3 ก.ค. 2021 เวลา 04:40 • สุขภาพ
1. ผู้นำคิดล่วงหน้าแบบเป็นวิทยาศาตร์เพื่อคาดการณ์ทำนายอนาคตไม่เป็น ..คำถามประเภท อะไรจะเกิดขึ้น ถ้า(What if analysis) ไม่มีในการดำเนินนโยบาย..ผู้นำโน้มไปทางความเชื่อไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีการบริหารความเสี่ยงในการรับมือกับการระบาด
1
2. คนที่คิดเป็นไม่กล้าพูด พูดไปถ้าไม่ถูกใจผู้มีอำนาจก็ไม่ฟัง..ซ้ำยังใช้อำนาจลงโทษ ข่มเหงรังแกอีก
1
3. มีผลประโยชน์ที่พูดตรงไปตรงมาไม่ได้ ทำให้การตัดสินใจผิดเพี้ยนไปหมด
1
4. นักวิชาการ คนมีความรู้ประจบเอาใจผู้มีอำนาจ..เสนอสนองมากกว่าให้ข้อมูลตรงไปตรงมา
1
5. ใช้สื่อทุกชนิดสร้างความถูกต้องชอบธรรมให้ตนเอง..เช่นพอประเทศเราระบาดรุนแรงก็บอกว่าที่อื่นก็เป็นแบบเดียวกันหรือแย่กว่า..
1
ถ้าใครคิดเป็นแค่ดูถ่ายทอดฟุตบอลบางนัดซึ่งคนเข้าไปดูเยอะมาก ๆ แสดงว่าเขาแม้จะมีการระบาดแต่ลดน้อยลงระดับควบคุมได้ ใช้ชีวิตปกติได้ ใครเจ็บป่วยมากก็มีที่รับรักษาอย่างพอเพียง
1
6. เกรงใจ ลูบหน้าปะจมูก..จะสั่งวัคซีนดี ๆ จากอเมริกาก็เกรงใจจีน นักวิชาการแวดล้อมผู้นำก็พยายามบอกของที่ชาวโลกเขายอมรับว่าดีเป็นของไม่ดี ของที่คุณภาพต่ำกว่าก็โปรโมทบอกดีกว่า เหมาะสมกว่า..
1
7. มีประชาชนที่ทำตัวเป็นบริวาร ลิ่วล้อ ผู้มีอำนาจที่พร้อมจะซ้ายหัน ขวาหัน โดยไม่สามารถคิดเองหาผิดหาถูกได้..ใครออกมาพูดตรงไปตรงมาถูกใส่ร้ายว่าเป็นพวกชังชาติ
1
8. เชื่อง่าย ๆ ว่าความเด็ดขาดเช่น ล็อคดาวน์ เคอร์ฟิวส์ จะหยุดการระบาดได้
1
9. เชื่อง่าย ๆ ว่า หน้ากากอนามัย การไม่ไปสถานที่อบายมุข การไม่ออกจากบ้านจะหยุดการระบาดได้..โดยไม่คิดลึกซึ้งถึงปัญหาเชิงปฏิบัติและผลกระทบที่ตามมา
1
10. ลำดับความสำคัญผิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า..ชัดเจนมากในเรื่องการไม่เตรียมการเรื่องวัคซีน กีดกันวัคซีน ให้ภาพลบวัคซีนเกินจริง
1
เมื่อเชื่อในสิ่งที่ผิด..ก็ทำผิด..ผลก็เลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่เห็น..ทีนี้ก็ใช้การแก้ตัว บิดเบือน ปิดข่าว ปล่อยข่าวในการแก้ปัญหาเป็นหลัก
1
โฆษณา