6 เม.ย. เวลา 02:33 • ประวัติศาสตร์
หอคอยลอนดอน

แอนน์ โบลีน 🌹

ราชินีไร้เศียรแห่งอังกฤษ
• Nationality : English
• Born : July 1501 in Kent , England
• Died : 19 May 1536 in London , England
• Aged : 34
• Famous for : ภรรยาคนที่สองของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 , ผีราชินีไร้หัวแห่งอังกฤษ
"From a private gentlewoman you have made me first a marchioness, then a queen; and, as you can raise me no higher in the world, you are now sending me to be a saint in Heaven." — Anne Boleyn 🥀
‘ จากนางข้าหลวง พระองค์มอบให้ข้าเป็นขุนนาง และขึ้นสู่ตำแหน่งราชินี จนกระทั่งพระองค์ไม่สามารถยกข้าให้สู่จุดสูงสุดไปมากกว่านี้ บัดนี้พระองค์จึงส่งข้าไปเป็นนักบุญบนสวรรค์ ‘
Anne Boleyn by Unknown English Artist (1533) from National Portrait Gallery, London
◽️ แอนน์ โบลีน
แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) เกิดเมื่อราวเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 1501 เป็นบุตรของ
เลดี้เอลิซาเบท โฮเวิร์ด และเซอร์โทมัส โบลีน ขุนนางคนสำคัญของอังกฤษ มีพี่สาวคือ แมรี่ โบลีน และน้องชาย จอร์จ โบลีน
ในวัยเด็ก แอนน์ได้มีโอกาสตามบิดาที่เป็นฑูตไปที่เนเธอแลนด์ช่วงสั้นๆ และถูกส่งไปยังราชสำนักฝรั่งเศสเพื่อเป็นข้าราชบริพารของ พระนางแมรี่ ทิวดอร์ สมเด็จพระราชินีในพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นน้องสาวของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แห่งอังกฤษ และได้ย้ายมาเป็นข้าราชบริพารของพระนางโคล์ด สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสคนถัดมา ซึ่งพระนางโคล์ดก็ทรงเอ็นดูนางมาก
แอนน์ได้เรียนภาษาฝรั่งเศส การแต่งกาย ศาสนา ปรัชญา และได้รับความรู้ระดับสูง
และต่อมาในปี 1522 นางก็ถูกเรียกตัวกลับมาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวแต่งงานและเข้ารับราชการในราชสำนักอังกฤษ แต่การหมั้นหมายถูกขัดขวางและยกเลิกไป แอนน์จึงเข้ารับราชการในราชสำนักเป็นนางสนองโอฐษ์ของพระราชินีแคทเธอรีนแห่งอารากอน ราชินีของอังกฤษเมื่อขณะนั้น
Anne Boleyn from The Other Boleyn Girl (2008) actress : Natalie Portman
◽️สเน่หา
แอนน์ โบลีน ไม่ได้มีรูปโฉมงามหยาดฟ้า แต่นางเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นและมีสเน่ห์ รูปลักษณ์ของนางเป็นที่ถกเถียงกันเป็นเวลายาวนาน เนื่องจากไม่มีรูปวาดที่ถูกวาดในสมัยที่นางยังมีชีวิตเหลืออยู่เลย
มีคำบรรยายเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของแอนน์ไว้ว่า รูปร่างพอดี ความสูงปานกลาง ผมดำเงา ดวงตาสีดำน่าดึงดูด ใบหน้ารูปไข่ และมีสีผิวที่ขาวซีด มีริมฝีปากบางได้รูป
แอนน์เป็นมีบุคลิกที่เปี่ยมความมั่นใจ มีชีวิตชีวา นางชอบเล่นไพ่และเกมส์ลูกเต๋า จิบไวน์ ลิ้มรสอาหารฝรั่งเศส เป็นผู้นำด้านแฟชั่น มีความเจ้าสเน่ห์แพรวพราวเล็กๆ กล้าเสี่ยงพนัน ยิงมุกตลกเป็น ชอบยิงธนู เลี้ยงเหยี่ยว ล่าสัตว์ ทั้งยังมีฝีปากเป็นเลิศ อารมณ์ร้ายบางคราอีกด้วย
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่า แอนน์ โบลีน เป็นผู้หญิงที่ฉลาดเฉลียว มีความมั่นใจ หัวคิดสมัยใหม่
Anne Boleyn and Henry VIII : The Other Boleyn Girl (2008)
ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง กล้าพูด ฉลาด สง่างามและเปี่ยมอารมณ์ขันของแอนน์จึงไปถูกตาต้องใจกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 เข้าอย่างจัง
ในปี 1526 เฮนรี่ทรงเกี้ยวพาแอนน์ หยอดคำหวานมากมายในจดหมาย พระองค์เคยล่ากวางตัวหนึ่งแล้วมอบเนื้อกวางตัวนั้นให้แอนน์ ทั้งยังกำชับว่าเมื่อทานแล้วหวังว่านางจะนึกถึงพระองค์
พระเจ้าเฮนรี่มีความพยายามที่จะทำให้แอนน์เป็นภรรยาลับของพระองค์เหมือนกับแมรี่ โบลีน พี่สาวของนาง
แต่แอนน์ โบลีนไม่ใช่คนทั่วไปที่จะยอมเผลอใจให้กษัตริย์ได้ง่ายๆ นางมีลูกเล่นแพรวพราว ทำให้พระเจ้าเฮนรี่มีความรู้สึกอยากเอาชนะใจนางอย่างที่สุด
เฮนรี่ที่ 8 หลงใหลแอนน์มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พระองค์เองก็มีพระราชินีแคทเธอรีนแห่งอารากอนเคียงบัลลังก์อยู่แล้ว
Catherine of Aragon | Henry VIII | Anne Boleyn
◽️ความรัก รัชทายาท ศาสนา
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สมรสกับพระนางแคทเธอรีนแห่งอารากอน เมื่อปี 1509 เป็นเวลาหลายปีที่ทรงอภิเษกสมรสแต่พระราชินีก็ไม่ได้กำเนิดองค์รัชทายาทที่เป็นองค์ชายให้แก่พระองค์ ทรงมีพระธิดาเพียงพระองค์เดียว คือ เจ้าหญิงแมรี่ (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 )
ซึ่งเป็นสิ่งที่เฮนรี่กังวลพระทัยเป็นที่สุ เกรงว่าบัลลังก์ของพระองค์จะไร้รัชทายาท และอนาคตราชวงศ์ทิวดอร์อาจต้องเผชิญกับปัญหา
พระองค์ต้องการที่จะหย่ากับราชินีแคทเธอรีน แต่ในการหย่าของกษัตริย์สมัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องได้รับการยินยอมจากสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกเสียก่อน
ซึ่งสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 ก็ปฏิเสธพระองค์ตลอด ด้วยแรงกดดันจากจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ผู้มีศักดิ์เป็นพระนัดดาของพระนางแคทเธอรีน
ส่วนแอนน์ก็เห็นโอกาสในความหลงใหลของเฮนรี่ นางตั้งมั่นว่าจะยอมจำนนต่ออ้อมกอดของพระองค์ก็ต่อเมื่อได้เป็นราชินีเท่านั้น และนางก็ได้เริ่มเข้ามาอยู่เคียงข้างพระองค์พื้นที่ของคู่คิดคู่ใจ หากแต่ยังไม่ได้อยู่บนเตียงของกษัตริย์
