหล่ะ.. ปล่อยนาซ่าเขาไป เอาแค่เรื่องของเราพอ... ว่าถ้าหากอยากจะออกไปแตะขอบโลก เราต้องตระเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เรื่องแรกเลยที่เราควรจะต้องรู้ นั่นคืออากาศจะบางเบากับระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น
หากเราใช้ลองใช้เอเวอร์เรสต์เป็นฐานปล่อยตัว เราจะต้องขนมาม่าสักกี่ลังกว่าที่เราจะไต่ไปถึงยอด
โชคดีหน่อยที่ทุกระดับความสูง11เมตร อากาศจะบางเบาลง นั่นเท่ากับว่าหากไต่สูงไป297เหนือระดับน้ำทะเล เราจะต้มน้ำให้เดือดด้วยองศาที่ลดลง1องศา คืออยู่ที่99องศาเซลเซียล
สบายเลยทีนี้... เมื่อไต่จนสุดยอดเขาที่8พันกว่าเมตรได้ เราก็จะสามารถต้มน้ำให้เดือดได้ในองศาที่60องศานิดๆได้
ง่ายมะหากคิดแบบนี้... แต่ทว่า.. ขอบฟ้ามิได้ง่ายเหมือนลิงปอกกล้วยนั่นนะสิ... เพราะอากาศที่บางเบายิ่งจะทำให้การจุดไฟเป็นเรื่องยากขึ้นเป็น10ๆเท่า
แต่เอาน่า... มาถึงครึ่งทางแล้วทนอีกนิดก็จะถึงขอบฟ้าแล้ว
ทฤษฎีต่อไปที่ควรต้องรู้ นั่นคือเราจะใช้การแตะหรือเลือกที่จะเตะแม่มเลยที่ขอบฟ้านั่นนะ
ถ้าเลือกจะแตะ ก็แค่แลนดิ่งไกลๆ แล้วทะยานตัวให้ลอยเหนือแรงดึงดูดในแนวดิ่ง แล้วเอื้อมมือออกให้สุด
ส่วนถ้าใครอยากจะเตะ...... ก็ให้นึกถึงภาพของนักกีฬากระโดดสูง เห็นยังว่าเขาโดดกันท่าไหนให้ทำแบบนั้น
ด้วยคนเรามีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่บริเวณสะดือ มันจึงส่งผลให้ ต่อให้โดดท่าไหน ความสูงเฉลี่ยก็อยู่ได้แค่ลำตัว
นักกระโดดสูงจึงเลือกที่จะกระโดดท่านี้ เพื่อจะข้ามสิ่งกีดขวางให้ลำตัวลอยพ้นทั้งหมดนี่เอง
ที่แพล่มๆมานี้ หลายคนอาจฟังดูตลก แต่หารู้ไม่ว่า... ชีวิตจริงคนเราก็ตั้งเป้าหมายในชีวิตกันเยี่ยงนี้ แทบจะทั้งนั้น
อยากมีงานทำ.. แต่ไม่วิ่งหาโอกาส รอแต่โอกาสจะวิ่งมาหาวุฒิที่กองอยู่ตรงหน้า
อยากให้เงินทำงาน....แต่ยังกู้เงินชาวบ้านมาเล่นหุ้น...ชาตินี้ก็ไม่มีทางรุ่ง
หลายคนลืมคิดไป ว่าคนที่รวยเพราะหุ้น นั่นเป็นเพราะเขามีเงินแช่เย็นที่จะบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่าคนที่มีหนี้
นี่ไง.. คือคนที่หอบเอามาม่าขึ้นไปต้มบนยอดเขาเอวอร์เรสต์... ยอมที่จะไปตายเอาดาบหน้า
ผิดกับคนบางจำพวก ที่เลือกที่จะไม่ตายสักดาบแม้แต่ดาบแรก เฉกเช่นมาร์คซักเบิร์คเจ้าพ่อเฟสบุ๊ก
.. คนรวยเยี่ยงเขา แค่เอาเงินมากองๆก็พอจะขึ้นไปเหยียบท้องฟ้าได้แล้ว แต่ใครจะเชื่อ.. ว่าพี่แกเลือกที่จะเป็นหนี้เพื่อกู้แบงค์มาซื้อบ้าน
บร๊ะ.. มันคิดอะไรของมัน
แต่สุดท้ายฟ้าที่เราจะแตะ ก็แค่จุดต่ำสุดที่ตีนมันจะย่ำถึง เพราะเขามองว่า การมีเงินสดในมือมันอุ่นใจที่สุด เพราะมันจะเนรมิตรอะไร เดี๋ยวนี้มาก็ได้
การที่จะเสียดอกเบี้ยให้ธนาคาร.. มันดูน้อยนิดกับรายได้ที่เขาทำได้สะเหลือเกิน ดังนั้นเขาจึงไม่มายด์.. กับสิ่งที่ต้องเสียไป อีกทั้งการเป็นหนี้มันยังสามารถเอามาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ตอนนี้เร่คงต้องกลับมาตั้งคำถามให้ตนเอง.. ว่าขอบฟ้ามีจริงรึเปล่า ไปแตะแล้วได้อะไร
ถ้าทำแล้วได้ความสุขจงทำ... แต่ถ้าทำไป ทุกข์ไป ไม่มีความสุข ก็จงลงมาจากbaseแรกของเอเวอร์เรสต์เถอะ
การบริหารความเสี่ยงก็จะน้อยลง... อย่างน้อยๆมาม่าก็ยังเหลือให้พอไปต่อลมหายใจในเป้าหมายอื่นๆได้
หลงทางก็แค่เสียเวลา..... แต่ถ้าหลงในมายา....จะยิ่งทำให้รู้ว่า..ขอบฟ้าไม่มีจริง....
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย