3 ก.ค. 2021 เวลา 13:21 • สุขภาพ
เอาแบบที่ไม่ใช่พวกโลกสวย เอา worst case scenario มา เผื่อไว้ด้วยเลยก็ 2 ปีและไม่เกิน 5 ปี ในสองกรณีนี้เท่านั้น..แทบไม่มีโอกาสเป็นอย่างอื่น
1. เมื่อฉีดวัคซีนได้มากพอ ถ้าใช้วัคซีนคุณภาพต่ำก็ต้องครบสองเข็มทุกคนแล้วฉีดซ้ำเข็มสามสี่อีกครึ่งของประเทศอีกครั้ง..คิดเอาแบบไม่ประมาทถ้าเราใช้วัคซีนที่ได้ผล 50/50 หมายความว่าฉีดไปครบทุกคนในประเทศก็มีคนที่ไม่ป่วยแค่ครึ่งหนึ่ง..ในทางระบาดวิทยาเขาคำนวณกันไว้ว่าต้องมีคนรับเชื้อแล้วไม่ติดเชื้อ(หรือมีภูมิคุ้มกัน)ราว ๆ 70%
ในกรณีมีวัคซีนคุณภาพสูงเข้ามาเยอะ..จำนวนการฉีดครบคนสัก 80-90 % ของคนทั้งประเทศก็จบแล้ว
2. ติดเชื้อไป ป่วยไป ตายไปตามธรรมชาติก็ต้องมีคนติดเชื้อราว ๆ 50 ล้านคน(ราว ๆ 70%)มันก็จะเลิกระบาด..เพราะคนที่เคยติดเชื้อแล้วไม่ตายโอกาสติดอีกน้อยมาก ๆ ถึงติดซ้ำก็ยังมีโอกาสรอดมาก ๆ เช่นเดิม..กรณีนี้คนตายก็จะแค่หลักแสนแย่สุดไม่เกิน 5 แสน เพราะอัตราการตายที่ผ่าน ๆ มามันก็ไม่เกินนี้
1
คิดในเชิงบวก..ยังไง ๆ โรคระบาดนี้มันจบแน่ ๆ ไม่ว่าจะตามข้อ 1 หรือข้อ 2 ถ้าเรายังไม่ป่วยก็ระวังตัว รักษาสุขภาพให้ดี คนที่สุขภาพดีติดแล้วเขาก็ไม่ค่อยตายกัน ส่วนคนที่อ่อนแอ คนสูงอายุ คนมีโรคประจำตัวโอกาสป่วยหนัก โอกาสตายก็สูงมากตามแต่ระดับอายุและสุขภาพของตนเอง
คิดแบบปลง ๆ โรคระบาดมันมาเก็บกวาดคนอ่อนแอ คนป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุ กับคนหนุ่มสาวและเด็ก ๆ ที่โชคร้าย..กำจัดออกไปเพื่อให้คนแข็งแรงหรือโชคดีอยู่ต่อโดยมีภาระแบกรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรังน้อยลง
1
ไม่เกิน 5 ปีมันจบแน่นอนไม่ว่าจะจบแบบไหน ยังไง ๆ สังคมโดยรวมมันไม่จบไปพร้อมโรคระบาดครั้งนี้..ตอนนี้แค่รักษาตัวให้รอดพยายามไม่ให้ตนเองคือจุดอ่อนที่จะถูกกำจัดไปในรอบนี้
โฆษณา