ด้วยเหตุนี้แอนน์ โบลีนจึงเหมือนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ดำเนินการหย่าและปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ
Cardinal Wolsey and courtiers with, on the right, the King meeting Anne Boleyn at the Cardinal's residence, York Place : Royal Collection Trust/© Her Majesty Queen Elizabeth II 2017
ในปี ค.ศ. 1527 พระเจ้าเฮนรี่วางแผนที่จะหย่ากับราชินีของพระองค์อย่างจริงจัง โดยได้อ้างกับพระสันตะปาปาว่าการสมรสของพระองค์กับพระนางแคทเธอรีนเป็นเรื่องบาป แคทเธอรีนนั้นเคยสมรสกับเจ้าชายอาเธอร์พระเชษฐาของพระองค์มาก่อน
กษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 จึงอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าว ประกอบกับบัญญัติตามคัมภีร์ไบเบิลในส่วนพันธสัญญาเก่า (เลวีนิติ 20:21) ที่ระบุว่า “ถ้าชายใดเอาเมียของพี่ชายหรือน้องชายไปเป็นเมียตน ผู้นั้นต้องตายโดยไร้ทายาท บุคคลนั้นได้ทำเรื่องอันเป็นมลทินและสร้างความอัปยศต่อพี่หรือน้องตนเอง” ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงอ้างว่าการสมรสครั้งแรกของพระองค์ถือเป็นการขัดต่อประสงค์ของพระเจ้า จึงทำให้การสมรสในครั้งนั้นตกเป็นโมฆะ
ปี 1532 พระเจ้าเฮนรี่แต่งตั้งแอนน์ให้เป็นมาร์เชอเนสแห่งเพมโบรค ที่เป็นตำแหน่งสำหรับเชื้อพระวงค์ทิวดอร์เท่านั้น พระองค์แอบสมรสอย่างลับๆ กับแอนน์ โบลีน ช่วงปลายเดือนมกราคม 1533
และในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1533 การหย่าร้างที่ยื้ดเยื้อถึง 6 ปีก็สัมฤทธิ์ผล เหตุการณ์นี้นำไปสู่การแยกตัวจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก แล้วก่อตั้งคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England)
เปลี่ยนมานับถือนิกายโปรเตสแตนส์ ผลักให้ผู้นับถือนิกายคาทอลิกกลายเป็นพวกนอกรีต
กษัตริย์เฮนรี่ ทรงออกพระราชบัญญัติว่าด้วยพระราชอำนาจสูงสุดหรือ “Act of Supremacy” ซึ่งทำให้พระองค์มีสถานะเป็นประมุขศาสนจักรแห่งอังกฤษ
Anne Boleyn’s coronation : The Other Boleyn Girl (2008)
◽️ พระราชินีแอนน์ โบลีน
ในวันที่ 1 มิถุนายน 1533 แอนน์ โบลีน ได้เข้าพิธีสวมมงกุฎเป็นราชินี ในเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ พระนางได้รับมงกุฏเซนต์เอ็ดเวิร์ด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้สวมมงกุฎเพียงกษัตริย์เท่านั้น ไม่เคยมีราชินีองค์ไหนได้สวมมาก่อน
การสมรสครั้งนี้พระเจ้าเฮนรี่ก็ทรงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะมีโอรสมาสืบบัลลังก์ แต่ในวันที่ 7 กันยายน 1533 ราชินีแอนน์ได้มีประสูติกาล พระนางได้ให้กำเนิดพระธิดา พระเจ้าเฮนรี่ทรงให้พระนามว่า เอลิซาเบธ (ซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 )
เจ้าหญิงน้อยเอลิซาเบธทรงเป็นโปรแตสแตนต์ พระนางแอนน์ทรงหวั่นใจว่าพระธิดาอาจถูกคุกคามโดยเลดี้แมรี่ พระธิดาของพระนางแคทเธอรีนแห่งอารากอนซึ่งเป็นโรมันคาทอลิก พระเจ้าเฮนรี่จึงส่งเลดี้แมรี่ไปที่อื่นเพื่อให้พระนางแอนน์สบายพระทัย
Anne Boleyn from The Tudors (2007) actress : Natalie Dormer
ราชินีองค์ใหม่มีผู้ติดตามรับใช้มากกว่าราชินีองค์ก่อน พระนางมีคนถึง 250 คนที่คอยติดตามรับใช้ส่วนพระองค์ ตั้งแต่นักบวชไปถึงคนเลี้ยงม้า มีสตรีชั้นสูงเป็นนางสนองโอษฐ์ 60 คน พระนางแอนน์ยังจ้างนักบวชมากมายเพื่อมาเป็นที่ปรึกษาทางศาสนา
ราชินีแอนน์ โบลีน มีบทบาทมากมายในการอุปถัมภ์นิกายโปรแตสแตนส์ในอังกฤษ ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ชัยชนะของพระนางแอนน์ต่อพระนางแคทเธอรีนแห่งอารากอนผู้เป็นคาทอลิก แต่ยังมีคนที่อยู่ข้างพระนางแคทเธอรีนและมองพระนางแอนน์เป็นตัวร้ายอยู่มาก
พระนางแอนน์ยังพยายามยื่นมือเข้ามายุ่งกับการเมืองในราชสำนัก ด้วยความฉลาด เฉียบแหลมทางการเมือง และมีความคิดก้าวหน้า ทำให้พระนางเริ่มมีอิทธิพลกับราชสำนัก
ในด้านชีวิตหลังแต่งงานช่วงแรกก็ดูเป็นความรักที่มีความสุข แต่พอนานไปความสัมพันธ์ก็เริ่มตึงเครียด พระเจ้าเฮนรี่ทรงไม่ชอบที่พระนางแอนน์เข้ามามีอิทธิพลกับการเมือง การกระทำของแอนน์ที่ทำเพื่อตนเองและชอบโต้แย้งกับพระองค์
Anne Boleyn and Henry VIII : The Tudors (2007)
◽️ร่วงหล่น
หลังจากราชินีแอนน์แท้งบุตรครรภ์ที่สองในช่วงคริสต์มาสปี 1534 ความสัมพันธ์ของพระนางกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ย่ำแย่ลงอย่างมาก พระเจ้าเฮนรี่ได้มองการล้มเหลวจากการกำเนิดบุตรชายของแอนน์เป็นการทรยศต่อพระองค์
ในที่สุด ความสัมพันธ์ของเฮนรี่และแอนน์ซึ่งสร้างขึ้นจากความหลงใหลและความคาดหวัง ดูเหมือนจะกลายเป็นพิษมากขึ้น และกษัตริย์เฮนรี่ก็เริ่มออกนอกลู่ทางชีวิตสมรสของพระองค์เพื่อหาทางแก้ไขอีกครั้ง ทรงสนทนากับกับทอมัส เครนเมอร์ และ ทอมัส ครอมเวลล์ เรื่องการขับไล่ราชินีของพระองค์
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เป็นบุรุษเจ้าชู้ พระองค์มีภรรยาลับมากมายซุกซ่อนมาโดยตลอดรวมถึงแมรี่ โบลีนพี่สาวของพระนางแอนน์ด้วย
ครั้งนี้พระองค์ไปถูกใจ เจน ซีมัวร์ ซึ่งเป็นนางสนองโอฐษ์ของพระนางแอนน์ในขณะนั้น
ส่วนพระนางแอนน์ก็ไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ ทรงใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ยังคงพยายามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เหล่าข้าราชการแบ่งฝักฝ่ายเป็นสองพวกคือ "คนของพระราชา" และ "คนของพระราชินี" และได้มีการสั่งประหารศัตรูของพระนาง ผู้ซึ่งต่อต้านคริสตจักรแห่งอังกฤษ
8 มกราคม 1536 ข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระนางแคทเธอรีนแห่งอารากอนมาถึงพระเจ้าเฮนรี่และพระนางแอนน์ วันรุ่งขึ้นเฮนรี่และแอนน์ก็แต่งกายด้วยสีเหลืองที่เป็นสีแห่งความยินดีของอังกฤษ แต่เป็นสีไม่มงคลในสเปน และเฉลิมฉลองทั้งวัน
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระนางแคทเธอรีน ราชินีแอนน์พยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเลดี้แมรี่ แต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะแมรี่เชื่อข่าวลือที่ว่าการสิ้นของพระมารดาเกิดจากการวางยาพิษจากแอนน์หรือไม่ก็เฮนรี่ เนื่องจากการชันสูตรพบว่าหัวใจของแคทเธอรีนเป็นสีดำคล้ำ (แพทย์ในปัจจุบันเห็นพ้องว่านี่ไม่ใช่ผลของยาพิษ แต่เป็นโรคมะเร็งหัวใจที่หายากมาก ซึ่งการแพทย์ในตอนนั้นยังไม่ก้าวหน้าพอจะรู้สาเหตุที่แท้จริง)
ต่อมาราชินีแอนน์ทรงตั้งครรภ์อีกครั้ง เริ่มตระหนักถึงอันตรายหากพระนางไม่ได้ให้กำเนิดพระโอรส ในขณะที่พระเจ้าเฮนรี่เริ่มไปพัวพันกับนางข้าหลวง เจน ซีมัวร์
ด้านเฮนรี่มอบได้ล๊อคเก็ตรูปเหมือนของพระองค์ให้กับเจน ในขณะที่สวมล๊อคเก็ตนี้เจนได้เปิดปิดมันต่อหน้าพระราชินี นั่นทำให้ราชินีกระชากมันออกจากคอของเจน จนมือของพระนางได้เลือด
Anne’s miscarriage : The Tudors (2007)
และในอีกเดือนต่อมาพระเจ้าเฮนรี่ได้ทรงตกม้าจากการแข่งขันและบาดเจ็บหนัก เมื่อทราบข่าวพระนางแอนน์ตกใจมากจนถึงขนาดแท้งบุตร แต่บางแหล่งกล่าวว่าพระนางเปิดประตูไปเจอเจน ซีมัวร์ นั่งบนตักพระเจ้าเฮนรี่ ทำให้พระนางโกรธจัด
ไม่ว่าเพราะเหตุใด พระนางแอนน์ได้สูญเสียทารกในครรภ์ที่มีอายุครรภ์ประมาณสามเดือนครึ่ง ที่คาดว่าน่าจะเป็นเพศชาย ซึ่งเป็นความหวังที่ช่วยรักษาสถานะของพระนางไว้ได้
ขณะที่แอนน์ฟื้นจากการแท้งบุตร เฮนรี่ประกาศว่าพระองค์ถูกล่อลวงให้แต่งงานกับนางด้วยคำว่า "sortilege" ซึ่งเป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่หมายถึง "การหลอกลวง" หรือ "เวทย์มนต์คาถา"
Anne Boleyn Execution : The Tudors (2007)
◽️สิ้นรักผลักไส หมดใจตัดคอ
ในวันสุดท้ายของเดือนเมษายน ได้เริ่มมีการตั้งข้อหาและจับกุมชายมากหน้าหลายตา ที่อยู่รอบตัวราชินีแอนน์ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีที่รับใช้พระนาง ขุนนางคนสนิท แม้กระทั่งบ่าวรับใช้ของพระเจ้าเฮนรี่ ในข้อหาคบชู้กับพระนางแอนน์ และสุดท้ายก็มีการจับกุมพระอนุชาของพระนางแอนน์ จอร์จ โบลีนในข้อหาคบชู้กับสายเลือดเดียวกัน
เชื่อกันว่าบุคลที่เป็นหลักในการหนุนข้อกล่าวหาพระนางแอนน์ คือ ทอมัส ครอมเวลล์ ผู้ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับแอนน์ เนื่องจากขัดผลประโยชน์กันในเรื่องของการเมืองและศาสนา และพระนางเป็นภัยอันตรายแก่เขา แต่ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การบงการของพระเจ้าเฮนรี่นั่นเอง
วันที่ 2 พฤษภาคม 1536 พระนางแอนน์ได้ถูกจับกุมและส่งไปหอคอยแห่งลอนดอน นักโทษคนอื่นได้รับการปลดปล่อยเหลือแต่พระนางแอนน์และจอร์จ โบลีน 3 วันต่อมาราชินีได้รับโทษจากข้อหาว่า คบชู้สู่ชายกับสายเลือดเดียวกัน และทรงเป็นผู้ทรยศต่อกษัตริย์
พระเจ้าเฮนรี่แสดง 'ความเมตตา' เล็กๆน้อยๆ ด้วยการทำตามคำขอของพระนางแอนน์เป็นครั้งสุดท้าย โดยได้ทรงจ่ายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์นำเพชฌฆาตฝีมือดีจากฝรั่งเศสมาทำการประหารโดยใช้ดาบตามธรรมเนียมฝรั่งเศส เนื่องจากพระนางแอนน์กลัวการประหารด้วยขวานทื่อๆตามธรรมเนียมอังกฤษ
The execution of Anne Boleyn, on 19 May, 1536, was conducted by a French swordsman to limit her pain. Photograph: Bettmann Archive
วันที่ 19 พฤษภาคม พระนางแอนน์ โบลีนได้คลุมผมด้วยผ้าลินินสีขาวตามธรรมเนียมฝรั่งเศส ทรงมีท่าทีที่ผ่อนคลายและสงบ
พระนางได้สวดครั้งสุดท้ายว่า "แด่พระเยซูคริสต์ ข้ายินดีที่จะมอบวิญญาณของข้า องค์เยซูโปรดรับวิญญาณข้า" นางสนองโอษฐ์ได้นำผ้ามาปิดตาของพระนาง
เพชรฆาตนั้นตื่นเต้นและพบว่าการประหารครั้งนี้สำเร็จยากเนื่องจากคอของพระนางแอนน์นั้นสั้น เพื่อเป็นการเบนความสนใจพระนาง เพชรฆาตได้ตะโกนเสียงดังว่า "ดาบข้าอยู่ไหน" และได้ทำการบั่นพระเศียรของพระนางโดยที่พระนางไม่รู้ตัวว่าดาบมาเมื่อไร การประหารนี้เป็นการประหารอย่างรวดเร็วและเป็นการประหารในดาบเดียว
จบสิ้นลมหายใจของราชินีแอนน์ โบลีน ในวัย 34 ณ ทาวเวอร์กรีน หอคอยแห่งลอนดอน
Anne Boleyn's Memorial Plaque
Anne , Henry VIII and their daughter Elizabeth I : The Tudors (2007)
◽️เรื่องราวหลังความตาย
ร่างและเศียรของราชินีแอนน์ถูกฝังไว้ที่ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ แอด วินคิวลา ( Church of St Peter ad Vincula )ในหอคอยแห่งลอนดอน โดยไม่ได้สวมหน้ากาก
เจ้าหญิงเอลิซาเบธ วัยเพียง 3 ชันษา ถูกลดยศลงเป็นเลดี้เอลิซาเบธ ทิวดอร์ และกลายเป็นลูกนอกสมรสของกษัตริย์เฮนรี่ เช่นเดียวกับเลดี้แมรี่ ทิวดอร์ ธิดาของพระนางแคทเธอรีน
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สมรสกับเจน ซีมัวร์ หลังจากการประหารพระนางแอนน์เพียง 11 วัน
ในรัชสมัยของพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 ราชินีแอนน์ถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงนอกรีตที่ทำลายพระมารดาของพระองค์ และทำให้พระบิดาออกห่างจาก 'ศาสนาที่แท้จริง' ของนิกายโรมันคาทอลิก
แต่ในรัชสมัยพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 พระนางแอนน์คือผู้ทำนุบำรุงศาสนา และก่อตั้งโบสถ์แองกลิกัน
Tower of London
◽️ วิญญาณที่ยังสถิต
เรื่องราวของผีราชินีแอนน์เป็นเรื่องผีที่โด่งดังมากที่สุดในอังกฤษ และโด่งดังอันดับต้นๆของโลก วิญญาณของพระนางแอนน์ได้ปรากฏอยู่หลายที่ ผู้คนมักจะเห็นเป็นวิญญาณราชินีไร้หัว
• ที่ที่พบเจอได้บ่อยที่สุดคือหอคอยแห่งลอนดอน ที่ซึ่งเป็นที่ประหารพระนาง เรื่องราวโด่งดังเล่ากันมา ความว่า หัวหน้าทหารที่เข้าเวรวันนั้นเห็นแสงลอดออกมาจากวิหารน้อยที่ถูกล็อคอยู่ เมื่อเขาปีนขึ้นไปเพื่อจะตรวจดู เขาพบกับฉากที่ไม่น่าเชื่อ ขบวนอัศวินและสุภาพสตรีในชุดชนชั้นสูงสมัยโบราณเดินไปมา ผู้ที่โดดเด่นที่สุดท่ามกลางพวกเขาคือสตรีสง่างามผู้หนึ่ง ซึ่งเขาไม่เห็นใบหน้า แต่จำลักษณะได้ว่าเป็นราชินีแอนน์จากที่เคยเห็นในภาพ ก่อนที่ขบวนคนทั้งหมดจะหายไป
• อีกครั้งหนึ่งที่หอคอยแห่งลอนดอน ปี 1864 ทหารที่เข้าเวรในคืนนั้น พบเจอกับเงาร่างสตรีสีขาว เขาพยายามตะโกนถามว่าเธอเป็นใครแต่ก็ไร้การตอบรับ เขาได้ไสปลายปืนเข้าไปหวังสัมผัสตัวเธอ ปรากฎว่าปลายกระบอกปืนของเขาทะลุร่างสุภาพสตรีสีขาวพร้อมร่างนั่นพุ่งเข้ามาหาเขา จนเขาได้สลบไป เหตุการณ์ทั้งหมดถูกเห็นโดยหัวหน้าของเขา ที่เห็นทหารนายนั้นพูดคุยกับอากาศและโวยวายสุดท้ายก็ล้มพับ เชื่อว่าร่างนั้นคือพระนางแอนน์
• ทุกคริสมาสต์ผีของพระนางแอนน์จะไปปรากฏตัวที่ปราสาทเฮเวอร์ซึ่งเป็นบ้านสมัยเด็ก มีการกล่าวว่าพบพระนางที่ใต้ต้นโอ๊คใหญ่ที่เคยพลอดรักกับพระเจ้าเฮนรี่ และยังชอบเดินข้ามสะพานที่ทอดผ่านแม่น้ำอีเดนในบริเวณปราสาท
• มีคนเห็นผีราชินีแอนน์ที่ราชวังวินด์เซอร์ เรื่องผีราชวังวินเซอร์มีเรื่องหนึ่งอ้างว่าเห็นวิญญาณของพระนางแอนน์ โบลีน วิ่งและกรีดร้องไปตามทางเดิน บางครั้งก็ถือศีรษะไว้
• ผีพระนางแอนน์เคยปรากฏแบบไร้หัวที่แฮมป์ตันคอร์ทโดยสวมชุดสีฟ้า
• ในรอชฟอร์ดฮอลล์ที่ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่พบแอนน์ครั้งแรกและเป็นพบกันลับๆของทั้งสอง ก็มีรายงานพผพีพระนางแอนน์เดินเตร่ไปรอบๆเช่นกัน
• ฉากสยดสยองถูกเล่นโดยผีพระนางแอนน์ทุกวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบวันตายของพระนาง พระนางนั่งบนม้าหรูหราจับศีรษะไว้บนตัก รถถูกบังคับโดยคนขับไร้หัว และลากโดยม้าสี่ตัวที่ไร้หัว มายังบลิกกลิ้งฮอลล์ในนอร์ทฟอล์คที่เชื่อว่าเป็นบ้านเกิดพระนาง
และยังมีคนพบวิญญาณพระนางอีกมากมาย เหตุใดวิญญาณของราชินีแอนน์ยังคงไม่จากไป ความแค้นใจ ความอยุติธรรม หรือห่วง
หรือแท้จริงแล้ววิญญาณของแอนน์ได้สู่ความสงบสุขตั้งนานแล้ว แต่ที่คนมักจะเห็นนั่นคือภาพติดตาติดในความทรงจำของราชินีผู้เป็นที่จดจำ เนื่องจากตัวตนของพระนางส่งผลกระทบต่อสิ่งต่างๆมากมายในอังกฤษ ทุกๆที่ที่พระนางไปมักจะมีภาพจำตามติดเสมอ นั่นทำให้ผู้คนที่เคยพบหรือตระหนักในการมีตัวตนของพระนางแอนน์ ได้สร้างภาพเหล่านั้นขึ้นมา
Anne Boleyn : The Other Boleyn Girl (2008)
🔶 more info
🔹 ภาพเหมือนของราชินีแอนน์ส่วนใหญ่ถูกทำลายและกำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายหลังการตัดสินโทษประหารของพระนาง ภาพวาดอันมีชื่อเสียงของพระนางล้วนเป็นฝีมือของจิตรกรรุ่นหลังที่ไม่เคยเห็นพระนางจริงๆเลยซักครั้ง ตามความเห็นของนักประวัติศาสตร์กล่าวว่าภาพที่น่าจะใกล้เคียงราชินีแอนน์มากที่สุดคือ ภาพจากแหวนล๊อคเก็ตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 ผู้เป็นพระธิดา
🔹 ร่างของพระนางแอนน์ได้มีการระบุชื่อในระหว่างการปฏิสังขรณ์โบสถ์ในสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และได้มีการสวมหน้ากากให้พระศพของพระนาง
🔹 ปัจจุบันหลังจากการสวรรคตของพระนางแอนน์ไปเกือบ 500 ปี มีคนเสนอให้รัฐบาลอังกฤษยกโทษให้พระนางแอนน์อย่างเป็นทางการเพื่อจะได้เคลื่อนย้ายพระบรมศพไปยังมหาวิหารเวสมินเตอร์เหมือนพระราชวงศ์อื่นๆแต่ได้รับการปฏิเสธจากรัฐบาล อ้างว่าคดีนี้เก่าจนไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าพระนางเป็นผู้บริสุทธิ์
🔹มีภาพเหมือนของ แอนน์ โบลีน แขวนในฮอกวอตส์ !
ในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์กล่าวว่าแอนน์เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากผู้วิเศษแต่ไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ (สควิบ) นางถูกกล่าวหาและลงโทษจากพวกมักเกิ้ลในข้อหาใช้เวทย์มนต์ลวงกษัตริย์มักเกิ้ล ที่โรงเรียนฮอกวอตส์ได้แขวนภาพเหมือนของนางไว้ที่บันไดทางเชื่อมชั้นสอง
ภาพวาด แอนน์ โบลีน ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ (2001)
🔹 มีเพลงเกี่ยวกับวิญญาณแค้นของราชินีแอนน์ ที่ตามหลอกหลอนพระเจ้าเฮนรี่
ชื่อเพลงว่า With Her Head Tucked Underneath Her Arm แต่งโดยศิลปินยุค90 และถูกนำมาขับร้องใหม่โดยศิลปินหลายคน ( version The Kingston Trio สนุกดี )
🔹หากใครสนใจสามารถเข้าไปอ่านจดหมายรักที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ส่งถึงแอนน์ โบลีน ได้ที่นี่
‼️บทความนี้ถูกรวบรวมและแปลขึ้นมาจากหลายบทความโดยไม่มีผลกำไร ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หากต้องการนำบทความไปเผยแพร่ต่อกรุณาให้เครดิตด้วย ขอบคุณค่ะ
** Reference
โฆษณา